บ้านสีขาวกลิ่นอายญี่ปุ่น รื่นรมย์ด้วยสวนสวย
บ้านสีขาวกลิ่นอายญี่ปุ่น ในรูปแบบบ้านชั้นเดียวหลังคาจั่วแวดล้อมด้วยพื้นที่สวนสีเขียวร่มรื่นสบายตาหลังนี้ใช้คำว่า “น่ารัก”ได้เปลืองมาก ราวกับเป็นบ้านในฝันจากนิยายหรือภาพยนตร์โรแมนติกสักเรื่อง
คุณวุฒิ-สราวุฒิ สังฆคุณ ออกมาเปิดรั้วหน้าบ้าน โดยมี คุณเอ๋-ขัตติยา เหมณี เดินตามออกมาทักทาย อีกประเดี๋ยว เจ้าแมวส้ม แมวดำ และแมวลายก็เดินนวยนาดตามหลังคุณเอ๋ออกมารับแสงแดดเช้าที่เฉลียงหน้าบ้าน พร้อมกับร้องเหมียวๆ อ้อนขอมื้อเช้ากันวุ่นวาย ถึงทำให้เรารู้ว่ากิจวัตรประจำวันของชีวิตจริงๆ ใน บ้านสีขาวกลิ่นอายญี่ปุ่น หลังนี้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
แรงบันดาลใจจาก บ้านสีขาวกลิ่นอายญี่ปุ่น สมัยใหม่
ด้วยความที่คุณเอ๋กับคุณวุฒิเกิดและเติบโตที่บ้านในจังหวัดราชบุรี แม้จะมีช่วงที่ไปเรียนและทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ระยะหนึ่ง แต่เมื่อแต่งงานแล้ววางแผนจะมีลูก ทั้งคู่ก็เริ่มอยากกลับมาใช้ชีวิตแบบไม่เร่งรีบที่ราชบุรีกันอีกครั้ง โดยปรับพื้นที่ชั้นบนของตึกแถวซึ่งเปิดเป็นร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เป็นที่พักอาศัยไปก่อน
คุณเอ๋เล่าย้อนถึงช่วงก่อนสร้างบ้านหลังนี้ให้ฟังว่า “ตอนแรกเรามีแผนจะรีโนเวตบ้านตึกแถวให้เป็นบ้านที่น่าอยู่ แต่ตรงนั้นก็จะไม่มีพื้นที่รอบบ้านและที่จอดรถอยู่ดี เพราะจริงๆ เราอยากได้บ้านมีบริเวณให้ลูกได้ออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านด้วย ก็เลยตื้อขอซื้อที่ดินของคุณน้าเพื่อมาเติมที่ดินจากบ้านแม่ ให้ได้ที่ดินราว 100 ตารางวา เพียงพอสำหรับปลูกบ้านแบบมีพื้นที่ทำสวนได้ด้วย จากนั้นก็มองหาไอเดียบ้านจากเพจต่างๆ แต่รู้สึกว่าไม่มีหลังไหนตอบโจทย์เราได้พอดี เลยมาคิดว่าแล้วทำไมเราไม่ออกแบบเองล่ะ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าต้องการอะไรบ้าง ก็เลยลงมือเขียนแบบเองคร่าวๆ แล้วหาช่างพื้นที่มาช่วยกันสร้าง
“เรามีภาพบ้านทรงจั่วเป็นแบบบ้านในฝันมาตลอดค่ะ ก็เลยมีของสะสมเป็นโมเดลบ้านทรงจั่วไว้เยอะมากทั้งงานเซรามิกและงานไม้ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ก็ได้แรงบันดาลใจจากแมกกาซีน Pinterest และ IGแม่บ้านญี่ปุ่น ทำให้เราออกแบบมาเป็นบ้านทรงจั่วกลิ่นอายญี่ปุ่นสมัยใหม่ ดูโฮมมี่ในโทนสีขาวและเบจ แต่ไม่ใช่นอร์ดิกและก็ไม่ใช่มินิมัลด้วย”
บ้านโฮมเมดที่ออกแบบและตกแต่งเอง
ไม่เพียงแค่เขียนแบบบ้านเพื่อให้ช่างไว้ดูเป็นแนวทางเท่านั้น ด้วยความชัดเจนในตัวเอง คุณเอ๋ยังเลือกวัสดุ เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งทุกอย่างเองทั้งหมด จนน่าจะเรียกบ้านหลังนี้ว่าเป็นบ้านโฮมเมดก็ว่าได้
“ที่จริงตอนแรกอยากได้หลังคาสีเบจแต่หาคนทำไม่ได้ก็เลยเป็นเทาอ่อน แล้วก็เล็งว่าจั่วบ้านควรจะเอียงสัก 35 องศาเพื่อไม่ให้หลังคาดูสูงหรือป้านเกินไป อยากมีประตูไม้โค้งน่ารักๆ ด้านหน้า พอเข้ามาในบ้านก็ยังคุมด้วยโทนสีขาว เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ย้ายมาจากบ้านเดิม ก็เลยรู้ว่าอะไรจะวางตรงไหนบ้าง ที่ซื้อใหม่ก็เป็นโซฟากับเตียง ส่วนโต๊ะกินข้าวสั่งทำขึ้นมา บางชิ้นก็ผสมด้วยของจากอิเกียอย่างตู้หรือเคาน์เตอร์และเติม ท็อปไม้เข้าไปให้อารมณ์เข้ากับภาพรวมของบ้าน บางชิ้นก็ซื้อจากเพจเฟอร์นิเจอร์ญี่ปุ่นมือสอง เพราะเราไม่ค่อยชอบของใหม่ แต่เสพติดของมือสองมากกว่า (หัวเราะ) รู้สึกว่าของเก่าดูอบอุ่นละมุนกว่า
“ส่วนครัวเป็นบิลท์อินที่เราวัดพื้นที่ไปสั่งทำให้พอดีทั้งขนาดและช่องลิ้นชักสำหรับเก็บข้าวของอุปกรณ์ครัว เวลาไม่ใช้งานชอบเก็บทุกอย่างใส่ตู้และลิ้นชักไว้ให้ดูไม่รกตา ปลอดภัยจากแมลงต่างๆ ด้วย ทำให้ครัวดูสะอาด น่าใช้ตลอด เดิมทีเลือกสีขาวนะ แต่ก่อนช่างจะทำก็เปลี่ยนใจมาใช้สีเบจ เพื่อช่วยเบรกจากโทนสีขาวของมุมอื่นๆ และก็ดูแตกต่างจากครัวสีขาวทั่วๆ ไปดีเหมือนกัน”
เติมความอบอุ่นและมุมของสะสม
ภายในพื้นที่ 130 ตารางเมตรที่คุมไว้ด้วยโทนสีขาวและเบจอย่างนุ่มนวลนี้มีการแบ่งสเปซด้านหน้าให้เป็นส่วนของที่นั่งเล่นกับมุมคาเฟ่ภายใต้โถงรูปทรงจั่วสูง 4.50 เมตรล้อรับไปกับหลังคา บริเวณกลางบ้านแยกออกเป็น 2 ห้องนอน โดยมีทางเดินเพดานโค้งคั่นอยู่ระหว่างกลางเพื่อนำไปสู่ห้องครัวที่อยู่บริเวณหลังบ้าน ซึ่งพื้นที่ทั้งหมดนี้ปูด้วยพื้นไม้ SPC เพื่อเติมอารมณ์อบอุ่นให้บ้าน
“นอกจากเฟอร์นิเจอร์แล้ว เราก็ยังมีพวกของสะสมที่ชอบมาแต่งบ้านด้วยทั้งโมเดลบ้าน กล้อง หนังสือแต่งบ้าน เครื่องครัวอีนาเมล แก้ว ตะกร้าใส่ของ และตุ๊กตาที่เริ่มเข้าวงการจากน้อง Sonny Angle และคิวพี เก็บมาเรื่อยแต่ไม่ได้เก็บทุกคอลเล็กชั่น เลือกเฉพาะที่ชอบและก็วางโชว์เป็นบางตัว ตามตู้ ชั้นติดผนัง ริมหน้าต่าง บนโต๊ะทำงานในมุมที่เรามองเห็นแล้วมีความสุข ที่เหลือก็เก็บในตู้ เพราะไม่อยากวางหมดเดี๋ยวจะกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ไป” (หัวเราะ)
พื้นที่สีเขียว พื้นที่แห่งความสุข
สิ่งที่ขาดไม่ได้เพราะเป็นความต้องการแรกเริ่มในการสร้างบ้านหลังนี้ก็คือพื้นที่สวนที่สามารถออกมานั่งเล่นรับลมธรรมชาติได้ คุณเอ๋บอกถึงแนวทางการเลือกต้นไม้และจัดวางว่าใช้การเล็งมุมมองกลับไปมาระหว่างนอกบ้านกับในบ้าน เพื่อไม่ให้ต้นไม้บังตัวบ้านมากไป ขณะเดียวกันต้นไม้ก็ต้องช่วยพรางสายตาภายนอกเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตในบ้านและสวนได้อย่างเป็นส่วนตัว
“เรามีต้นแก้วเจ้าจอมอายุกว่าสิบปีอยู่บนที่เดิม และปลูกต้นอื่นๆ เพิ่มเติม ปรับเปลี่ยนกันไปเรื่อย เน้นเป็นไม้ใบฟอร์มละเอียดโปร่งตา อย่างสนเกรวิเลียที่ลองปลูกก็ให้ร่มเงาดีเลยวางเก้าอี้นั่งเล่นได้ และก็อยากมีต้นมะกอกเล็กๆ สักต้นแบบที่ไม่ต้องมีโขดใหญ่ๆ เติมด้วยหลิว เพราะชอบความพลิ้วของใบ มองแล้วรู้สึกเย็นสบายตาดี ตรงกลางเป็นอ่างน้ำนก และให้มีพื้นที่รอบๆ สำหรับออกมานั่งเล่น บางวันก็ปิกนิกกันในสวน บางวันก็นั่งเล่นชมสวนจากเฉลียงบ้าน ซึ่งไม่ว่าจะในบ้านหรือในสวนเราใช้วิธีลองทำลองวางทั้งหมด สิ่งสำคัญคือขอแค่เราอยู่แล้วมีความสุขเท่านี้ก็พอค่ะ”
Owner’s Tips
“เคล็บลับการแต่งบ้านเองสำหรับเราคือถามความชอบของตัวเองก่อน ถ้ายังไม่รู้ก็ลองหารูปที่ชอบมารวมกันแล้วจะเห็นภาพรวมของความชอบ จากนั้นก็ให้ลองทำลองแต่งดู มันต้องมีถูกบ้างผิดบ้าง แต่ทุกอย่างจะมีวิธีแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนจนได้แหละ เราเองก็เขียนเรื่องราวการทำบ้านหลังนี้เพื่อแชร์เป็นไอเดียให้คนที่ชอบแต่งบ้านเอง ผ่านเพจ ‘ป๊าม๊าอยู่บ้าน’ และก็เอาตัวเองเป็นที่ตั้งเลยว่าอยากรู้อยากบอกอะไรก็เขียนลงไป อีกเคล็ดลับที่ทำให้บ้านน่าอยู่คือหยิบอะไรก็เก็บตรงนั้น เพื่อให้บ้านยังดูสวย สะอาด ไม่รก และไม่ต้องเหนื่อยตามเก็บทีหลังด้วยค่ะ”
คุณขัตติยา เหมณี เจ้าของบ้าน
เจ้าของ-ตกแต่ง : คุณขัตติยา เหมณี และคุณสราวุฒิ สังฆคุณ จากเพจ ป๊าม๊าอยู่บ้าน
สถาปนิก : คุณณัชวดี เงินพุ่ม
เรื่อง : ภัทรสิริ โชติพงศ์สันติ์
ภาพ : นันทิยา บุษบงค์
สไตล์ : Suntreeya
ที่ตั้ง : จังหวัดราชบุรี