กลิ่นอายบ้านไทยในโครงสร้างเหล็กสมัยใหม่
บ้านไม้โครงสร้างเหล็ก ในกลิ่นอายแบบไทยๆ ผสมวัสดุสมัยใหม่แข็งแรง ทนทาน และดูแลรักษาง่าย ผสมด้วยไม้จากบ้านเดิมมาเป็นส่วนของพื้นและผนังตัวบ้าน โดยวางตัวเป็นแนวยาวเพื่อขวางรับทางลมและไล่เรียงฟังก์ชันไปตามพื้นที่แบบง่ายๆ
Design Directory : สถาปนิก Ilikedesignstudio
ตั้งแต่เข้ามาเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ จนจบและได้ทำงานต่อเนื่องยาวกระทั่งแต่งงานกับ คุณโบ้-ชนะชัย กิ่งเงินเป็นช่วงที่ คุณเล็ก-ธารนคร ศิริเขตรกรณ์ ใช้ชีวิตอยู่กับบ้านในเมืองมาโดยตลอด แต่ก็พกพาความฝันในใจไว้เสมอว่าอยากจะกลับมาสร้างบ้านอยู่กับครอบครัวในจังหวัดอุทัยธานี ดินแดนซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอเอง และเฝ้ารอจนเมื่อทุกอย่างพร้อม ทั้งคู่จึงเริ่มสานฝันให้เป็นจริงบนที่ดินไร่กว่าๆ ของตัวเอง เพื่อสร้าง บ้านไม้โครงสร้างเหล็ก หลังนี้
“ที่ดินตรงนี้เป็นของปู่ของย่า เดิมทีเป็นทุ่งนาทั้งหมดเพราะบ้านเราทำนากันมานานแล้ว ตอนนี้พ่อก็ยังเก็บนาบางส่วนไว้ทำเองและบางส่วนก็ปล่อยให้เช่า ตอนไปอยู่กรุงเทพฯ มักจะคิดถึงบ้านตรงนี้ อยากกลับมาอยู่กับธรรมชาติและครอบครัว แต่บ้านหลังเดิมเป็นเรือนไทยเก่าใต้ถุนสูงอายุร้อยกว่าปีแล้ว ทรุดโทรมมากจนไม่เหมาะที่จะอยู่อาศัย เลยตั้งใจว่าจะสร้างบ้านหลังนี้ให้ทุกคนในครอบครัวได้มาอยู่ร่วมพร้อมหน้ากันอีกครั้ง เพราะชอบและคิดถึงบรรยากาศอบอุ่นแบบนั้น”
บ้านไม้โครงสร้างเหล็ก ใช้ไม้เก่าในโครงเหล็กสมัยใหม่
จากชีวิตช่วงหนึ่งของคุณเล็กที่ผูกพันและมีความสุขอยู่ในบ้านไม้ โดยที่คุณพ่อเองก็ยังคุ้นชินกับการอยู่บ้านไม้ยกใต้ถุนรับลมธรรมชาติ และไม่ใช้เครื่องปรับอากาศ ขณะเดียวกันในอีกช่วงวัยของคุณเล็กนั้นก็ใช้ชีวิตอยู่กับความทันสมัยแบบคนเมือง จึงเป็นที่มาให้ คุณเบนซ์-ณฤชา คูวัฒนาภาศิริ สถาปนิกคู่ใจที่มาช่วยออกแบบหลังนี้โดยคำนึงถึงการผสานข้อดีของชีวิตสองช่วงวัยนี้เข้าด้วยกันและถ่ายทอดลงไปในองค์ประกอบต่างๆ ของบ้าน
“ตอนแรกคิดถึงการทำบ้านโครงสร้างไม้อยู่เหมือนกัน แต่ในระยะยาวก็จะเป็นภาระในการดูแลรักษาไม้เหมือนกับเรือนไทยเก่าที่มีอยู่ เลยเปลี่ยนมาใช้โครงสร้างเหล็กสมัยใหม่แทนแล้วค่อยใช้ไม้จากบ้านเดิมมาเป็นส่วนของพื้นและผนังบ้าน ซึ่งเป็นไม้เก่าที่มีหน้ากว้างสวย ทั้งไม้สักและไม้ประดู่ โดยนำมาขัดผิวหน้าและย้อมสีใหม่ให้ใกล้เคียงกัน ผสมด้วยคาแรกเตอร์แบบบ้านไทยเล็กๆ น้อยๆ อย่างการโชว์จันทัน ใช้บานเฟี้ยมเก่า บานเกล็ดไม้ เปิดใต้ถุนโล่ง หรือนำรูปแบบการตอกและใส่กลอนไม้มาใช้แต่เปลี่ยนมาเป็นเหล็กแทน ระแนงไม้ก็ยึดด้วยโครงเหล็กที่ทาสีให้กลมกลืนไปกับไม้เลย ผมพยายามดึงอารมณ์บ้านเดิมมาเพื่อสร้างความคุ้นเคยให้กับคุณพ่อรู้สึกว่าอยู่สบายและไม่ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตเดิมๆ อะไรมาก ขณะที่คุณเล็กและคุณโบ้ก็ได้ฟังก์ชันที่ทันสมัยสะดวกสบายของบ้านสมัยใหม่ด้วย”
ถอดแบบใต้ถุนโล่งเพื่อรับลมชมธรรมชาติ
ด้วยรูปแบบบ้านในชนบทมักจะเปิดโล่ง ไม่มีการกั้นรั้วรอบอย่างจริงจัง ยิ่งโดยเฉพาะถ้าแวดล้อมด้วยบ้านของเหล่าบรรดาญาติๆ ด้วยแล้วยิ่งมักจะเข้าถึงกันได้ง่าย สถาปนิกจึงออกแบบผนังบ้านที่อยู่ใกล้กับถนนใหญ่ให้เป็นส่วนที่ปิดทึบ มองเห็นตัวบ้านแต่ไม่มีทางเข้าถึงโดยตรง จนเมื่อจอดรถแล้วจึงมีทางเดินยาวๆ ด้านข้างนำมาสู่ส่วนนั่งเล่นภายในที่เปิดโล่งให้มองเห็นทุ่งนาและแนวต้นยูคาลิปตัสสวยๆ สร้างความรู้สึกผ่อนคลายและเป็นส่วนตัว
“เราออกแบบวางบ้านให้ขวางลมก็จะได้ลมดีอยู่แล้ว โดยมีรูปทรงบ้านเป็นแนวยาวไล่เรียงฟังก์ชันไปตามพื้นที่แบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อน เน้นใต้ถุนโล่งรับลมมีฟังก์ชันเป็นส่วนนั่งเล่นหลักประจำบ้านที่คุณเล็กและทุกคนสามารถมาใช้งานได้ตลอดวัน เชื่อมต่อกับมุมดูทีวีและห้องครัวไทยที่ออกแบบให้ใช้งานหนักจริงจังตำน้ำพริกได้เลย การวางตำแหน่งมุมครัว สามารถเข้าได้จากที่จอดรถหน้าบ้านเลย วางของก็สะดวก และยังช่วยกั้นพื้นที่พักผ่อนส่วนตัวด้านในไว้ด้วย นอกจากนี้ข้างล่างยังมีห้องนอนที่ตั้งใจออกแบบให้คุณพ่อโดยทำผนังบล็อกช่องลมปิดไว้เพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัว แต่ยังเปิดโปร่งให้ลมผ่านได้เพราะคุณพ่อชอบอยู่กับลมธรรมชาติมากกว่าในห้องแอร์ แต่ปัจจุบันนี้คุณพ่อเลือกที่จะขึ้นไปอยู่ห้องนอนชั้นบนมากกว่าตามความเชื่อของผู้ใหญ่ว่าไม่ควรนอนต่ำกว่าลูกหลาน ก็เลยย้ายจากข้างล่างขึ้นไปนอนข้างบนแทนซึ่งมีระเบียงไม้กว้างๆ ให้เดินได้รอบบ้าน เป็นมุมมองที่เห็นธรรมชาติเขียวๆ รอบตัวแบบสุดลูกหูลูกตาอย่างที่หาจากกรุงเทพฯ ไม่ได้เลย”
เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นในสเปซโล่งๆ
รูปทรงของบ้านที่ทอดยาวแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าจึงมาจากแนวคิดการแผ่สเปซออกให้ทุกห้องมีมุมมองออกสู่ธรรมชาติพร้อมกับระเบียงส่วนตัวของตัวเอง เมื่อมองจากภายนอกแล้วดูเป็นบ้านหลังใหญ่ ภายในพื้นที่ใช้สอย 660 ตารางเมตรที่ไม่มีฟังก์ชันและเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งอะไรมากเกินจำเป็น
คุณเล็กบอกไว้ว่า “จริงๆ เราไม่ได้อยากสร้างบ้านใหญ่นะ เมื่อก่อนเรานอนรวมกันในห้องโล่งๆ แต่ตอนนี้ต้องทำห้องนอนไว้หลายห้องให้พี่ให้น้องมาอยู่ด้วยกันแบบมีความเป็นส่วนตัว ข้างล่างมีเพิ่มแค่ห้องทำงานของคุณโบ้ เพราะยุคนี้เราทำงานที่บ้านก็ได้เผื่อวันไหนไม่ต้องเข้าไปกรุงเทพฯ ส่วนเฟอร์นิเจอร์เป็นงานไม้ของเก่าจากบ้านเดิมที่เอาไปทำสีใหม่ อย่างชุดโต๊ะนั่งเล่นเป็นของก๋งของคุณโบ้เอามาทำเบาะใส่เข้าไปใหม่ หัวเตียงนอนก็มาจากเตียงเก่าที่แยกชิ้นมาทำหัวเตียงใหม่ได้สองหลัง หรือโต๊ะไม้ที่ใช้งานประจำมาจากแผ่นไม้มะค่าที่ซื้อเก็บไว้นานแล้วมาเปลี่ยนขาใหม่ให้ดูโปร่งตาขึ้น ต้องขอบคุณพ่อที่เก็บไม้ไว้เยอะ เป็นไม้ที่ตัดมาจากทุ่งนาเราเอง เวลาพ่อตัดก็จะปลูกใหม่ตลอด เราไม่ได้เป็นคนเก็บของจุกจิกเยอะด้วย บ้านก็เลยโล่งๆ ช่วยให้ดูแลทำความสะอาดเองได้ง่าย”
อยู่สบายกับชีวิตหลังเกษียณ
ตั้งแต่เช้าจรดเย็น มีลมเย็นหมุนเวียนอยู่รอบบ้าน และโดยเฉพาะตรงมุมนั่งเล่นที่เปิดโล่ง ซึ่งเป็นมุมที่ทุกคนในครอบครัวใช้งานเป็นประจำ ทั้งนั่งดูทีวี มองธรรมชาติ หรือแม้แต่ทำงานเล็กๆ น้อยๆ โดยคุณเล็กวางแผนไว้ว่าจะทำแปลงผักสวนครัวเพิ่มเติมจากที่ปลูกต้นกะเพราลงกระถางไว้แล้วข้างห้องครัว พร้อมกับขุดบ่อเลี้ยงปลา และเลี้ยงไก่ไข่ไว้เป็นแหล่งอาหารที่พึ่งพาได้ในครัวเรือนของตัวเอง เพื่อรองรับการมาใช้ชีวิตหลังเกษียณในอนาคตด้วย
“พ่อเป็นคนปลูกผักเก่งอยู่แล้ว ส่วนน้องชายก็จะช่วยดูแลไก่ไข่ สมัยก่อนพ่อปลูกพริกกระเทียมเอง ทำนาปลูกข้าวกินเองด้วย ก็เลยอยากจะคงวิถีชีวิตแนวเกษตรแบบนี้ไว้ และเราก็ยังมีภาพความจำดีๆ จากชีวิตชนบทหลายอย่างที่อยากทำให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง แม้แต่ต้นหมากเม่าหน้าบ้านที่ซื้อมาปลูกก็เพราะเราอยากเก็บลูกมันกินเหมือนตอนเด็กๆ จากที่ได้มาอยู่บ้านหลังนี้ราว 8-9 เดือนแล้วก็รู้สึกสดชื่นสบายใจ สมองปลอดโปร่ง มันดีเกินกว่าที่คาดไว้มากเลย”
Designer’s Tips
“เรื่องสำคัญสำหรับบ้านไม้หรือบ้านที่ใช้วัสดุไม้ค่อนข้างมากคือระบบปลวกที่ควรจะจัดและใส่ให้เต็มที่ ยิ่งบ้านต่างจังหวัดที่เปิดโล่งก็จะมีสรรพสัตว์ค่อนข้างเยอะ แต่ข้อดีของบ้านนี้คือใช้ไม้เก่าเกือบทั้งหมด เพราะไม้เก่ามีความแกร่งมาก ไม่ค่อยยืดหดตัวแล้ว ส่วนไม้ใหม่ที่ซื้อมาก็ตากแดดให้แห้งเป็นปีกว่าจะนำมาใช้ และควรทาสีเคลือบถนอมผิวทุกๆ 2-3 ปีเพื่อรักษาเนื้อไม้ ประกอบกับการออกแบบก็ไม่ควรใช้ไม้ในตำแหน่งที่ต้องแช่น้ำนานๆ อย่างบ้านนี้เป็นโครงสร้างเหล็กที่เน้นใช้ไม้ในส่วนพื้นชั้นบนกับผนัง จึงหลีกเลี่ยงจุดที่ไม้ต้องโดนน้ำได้ ทำให้ไม้ดูสวยอยู่ในบ้านได้นาน”
เจ้าของ : คุณธารนคร ศิริเขตรกรณ์ และคุณชนะชัย กิ่งเงิน
สถาปนิก : Ilikedesignstudio โดยคุณณฤชา คูวัฒนาภาศิริ คุณชุติมณฑน์ ชนกโอวาท และคุณศิรประภา ประสมพันธ์
เรื่อง : ภัทรสิริ โชติพงศ์สันติ์
ภาพ : ศุภกร ศรีสกุล
สไตล์ : Suntreeya