บ้านโมเดิร์นสีขาว เปิดด้วยผนังระแนงด้านข้าง - บ้านและสวน

บ้านโมเดิร์นสีขาว มีผนังระนาบเป็นช่องเปิดด้านข้าง

บ้านโมเดิร์นสีขาว สำหรับคน 3 ช่วงวัย มีทั้งการเชื่อมต่อในพื้นที่ส่วนรวมและแยกสู่พื้นที่ส่วนตัว ผนังด้านข้างเปิดออกเป็นแผ่นระนาบวางเหลื่อมซ้อนกันให้เกิดเป็นช่องว่างรับแสงและลม

Design Directory : สถาปนิก Black Pencils Studio

บ้านโมเดิร์นสีขาว
บ้านโมเดิร์นสีขาว
บ้านโมเดิร์นสีขาว
ผนังสีขาวหน้าบ้านที่เป็นผนังส่วนปิดหันไปทางทิศใต้กลายเป็นฉากขาวให้แสงแดดมาสร้างเงาที่เคลื่อนไหวในแต่ละช่วงเวลาของวัน ส่วนระนาบด้านข้างนั้นเป็นช่องให้แสงและลมได้เข้าสู่ภายใน

เป็นเรื่องยากจริง ๆ หากต้องตัดสินใจทุบบ้านหลังแรกที่คุณพ่อสร้างขึ้นด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเองและเป็นบ้านที่อยู่อาศัยร่วมกันมานานกว่า 30 ปี แต่ความเก่าที่ทรุดโทมจนยากจะซ่อมแซมของบ้าน ทำให้ คุณณัฐ-ณัฐกิจ มัตตะธีรสิทธิ์ ลูกชายคนเล็กของบ้าน ตัดสินใจจับเข่าพูดคุยกับคุณพ่อวัยเกษียณให้รื้อบ้านเดิมทิ้ง เพื่อสร้าง บ้านโมเดิร์นสีขาว หลังใหม่สำหรับครอบครัวที่เติบโต 

บ้านโมเดิร์นสีขาว
ส่วนของที่จอดรถเป็นประตูโครงเหล็กเปิดโปร่งด้วยอะคริลิกใส โดยทำระแนงพรางสายตาจากภายนอกไว้
บ้านโมเดิร์นสีขาว

บ้านหลังใหม่บนที่ผืนเดิม

ช่วง 2 ปีก่อนจะสร้างบ้านหลังใหม่นี้ คุณณัฐแต่งงานกับ คุณเบล-ปรียานุช ตั้งกุญแจทอง และย้ายออกไปใช้ชีวิตคู่ที่อาคารพาณิชย์ไม่ไกลจากบ้านมากนัก ส่วนพี่สาวอีกสองคนก็แยกย้ายไปอยู่คอนโด แต่เมื่อคุณพ่อคุณแม่เริ่มเข้าสู่วัยเกษียณ ประกอบกับพื้นที่ใช้งานในบ้านหลังเดิมไม่สะดวกสบาย แม้จะผ่าน การต่อเติมมาแล้วหลายครั้ง ลำบากที่สุดก็เมื่อถนนหน้าบ้านถมสูงจนเกิดปัญหาน้ำท่วมเข้าบ้านอยู่บ่อยครั้ง ความรู้สึกที่อยากกลับมาอยู่ร่วมเพื่อดูแลซึ่งกันและกันจึงเกิดขึ้น

“ตอนนั้นพ่อต้องคอยวางเครื่องสูบน้ำออกนอกบ้านอยู่คนเดียว ผมเลยคิดว่าถึงเวลาต้องสร้าง บ้านใหม่จริงจังแล้ว พอได้คุยกับทุกคนก็มีความต้องการเดียวกัน คืออยากอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมมากกว่า ไปซื้อบ้านตามโครงการที่อื่น เพราะอุ่นใจเรื่องเพื่อนบ้าน ความปลอดภัย และผูกพันคุ้นชินกับบริบท แถวนี้ดีอยู่แล้ว เมื่อต้องสร้างบ้านใหม่ก็อยากได้พื้นที่ที่เพียงพอให้ทุกคนได้มาอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง”

บ้านโมเดิร์นสีขาว
โถงทางเข้าบิลต์อินตู้ไม้สำหรับเก็บรองเท้าไว้สูงเต็มผนัง พร้อมม้านั่งใกล้ๆ
จากโถงกลางบ้านแยกเป็นฟังก์ชันของห้องนั่งเล่นไว้อยู่ด้านซ้าย ตกแต่งด้วยโซฟาตัวเดิมของบ้านที่กลมกลืนไปกับโทนสีเรียบนิ่งแบบกลางๆ สำหรับคนทุกวัย

In-between House

การออกแบบบ้านสำหรับคน 3 ช่วงวัยกลายเป็นโจทย์แรกที่คุณณัฐบอกกับ คุณแพท-ชุติ ศรีสงวนวิลาส สถาปนิกจาก Black Pencils Studio พร้อมกับให้ผังตำแหน่งทิศทางของห้องต่างๆ ในบ้านจากการดูฮวงจุ้ยของชินแสที่คุณแม่เลือกสรรมาแล้วเพื่อความสบายใจ และคุณแพทก็สามารถ นำมาสานต่อได้อย่างดี

“ไดอะแกรมแรกของบ้านมาจากการดึงคนต่างวัยให้เข้าหากันก่อน แล้วก็คิดโซนนิ่งจากตรงนั้น เพราะแนวคิดหลักของบ้านต้องมีทั้งการเชื่อมต่อในพื้นที่ส่วนรวมและแยกสู่พื้นที่ส่วนตัว แปลนบ้านก็ล้อรับ มาจากผัง 9 กริดของชินแส แล้วแบ่งออกเป็น 3 เลเยอร์ คือ ชั้นนอก กลาง และใน นอกคือตั้งแต่ด้านหน้า มาถึงส่วนจอดรถ กลางเป็นโถงกลางบ้านที่ใช้งานและเชื่อมต่อกับทุกชั้นในบ้าน ส่วนในก็คือห้องนอนส่วนตัว ทั้งหมด ทีนี้นอกบ้านค่อนข้างติดกับถนนแล้วจะทำอย่างไรให้คนในบ้านรู้สึกเป็นส่วนตัวได้ ก็เลยต้องปิดผนัง ด้านหน้าไว้ โดยตัวผนังที่ปิดนี้หันไปทางทิศใต้ที่มีแดดพาดผ่านตลอดวัน เลยมองเห็นแสงและเงาที่หมุน เคลื่อนไหวไปบนผนังอาคารสีขาวได้อย่างมีมิติ  ส่วนตรงกลางเราเปิดผนังด้านข้างออกเกือบหมด แล้วออกแบบแผ่นระนาบขึ้นมาโดยวางเหลื่อมเป็นชั้นๆ ให้เกิดเป็นช่องว่างระหว่างกัน สิ่งที่ตามมา คือลมหมุนเวียนดี ได้แสงธรรมชาติที่ไม่ต้องเปิดไฟในช่วงกลางวันเลย และรู้สึกปลอดภัยที่จะใช้งานในพื้นที่ เหล่านั้นโดยไม่สูญเสียความเป็นส่วนตัว เพราะเปิดมุมมองออกไปด้านข้างแทน”

บ้านโมเดิร์นสีขาว
ส่วนรับประทานอาหารสามารถเปิดประตูบานเลื่อนเชื่อมออกมาสู่สวนคอร์ตซึ่งเป็นมุมสวนหน้าบ้านได้
ฟังก์ชันด้านขวาเป็นส่วนรับประทานอาหาร ติดกับบันไดโปร่ง โดยมีชานไม้นั่งเล่นใต้บันไดที่เจ้าของบ้านมักจะนั่งเล่นกับลูกๆ เพราะชอบในบรรยากาศที่คล้ายกับใต้ถุนบ้านไทย

นอกจากฟังก์ชันใช้งานร่วมกันแล้ว ยังออกแบบให้มีพื้นที่เฉพาะสำหรับวัยที่แตกต่างกันด้วย เช่น บ่อปลาพร้อมชานไม้นั่งเล่นกึ่งกลางแจ้ง ซึ่งเป็นความชอบส่วนตัวของคุณพ่อและคุณณัฐเอง โดยอยู่ใกล้กับห้องนอนคุณพ่อชั้นล่างเพื่อจะได้ไม่ต้องเดินขึ้นลงบันได หรือพื้นที่กิจกรรมสำหรับเด็กๆ ที่อยู่บริเวณชั้น 2 ซึ่งไม่ว่าแต่ละคนจะใช้พื้นที่แยกไปอยู่ตรงไหน สเปซที่โปร่งโล่งจะยังคงทำให้เสียง และความเคลื่อนไหวเชื่อมถึงกันได้ นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งของการเพิ่มช่องหน้าต่างพิเศษ ไว้ตรงโถง กลางบริเวณชั้น 2 และชั้น 3 เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่เรียกหาลูกหลานชั้นบน หรือลูกหลานชั้นบน มองลงมาเห็นคุณพ่อคุณแม่ชั้นล่างได้เช่นกัน

บ้านโมเดิร์นสีขาว
โถงสูงกลางบ้านดูสว่างตลอดวันจากช่องเปิดรับแสงฝั่งซ้ายและขวา โดยมีบันไดเป็นส่วนเชื่อมต่อฟังก์ชันแต่ละชั้น และยังดูเหมือนจะเป็นประติมากรรมชิ้นสวยของบ้านไปในตัว
บ้านโมเดิร์นสีขาว
ห้องครัวกั้นแยกไว้เป็นสัดส่วนเพื่อป้องกันปัญหากลิ่นและควันรบกวนพื้นที่พักผ่อน โดยส่วนครัวหนักเลือกใช้วัสดุอย่างสเตนเลสที่ทนทานและดูแลง่าย
บ้านโมเดิร์นสีขาว
โถงกลางที่ยกสูงเป็นจุดเชื่อมต่อฟังก์ชันการใช้งานของทั้งสามชั้นไว้ด้วยกันและพอให้ทุกคนได้ยินความเคลื่อนไหวในพื้นที่ส่วนกลางร่วมกันได้
บ้านโมเดิร์นสีขาว
บันไดโครงเหล็กที่มีตัวขั้นเป็นไม้สักหนา 8 นิ้วขัดสีให้อ่อนสว่างเพื่อความกลมกลืนกับโทนสีที่เรียบง่ายของบ้าน และเว้นช่องแต่ละขั้นให้ดูโปร่งเบาสบายตา แสงและลมผ่านได้ จึงสร้างมิติของแสงให้ดูสวยแตกต่างได้ตลอดวัน
บ้านโมเดิร์นสีขาว

ประติมากรรมจากบันได

เพราะความต้องการเชื่อมต่อสเปซใช้งานภายในบ้าน 3 ชั้น ซึ่งมีพื้นที่กว่า 500 ตารางเมตรไว้ด้วยกันยังทำให้เกิดบันไดหลักตรงกลางขึ้นมา โดยสถาปนิกเลือกใช้โครงสร้างเหล็กเพื่อให้ดูโปร่งเบาและไม่กีดขวางทางหมุนเวียนของลม อีกทั้งด้วยดีไซน์ที่สวยงามจึงดูเหมือนประติมากรรมสวยๆ ของบ้านไปในตัว

“ตัวโครงสร้างเหล็กที่ดูเหมือนลอยแบบเบาๆ นั้นต้องซ่อนตัวยึดโครงไว้ในผนังด้วยเพื่อความแข็งแรง ผสมกับขั้นบันไดที่ปูด้วยไม้สักตามความชอบของคุณพ่อคุณแม่ เป็นไม้สักหนา 8 นิ้วย้อมสีให้อ่อนสว่างเพื่อให้เข้ากับโทนสีรวมของบ้าน แต่ละขั้นบันไดยังเว้นช่องไม่ให้ดูตันทำให้ลมกับแสงผ่านได้ โดยวางตัวบันไดสลับฝั่งกันไปมาระหว่างชั้นเพื่อให้สเปซมีไดนามิกขึ้น และยังเห็นแสงที่เคลื่อนไหวจากตอนเช้าที่ส่องพาดเฉียงไปทางหนึ่ง แสงบ่ายก็เฉียงไปอีกทางหนึ่ง ซึ่งรวมๆ แล้วทำให้ภายในบ้านดูสว่างตลอดวัน”

พื้นที่อเนกประสงค์บริเวณชั้น 2 เป็นมุมกิจกรรมสำหรับเด็กๆ ที่สามารถปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวเพื่อรองรับฟังก์ชันใช้งานในแต่ละช่วงวัยได้
ในช่วงนี้เจ้าของบ้านยังเน้นการนอนร่วมกับลูกสาวเล็กๆ ทั้งสองคน ภายในห้องนอนหลักจึงใช้วิธีการต่อฟูกนอนให้ยาวเต็มพื้นที่
ภายในวอล์กอินคลอเซ็ตก็มีช่องหน้าต่างที่เปิดรับแสงธรรมชาติพร้อมกระจกเงาที่ช่วยสะท้อนมุมห้องให้ดูโปร่งตามากขึ้น
ออกแบบห้องน้ำให้อยู่ทางทิศตะวันตกเพื่อสามารถเปิดรับแสงแดดมาคลายความอับชื้นภายในและยังช่วยป้องกันไม่ให้ความร้อนเข้าถึงส่วนพักผ่อนโดยตรง

เติมความสุขลงในช่องว่าง

ในความเรียบง่าย โปร่งโล่ง และการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม่มากชิ้น คุณณัฐบอกว่าเพราะในบ้านมีคนอยู่ร่วมกันหลายคนและหลายวัย จึงอยากให้ทุกอย่างดูกลางๆ ทั้งโทนสีและสไตล์ เพื่อให้ทุกคนอยู่ได้อย่างสบายใจและไม่อึดอัด

“ตอนบ้านเสร็จ พ่อผมก็เกษียณพอดี เลยได้อยู่บ้านเต็มที่ มีความสุขกับมุมบ่อปลาของเขาได้ทั้งวัน คุณแม่ชอบนั่งเล่นที่โซฟากลางบ้าน พี่สาวที่เคยแยกไปอยู่คอนโดก็กลับมาอยู่บ้านด้วยกันทั้งสองคน ส่วนผมกับภรรยาและลูกๆ บางทีเราก็ชอบนั่งเล่นกันที่ลานไม้ใต้บันได มันให้ความรู้สึกเหมือนใต้ถุนบ้านดี บางทีปล่อยลูกเล่นตรงชั้น 2 แล้วเราคอยฟังเสียงจากโต๊ะกินข้าวได้ว่าเล่นกันปกติดีไหม ผมคิดว่าบ้านไม่ต้องดูเฟอร์เฟ็กต์ก็ได้ แต่เราทุกคนในบ้านจะค่อยๆ เติมตัวตนของเราเข้าไปให้เป็นบ้านในแบบของเราเอง”

ชานไม้เชื่อมต่อออกมาจากส่วนนั่งเล่นเป็นมุมบ่อเลี้ยงปลาคาร์ปของคุณพ่อ โดยมีช่องเปิดที่รับลมสบายได้ตลอดวัน
การออกแบบบ่อปลาเป็นพื้นที่ในร่มแบบกึ่งกลางแจ้งทำให้คุณพ่อสามารถนั่งผ่อนคลายริมบ่อปลาได้ตลอดทั้งวัน เพราะมีลมธรรมชาติหมุนเวียนดี ตัวบ่อไม่เกิดตะไคร่น้ำง่ายแบบบ่อกลางแจ้ง โดยมีการซ่อนระบบไว้ใต้ระเบียงเพื่อสามารถเปิดมาทำความสะอาดได้
ที่ชาร์จรถไฟฟ้าในบ้าน
ภายในที่จอดรถติดตั้งที่ชาร์จแบตรถไฟฟ้าสำหรับรถรถไฟฟ้า 1 คันซึ่งอนาคตเจ้าของบ้านคิดว่าอาจจะเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้าแทนรถแบบเติมน้ำมันมากขึ้น

เจ้าของ : คุณณัฐกิจ มัตตะธีรสิทธิ์ และคุณปรียานุช ตั้งกุญแจทอง

สถาปนิก : Black Pencils Studio โดยคุณชุติ ศรีสงวนวิลาส

เรื่อง : ภัทรสิริ โชติพงศ์สันติ์

ภาพ : อภินัยน์ ทรรศโนภาส,ธนายุต วิลาทัน

ผู้ช่วยช่างภาพ : วีรวัฒน์ สอนเรียง

สไตล์ : Suntreeya


บ้านสีขาวที่ซ่อนคอร์ตต้นไม้ไว้ภายใน

บ้านโมเดิร์นสีขาว สวยรื่นรมย์ด้วยงานศิลปะ