รีโนเวตตึกแถวเก่า เป็นบ้านแสนสงบกลางกรุง - บ้านและสวน
รีโนเวตตึกแถวเก่า

รีโนเวตตึกแถวเก่า เป็นบ้านแสนสงบกลางกรุง

รีโนเวตตึกแถวเก่า งบจำกัดโดยใช้พื้นที่ที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า ภายใต้ขอบเขตกฎหมายพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร เก็บโครงสร้างหลัก และปรับปรุงพื้นที่ให้อาคารแห่งนี้กลับมามีชีวิตอีกครั้งในพื้นที่เดิม

รีโนเวตตึกแถวเก่า
สวนคอร์ต
เมื่อเข้ามาภายในบ้านจะมองเห็นสวนเล็กๆในคอร์ตหลังบ้านซึ่งอยู่ด้านหลังประตูเหล็กเจาะรูสีดำ สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายเหมาะแก่การพักผ่อน
ประตูเหล็ก
คอร์ต
บริเวณคอร์ตหลังบ้านออกแบบให้ต้นไม้ได้รับแสงเป็นอย่างดี และในส่วนเฉลียงของชั้น 2 ยังสามารถนั่งพักผ่อนชมวิวสวนได้อย่างร่มรื่นโดยไม่มีแสงแดดพาดถึงอีกด้วย

การเริ่มต้น รีโนเวตตึกแถวเก่า อายุกว่า 40 ปี หลังนี้ของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชมชน ฟูสินไพบูลย์ เจ้าของตึกแถวแห่งนี้ เริ่มต้นด้วยแนวคิด “เรียบง่าย แต่ได้มาก” ด้วยความตั้งใจที่จะรีโนเวตตึกนี้โดยการควบคุมเรื่องระยะเวลาและราคาค่าก่อสร้าง จึงเริ่มจากการศึกษาโครงสร้างอาคารและปรับปรุงอาคารในขอบเขตของกฎหมายพระราชบัญญัติควบคุมอาคารที่เกี่ยวข้องกับการรีโนเวตบ้านเก่า โดยตั้งเป้าให้อาคารเป็นการรีโนเวตที่ไม่เข้าข่ายต้องขออนุญาตดัดแปลงอาคาร เพื่อไม่ให้ยุ่งยากและซับซ้อน ให้อยู่ในขอบเขตของการซ่อมแซม โดยไม่ปรับเปลี่ยนโครงสร้างหลักของอาคาร ใช้วัสดุเดิมให้มากที่สุด ต่อเติมโดยไม่เพิ่มน้ำหนักให้โครงสร้างเกินร้อยละ 10 และไม่เพิ่มหรือลดเสาคานเดิมของอาคาร 

ทั้งนี้เริ่มด้วยการจัดการพื้นที่ภายในของตึกแถวตามระยะของช่วงเสาทั้งสามช่วง ช่วงละ 4 เมตร เก็บบางส่วนไว้และเปลี่ยนบางส่วน ตำแหน่งบันไดอยู่ที่เดิม เสาช่วงแรกถึงช่วงกลางจะเป็นพื้นที่ใช้งานหลักของอาคาร ทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น พื้นที่ทำงาน และช่วงเสาด้านหลังจะใช้เป็นห้องน้ำ เพื่อสะดวกในการต่อท่อน้ำทิ้งไปด้านหลังซึ่งเป็นส่วนห้องเครื่องและงานระบบต่างๆ ส่วนหลังบ้านเป็นคอร์ตต้นไม้เปิดสู่ท้องฟ้า พื้นที่ทั้งหมดออกแบบตามหลักสถาปัตยกรรมเขตร้อนชื้นให้พื้นที่ภายในมีความโปร่ง โล่ง สบาย ได้รับแสงธรรมชาติและระบายอากาศได้ดีแถมยังมีสวนดาดฟ้าไว้นั่งเล่นได้อีกด้วย

กลิ่นอายเดิม เพิ่มเติมความโปร่งโล่ง

เมื่อเดินเข้ามาในบ้านจะเป็นพื้นที่จอดรถด้านล่าง มองเข้าไปตามแนวจุดนำสายตาทางขวาจะมองเห็นคอร์ตสวนต้นไม้หลังบ้าน ซึ่งซ่อนตัวอยู่ด้านหลังบานประตูเหล็กเจาะรูสีดำที่ช่วยสร้างความรู้สึกสดชื่นเมื่อแรกเห็น ส่วนทางซ้ายจะเป็นส่วนของงานระบบ ห้องเครื่อง ห้องเก็บของ ซึ่งจัดวางอย่างเรียบร้อย

บันไดที่เป็นทางเดินนำขึ้นไปสู่ชั้นบนของอาคาร คือบันไดคอนกรีตทำผิวหินขัดสีส้มตัดเทาซึ่งเป็นหนึ่งในโครงสร้างเดิมที่เก็บเอาไว้ มีการทำความสะอาดและขัดให้ดูเหมือนใหม่ ราวบันไดเป็นราวเหล็กเดิมทาสีส้มให้เข้ากับสีเดิมของหินขัด สร้างเอกลักษณ์และคงไว้ซึ่งกลิ่นอายของอาคารเดิม

บันไดเหล็ก
บันไดทางขึ้นชั้น 2-4 เปลี่ยนให้เป็นบันไดเหล็กไม่มีลูกตั้ง เพื่อให้ลมจากหน้าต่างบานกระทุ้งใหม่ด้านหลังบ้านไหลผ่านได้ ลูกกรงเหล็กดัดจากหน้าต่างเดิมถูกนำ มาดัดแปลงเป็นราวบันไดใหม่บางส่วน
ราวบันได
เหล็กดัดหน้าต่างเดิมนำมาทำเป็นราวบันได ปรับปรุงให้ดูเหมือนใหม่ด้วยการทาสีส้มเข้ากับทั้งบันไดหินขัดเดิมและบันไดเหล็กใหม่ สร้างเอกลักษณ์ใหม่จากสิ่งที่มีอยู่เดิม
พื้นลายหินขัด
ลายหินขัดสีส้มเทา สะท้อนเอกลักษณ์เดิมของตึกเก่าแห่งนี้ ขัดและทำความสะอาดให้ดูเหมือนใหม่ยิ่งขึ้น
พื้นลายหินขัด
หินขัดสีส้มตัดเทาของบันไดเดิมถูกเก็บรักษาไว้ ราวจับบันไดเดิมและบันไดเหล็กใหม่ทาสีส้มเข้ากับหินขัดเดิม

ชั้น 2 ในส่วนด้านหน้าจะเป็นพื้นที่สตูดิโอทำงานขนาดย่อมของเจ้าของบ้าน สามารถรองรับผู้ใช้งานได้ 3-4 คน กั้นพื้นที่ระหว่างบันไดกับห้องทำงานด้วยบานเลื่อนกระจกหน้าต่าง โดยบานเลื่อนมีความหนาเป็นพิเศษเพื่อกันเสียงรบกวนจากภายนอก พื้นที่ภายในจัดวางโต๊ะยาวเหมาะแก่การทำงาน ชั้นหนังสือที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบ ด้วยระยะฝ้าที่ค่อนข้างเตี้ยตามโครงสร้างเดิมของตึก แต่ต้องการให้พื้นที่ภายในโล่งและโปร่งมากขึ้น จึงใช้ระบบแอร์ One way ฝังในฝ้า เพื่อซ่อนเครื่องปรับอากาศ ช่วยให้ห้องโล่งมากยิ่งขึ้น หมดปัญหาเรื่องความอึดอัดของพื้นที่ภายใน ห้องช่วงด้านหลังทางซ้ายออกแบบให้เป็นห้องแพนทรี่ พื้นที่เก็บของ และชั้นวางรองเท้าที่มีความมินิมัล ด้านหลังของชั้น 2 นี้มีเฉลียงที่สามารถเดินออกไปนั่งพักผ่อนชมวิวต้นไม้ด้านล่างได้ โดยตั้งแต่ชั้นนี้ได้มีการเปลี่ยนบันไดไม้เดิมที่ทึบตันและหมดสภาพเป็นบันไดโครงเหล็กทาสีส้มไม่มีลูกตั้ง เพื่อให้อากาศไหลผ่านและแสงภายนอกเข้ามาในบ้านได้ ช่วยให้การระบายอากาศดีขึ้น ทั้งยังช่วยให้ภายในบ้านสว่างขึ้น ไม่ต้องเปิดไฟในช่วงเวลากลางวัน

ห้องทำงาน
ห้องทำงาน
ห้องทำงานหรือสตูดิโอขนาดย่อมบนชั้น 2 ใช้หน้าต่างบานเลื่อนที่กระจกมีความหนาเป็นพิเศษเพื่อกันเสียงรบกวนจากภายนอก การวางโต๊ะทำงานและชั้นหนังสือถูกวางเป็นสัดส่วน ทำให้ห้องดูไม่อึดอัดและโล่งยิ่งขึ้น
บริเวณโถงบันไดบนชั้น 2 ผนังด้านหลังถูกทุบออกเปลี่ยนเป็นประตูกระจกซึ่งสามารถรับแสงธรรมชาติได้และมีระเบียงด้านนอกเชื่อมต่อกับคอร์ตต้นไม้ที่ชั้นล่าง
เครื่องปรับอากาศฝังฝ้าแบบ One way ช่วยทำให้ห้องดูไม่รก เหมาะกับห้องที่มีข้อจำกัดของขนาดพื้นที่และความสูงภายใน

ในส่วนของชั้น 3 เป็นห้องนอนของเจ้าของบ้านตกแต่งด้วยสไตล์มินิมัล ซึ่งต้องการความเป็นส่วนตัวและความสงบมากยิ่งขึ้น จึงออกแบบให้ระเบียงด้านหน้าทำหน้าที่เป็นผนังสองชั้นเพื่อตัดเสียงรบกวนจากภายนอก โดยด้านนอกสุดเป็นหน้าต่างบานเลื่อนกระจกเพื่อให้ได้รับแสงธรรมชาติและเปิดระบายอากาศได้และชั้นถัดมาเป็นประตูบานเลื่อนกระจกซึ่งสามารถเปิดออกไปที่ระเบียงได้ ในส่วนช่วงกลางจะเป็นพื้นที่ส่วนแต่งตัวที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำซึ่งมีการใช้ผนังกระจกฝ้า เพื่อรับแสงธรรมชาติจากหลังบ้าน

ห้องนอน
ห้องนอนมีความเรียบง่าย สร้างความเป็นส่วนตัวและความสงบมากยิ่งขึ้นด้วยการออกแบบให้ฝั่งระเบียงด้านหน้ามีหน้าต่างและประตูบานเลื่อนกระจกรวมสองชั้น เพื่อตัดเสียงรบกวนจากภายนอก
ห้องน้ำ
ห้องน้ำตกแต่งโทนสีขาว ใช้หน้าต่างกระจกฝ้าบานกระทุ้ง ทำให้ห้องได้รับแสงธรรมชาติและระบายอากาศได้ดียิ่งขึ้น

อยู่อย่างคอนโดบนดาดฟ้า

ในส่วนของชั้น 4 เดิมเป็นห้องส่วนหนึ่งและดาดฟ้าส่วนหนึ่ง เจ้าของบ้านต้องการใช้พื้นที่นี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดพร้อมทั้งเล็งเห็นว่าพื้นที่ในส่วนนี้อยู่ด้านบนสุด สามารถมองเห็นวิวที่ดีกว่าชั้นล่างๆ ที่รายล้อมด้วยตึกแถวความสูงพอๆ กัน รวมถึงมีความเงียบสงบเพราะห่างไกลจากเสียงรบกวนด้านล่าง จึงปรับปรุงพื้นที่นี้ให้เป็นห้องนั่งเล่นตกแต่งสไตล์มินิมัลด้วยพื้นกระเบื้องยางลายไม้ และเฟอร์นิเจอร์ไม้สีขาว โดยมีระยะความสูงคล้ายดับเบิลวอลุ่ม ซึ่งทำให้มีความโปร่งโล่งสบายได้เป็นอย่างดี วัสดุมุงหลังคาถูกติดตั้งใหม่โดยใช้แผ่นฉนวนสำเร็จรูป Sandwich Panel ชนิดผิวเรียบ ช่วยกันความร้อน ติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว และไม่ต้องมีฝ้าเพดานอีกด้วย เมื่อมองออกไปที่ดาดฟ้าจะมองเห็นต้นไม้ สวนขนาดเล็ก แต่ยังคงเก็บผนังช่องลมที่ขนาบสองข้างเดิมไว้ ซึ่งช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวและระบายอากาศได้ดี

สวนดาดฟ้า
บริเวณดาดฟ้าภายนอกออกแบบให้เป็นเหมือนชานและระเบียงสำำหรับพักผ่อน จัดสวนเพื่อช่วยบังสายตาจากภายนอกที่มองเข้ามาสู่ห้องนั่งเล่น สร้างความเป็นส่วนตัวแก่ผู้อยู่อาศัยยิ่งขึ้นและร่มรื่นด้วยต้นไม้หลากพันธุ์

บริเวณช่วงกลางจนถึงช่วงด้านหลังของชั้นนี้มีห้องน้ำ ส่วนรับประทานอาหาร และเคาน์เตอร์ครัวแบบกึ่งลอยตัว ลดเวลาในการติดตั้งและรองรับการปรับเปลี่ยนในอนาคตได้ดี ด้านหลังห้องยังมีมุมโต๊ะทำงานเล็กๆ และหน้าต่างเบย์วินโดว์ ซึ่งสร้างลูกเล่น เพิ่มพื้นที่ภายใน และทำให้มุมมองออกสู่ภายนอกกว้างมากยิ่งขึ้น โดยสามารถรับแสงธรรมชาติและมองเห็นวิวด้านหลังที่ไกลออกไปได้อย่างดี  ชั้น 4 นี้ครบครันราวกับนั่งเล่นอยู่ในคอนโดกลางเมืองที่มีสวนดาดฟ้าเป็นของตัวเอง

ห้องนั่งเล่น
ในส่วนของชั้น 4 ปรับเปลี่ยนให้มีทั้งดาดฟ้าเดิมและห้องนั่งเล่น โดยออกแบบให้มีความเรียบง่ายสไตล์มินิมัล ห้องโปร่งโล่งสบายด้วยบานกระจกและการทำเพดานสูง
แพนทรี่
มุมเคาน์เตอร์ครัวโทนสีขาวท็อปลายไม้ขนาดย่อม เป็นพื้นที่ใช้เพื่อเตรียมและทำอาหาร เน้นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวให้พอดีกับขนาดห้อง
เบย์วินโดว
มุมพื้นที่ทำงาน ขยายความรู้สึกให้กว้างขึ้นด้วยเบย์วินโดว์ที่วางต่อเนื่องกันดูแปลกตา
เบย์วินโดว
บานหน้าต่างเบย์วินโดว์ ช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในให้มากขึ้น กรอบบานสีขาวสไตล์มินิมัลช่วยทำให้ห้องสว่างมากยิ่งขึ้น

บ้านที่เรียบง่ายและดีดั่งใจ

ฟาซาดของอาคารที่ประกอบด้วยแผงกันแดดรูปทรงเรขาคณิตอันเป็นเอกลักษณ์ของตึกแถวยุคโมเดิร์นถูกคงไว้ซึ่งรูปลักษณ์เดิมที่เหมือนตึกแถวข้างเคียง เพียงแต่ทาสีขาวทับให้ดูเหมือนใหม่ในชั้น 2 และชั้น 3 ส่วนชั้นล่างใช้ประตูเหล็กเจาะรูบานเฟี้ยมสีดำ เน้นบานเปิดสีส้มสองบานกลางที่ดึงสีมาจากบันไดหินขัดภายในบ้าน หลังบานประตูสีส้มอันโดดเด่นบนถนนซอยที่จอแจนี้เป็นบ้านที่น่าอยู่ เรียบง่าย ใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าโดยเน้นการสร้างคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยให้ดีขึ้น ภายใต้ข้อจำกัดด้านงบประมาณและข้อกฎหมายด้านการซ่อมแซม ขณะเดียวกันก็คงไว้ซึ่งกลิ่นอายของเอกลักษณ์ดั้งเดิม จึงกลายเป็น “บ้านตึกแถวรีโนเวตที่เรียบง่ายและดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” ตามความตั้งใจของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี

เจ้าของ : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชมชน ฟูสินไพบูลย์ และดร. ฮอนจู จาง

ออกแบบสถาปัตยกรรม-ออกแบบตกแต่งภายใน : Design & Research by Fusinpaiboon & Jang (DRFJ)


เรื่อง : พัชรกุล แพสมหวัง

ภาพ : ฤทธิรงค์ จันทองสุข

ผู้ช่วยช่างภาพ : วิมุติ เหล่าโมราพร

บ้านรีโนเวตจากตึกแถวเก่าที่เปิดรับลมและแสงธรรมชาติ

ไอเดีย รีโนเวททาวน์โฮม และตึกแถว สร้างสภาวะน่าสบาย และคุณภาพชีวิตที่ดี