บ้านโมเดิร์นชั้นเดียว ที่ยกสูงให้ดูโปร่งตาเหมือนอยู่ชั้น 2
บ้านโมเดิร์นชั้นเดียว ที่ออกแบบยกสูงให้เหมือนอยู่ชั้น 2 เพื่อเปิดมุมมองให้โล่งสบายตา เห็นถึงท้องฟ้าด้านบน ส่วนด้านล่างตกแต่งเป็นสวนสวย พร้อมพื้นที่ใช้งานอเนกประสงค์เหมือนใต้ถุนบ้านไทย
Design Directory
สถาปนิก : AAd Ayutt and Associates Design
ด้วยอาชีพที่เป็นคุณหมอนั้น ทำให้เจ้าของบ้านไม่ค่อยมีวันหยุดแบบทั่วไปเหมือนคนอื่นๆ อีกทั้งช่วงเวลาที่สามารถพักร้อนได้ก็มักไม่ตรงกับของลูกและภรรยา คุณหมอต้อ-จิรพล สุโภคเวช จึงเกิดไอเดียอยากเปลี่ยนบ้านกลางเมืองของตัวเองให้มีบรรยากาศเหมือนบ้านพักตากอากาศ ในรูปแบบของ บ้านโมเดิร์นชั้นเดียว เพื่อให้ทุกวันในบ้านเป็นเหมือนวันพักผ่อนที่สามารถเติมพลังชีวิตจากธรรมชาติแบบพร้อมหน้าพร้อมตากับคนในครอบครัวได้อย่างเต็มที่
เริ่มต้นความคิดด้วยการซื้อที่ดินข้างบ้านเพื่อต่อเติมให้เป็นสระว่ายน้ำส่วนตัว แต่เมื่อลงทุนและดำเนินการไปเกินครึ่งทางแล้วกลับรู้สึกว่ายังไม่ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริง เพราะเพียงแค่มีสระว่ายน้ำอย่างเดียวแต่ช่วงเวลาส่วนใหญ่ก็ยังคงต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ม่านบังแดดที่ปิดกั้นมุมมองอยู่เหมือนเดิม จึงตัดสินใจรื้อสระว่ายน้ำที่ต่อเติมนั้นทิ้ง แล้วติดต่อให้ คุณอาร์ต-อยุทธ์ มหาโสม สถาปนิกจากบริษัทเอ เอ ดี ดีไซน์ จำกัด มาช่วยออกแบบใหม่ทั้งหมด
บ้านพูลวิลล่ากลางเมือง ในรูปแบบ บ้านโมเดิร์นชั้นเดียว
เพราะไม่อยากใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้านภายใต้ม่านบังแดดตลอดเวลา สิ่งที่เจ้าของบ้านอยากได้มากที่สุดจึงเป็นธรรมชาติรอบตัวที่สามารถออกมาใช้ชีวิตภายนอกได้ มีความเป็นส่วนตัว พร้อมกับสระว่ายน้ำในแบบพูลวิลล่า แม้ว่าบริบทของบ้านจะไม่มีภูเขาหรือทะเล แต่ก็ยังมีต้นไม้และท้องฟ้าที่ยังสร้างมุมมองของความผ่อนคลายได้
สิ่งนี้กลายเป็นโจทย์ที่ท้าทาย โดยคุณอาร์ตผู้เป็นสถาปนิกได้บริหารที่ดินราว 120 ตารางวานี้ ด้วยการออกแบบเป็นบ้านชั้นเดียวขนาด 1 ห้องนอนพร้อมสระว่ายน้ำ แต่ยกตัวบ้านให้ลอยสูงขึ้นไปให้เท่ากับชั้น 2 ของบ้านเดิม แล้วปรับพื้นที่ด้านล่างให้เป็นเหมือนใต้ถุนที่ใช้งานได้อเนกประสงค์ กับผนังที่มีช่องเปิดให้แสงและลมผ่านได้
“ผมยกบ้านขึ้นสูงเพื่อจะได้ให้คนในบ้านมองออกไปเห็นท้องฟ้าและแนวต้นไม้ของเพื่อนบ้าน โดยไม่เสียความเป็นส่วนตัว ได้ประโยชน์มากกว่าอยู่ติดดินแล้วเปิดออกไปเห็นแต่ผนังเพื่อนบ้าน การเข้าสู่ตัวบ้านก็จะสร้างมุมมองแบบ Worm’s Eye View ที่คนต้องแหงนหน้าขึ้นมาถึงจะเห็นตัวบ้าน แล้วสร้างแลนด์สเคปให้เป็นวิวในบ้านแทน มีสระว่ายน้ำเปิดโล่งมองเห็นบ้านหลังเก่าที่เราเปลี่ยนมาใช้กระจกใสสีดำช่วยสะท้อนต้นไม้โดยรอบในระดับ Normal Eye View และยังขอยืมมุมมองของจามจุรีต้นใหญ่ข้างบ้านได้ด้วย ขณะเดียวกันก็ยังได้ชื่นชมความงามของบ้านหลังใหม่ที่โดดเด่นด้วยฟาซาดอะลูมิเนียมสะท้อนธรรมชาติรอบตัว ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นพูลวิลล่ากว้างๆ ที่มีธรรมชาติโอบล้อมอยู่ โดยออกแบบทางเดินกับบันไดให้เป็นที่นั่งเล่นได้แบบไม่ต้องมีเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว และเมื่อมองลงไปก็ยังเห็นสวนที่อยู่ข้างล่างได้ด้วยมุม Bird’s Eye View”
พื้นที่สีเขียวและการรับรู้ผ่านผัสสะทั้งห้า
การสร้างบ้านให้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติโดยคงความเป็นส่วนตัวไว้ไม่จำเป็นต้องทำเป็นบ้านล้อมคอร์ตเพียงอย่างเดียว คุณอาร์ตบอกว่าถ้าทำอย่างนั้นจะเหลือพื้นที่ให้ต้นไม้ได้น้อย และอยากก้าวข้ามขีดจำกัดการออกแบบโดยการสร้างพื้นที่สีเขียวให้บ้านได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์
“จากทางเข้าซึ่งผ่านโรงจอดรถหน้าบ้าน ผมออกแบบให้เป็นสีดำสนิทไม่ติดไฟดาวน์ไลต์ มีเพียงแสงจากภายในบ้านส่องผ่านช่องแสงเล็กๆ ออกมาเพื่อให้ตาได้ปรับการรับรู้ก่อนจะเปิดเข้าไปสู่พื้นที่สีเขียวซึ่งตอนนี้ตาจะเริ่มรับรู้ถึงสีเขียวธรรมชาติได้ชัดเจนมากขึ้น เราทำทางเดินผนังดินอัดที่เป็นกระบะปลูกต้นไม้โดยยกระนาบให้สูงแบบที่เอามือแตะดินแตะใบไม้และได้กลิ่นของธรรมชาติไปได้ตลอดทาง เพิ่มความน่าสนใจด้วยรูปทรงที่โค้งคดเคี้ยวให้ดูพลิ้วไหว บางมุมก็ปรับเป็นที่นั่งหรือนอนเล่นได้ ได้ยินเสียงนกเสียงน้ำ แต่ยังมองไม่เห็นตัวสระว่ายน้ำ มีลมพัดผ่านใบไม้ไหว เกิดเงาวิบวับจากแสงแดด สร้างการรับรู้ผ่านประสาททั้งรูป กลิ่น เสียง สัมผัส ส่วนรสก็มาจากพืชผักสวนครัวที่ออกแบบกระบะปลูกไว้ให้ นอกจากนี้ตัวแลนด์สเคปเต็มพื้นที่ชั้นล่างนี้ก็มีส่วนช่วยให้รู้สึกว่าพื้นที่ในบ้านกว้างขึ้นด้วย”
สว่างภายนอก สงบภายใน
ปลายทางของแลนด์สเคปชั้นล่างนี้เองที่นำไปสู่บันไดทางขึ้นบ้านชั้นเดียวที่มองไม่เห็นในตอนแรกไปเพราะยกระดับขึ้นไปไว้อยู่ด้านบน จนเมื่อแหงนหน้าขึ้นจึงเห็นตัวบ้านรูปทรงเหลี่ยมเท่ๆ คล้ายประติมากรรมสีเงินวาวเพราะกรุผนังด้วยวัสดุอะลูมิเนียมพับไปมาแบบสามเหลี่ยมทำให้เกิดช่องว่างสำหรับลมพัดผ่านผิวผนังได้พร้อมกับสะท้อนแสงเงารอบตัวให้เกิดมิติที่แตกต่างกันไปในแต่ละเวลาและตอบสนองแต่ละฤดูกาลได้อย่างน่าสนใจ
“จากผนังสีเงินวาวด้านนอก พอเข้ามาในบ้านแล้วเหมือนเป็นอีกโลกเลย เพราะตกแต่งด้วยสีดำเกือบทั้งหมด ทำให้เกิดความสงบและอยู่ในสภาวะน่าสบาย ที่ไม่เลือกใช้สีขาวสว่างในสเปซกว้างๆ นี้ก็เพื่อลดความจ้าของแสงลง ร่างกายก็จะรับรู้ได้ถึงความผ่อนคลาย ในบ้านเลยไม่ต้องติดม่าน โดยที่ยังมีผนังกระจกเปิดเป็นช่องให้มองออกไปเห็นท้องฟ้าและก้อนเมฆได้ เบรกจากมุมมองพื้นที่สวนสีเขียวด้านนอกที่สัมผัสมาแล้วอย่างเต็มอิ่ม นี่คือพลังของวัสดุและแสงที่เราใช้กับตัวสถาปัตยกรรม ขณะที่ห้องนอนเป็นสีขาวเพราะเน้นใช้งานในเวลากลางคืนและเพื่อให้กระจายแสงช่วยพรางความเป็นส่วนตัวของห้องน้ำที่กั้นด้วยกระจกใสสีดำที่ซ้อนกันหลายชั้นจากพื้นถึงเพดาน ด้วยแสงภายนอกที่สว่างกว่าจะทำให้มองไม่เห็นห้องน้ำที่มืดกว่าได้ ขณะที่ผนังกระจกยังเปิดให้มองผ่านออกไปเห็นสระว่ายน้ำด้านนอกได้จึงไม่จำเป็นต้องติดม่านกั้นที่ผนังห้องน้ำเลย”
ความสุขที่ไม่ต้องปิด
เหนือสิ่งอื่นใดก็คงต้องบอกว่าพลังของสถาปัตยกรรมทั้งหมดนี้ทำให้เจ้าของบ้านรู้สึกตกหลุมรักบ้านของตัวเองได้อย่างมากมายในทุกมุมและทุกช่วงเวลา ตามที่คุณต้อและคุณดี – วันดี ตันเตชะสา ผู้เป็นเจ้าของบ้านบอกถึงความรู้สึกไว้ว่า
“ไม่คิดเลยว่าบ้านจะให้ความสุขกับเราได้มากมายเหนือความคาดหมายขนาดนี้ ตั้งแต่ตอนที่บ้านยังสร้างไม่เสร็จ แค่ได้มานั่งตรงบันไดเฉยๆ ก็รู้สึกดีแล้ว และยิ่งได้มาใช้ชีวิตอยู่เราก็ยิ่งเข้าใจในสิ่งที่สถาปนิกออกแบบมากขึ้นในทุกๆ มุม มันเป็นเรื่องของสุนทรียะและรสนิยมส่วนตัว ที่พวกเราชอบมากเป็นพิเศษก็คือการได้มองหามุมสวยแปลกใหม่ตามจุดต่างๆ ของบ้าน จากแสงธรรมชาติ แสงไฟกลางคืน หรืองานศิลปะในบ้าน แต่ละวันให้ความรู้สึกไม่เหมือนกันเลย มันมีคุณค่าให้เราอยากรอคอยดูความแตกต่างในแต่ละวัน และยังเป็นโลกที่เราไม่ต้องอยู่ใต้ผ้าม่าน แต่สามารถมองเห็นต้นไม้ สัมผัสถึงลม ได้ยินเสียงน้ำและเสียงนก เหมือนธรรมชาติคอยต้อนรับเรากลับบ้านเสมอ ตั้งแต่มีบ้านหลังนี้เราก็ไม่ต้องไปเที่ยวที่ไหนอีกเลย”
เจ้าของ : คุณจิรพล สุโภคเวช และคุณวันดี ตันเตชะสา
สถาปนิก – มัณฑนากร – ภูมิสถาปนิก : บริษัทเอ เอ ดี ดีไซน์ จำกัด และ DIFF โดยคุณอยุทธ์ มหาโสม
เรื่อง : ภัทรสิริ โชติพงศ์สันติ์
ภาพ : สิทธิศักดิ์ น้ำคำ
สไตล์ : Suntreeya