บทความโดย admin baanlaesuan - Page 12 of 40

รวม 8 ไม้หอมชื่อไพเราะ ออกดอกช่วงฤดูหนาว

ลมหนาวจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือมาเยือนแล้ว ส่งผลให้เราเริ่มได้กลิ่นหอมที่แตกต่างไปจากฤดูอื่นๆ ซึ่งกลิ่นหอมเหล่านี้มีที่มาจากหลากหลายพรรณ ไม้หอม ออกดอกฤดูหนาว สร้างความชื่นใจให้ใครที่มีต้นไม้เหล่านี้ปลูกอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งหากอยากให้ได้กลิ่นไม้ดอกเหล่าให้ได้ไกลๆ อย่าลืมปลูกไว้ในทิศตะวันออกเฉียงเหนือของบ้านด้วยนะครับ ไม้หอม ออกดอกฤดูหนาว สัตบรรณ กรรณิการ์ กุมาริกา  พะยอม ลดาวัลย์ ลําดวน วาสนา ปีบ 1.สัตบรรณ ชื่อวิทยาศาสตร์ Alstonia scholaris (L.) R.Br. วงศ์ Apocynaceae ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ เติบโตได้ดีในดินร่วนปนทราย ชอบ แสงแดดจัด โตเร็ว ทนแล้ง ควรปลูกลงแปลง กลางแจ้งเป็นต้นเดี่ยวให้ห่างจากต้นไม้อื่นอย่างน้อย 8 เมตร ทรงพุ่มจะแผ่ได้สวยงาม ขยายพันธุ์ ด้วยการเพาะเมล็ด ออกดอกเป็นช่อ กระจุกตามปลายกิ่ง ช่อใหญ่ กลม ขนาด 10 – 20 เซนติเมตร ดอกย่อยจํานวนมาก โคนกลีบติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 แฉก สีขาวหรือขาวอมเขียว บานพร้อมกันทั้งช่อ […]

สวนป่าแสนสวยงามน่าภูมิใจในร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ จังหวัดอุดรธานี

เรากลับมาเยือน สวนป่า จัดเองของ คุณศุภสันติ์ ศีรษะพล อีกครั้ง เห็นความเปลี่ยนแปลงเหล่าต้นไม้ยังเติบใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ความร่มรื่น

บ้านสีขาวกลางสวนกลิ่นอายโพรวองซ์ โซนใหม่ของร้าน Whispering cafe

จากประสบการณ์ที่ได้ไปทำงานที่โครงการโพรวองซ์ เขาใหญ่อยู่หลายต่อหลายครั้ง ทำให้คุณวิทย์ – ศิริวิทย์ ริ้วบํารุงเก็บเอารู้สึกชอบและประทับใจกับบ้านและสวนสไตล์ดังกล่าวไว้ในใจก่อนจะนำเอาความรักและประสบการณ์นี้มารังสรรค์ปรุงแต่งในพื้นที่ต่อขยายโซนใหม่ของร้าน Whispering cafe ซึ่งเคยสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเรามาก่อนหน้านั้น โดยตั้งใจทำให้สวนในโซนนี้โดดเด่นด้วยบ้านสีขาวหลังใหญ่ที่ดูเรียบง่าย ออกแบบจากธรรมชาติและสิ่งของที่มีอยู่เดิมในกลิ่นอายของดินแดนโพรวองซ์ที่รัก เจ้าของ – จัดสวน : คุณศิริวิทย์ และคุณศิริลักษณ์ ริ้วบำรุง “แรกเริ่มที่ดินบริเวณนี้มีลักษระเป็นร่องสวนซึ่งเราถมดินเป็นโคกเพื่อเตรียมทำอาคารและสร้างสวนตรงนี้เป็นตำแหน่งต่อไปจากส่วนด้านหน้า จากนั้นเราก็เริ่มปลูกต้นไม้และขุดสระตามรูปทรงที่อยากได้ การออกแบบสวนเราต้องมีการวางแผนและคิดถึงอนาคตว่าเราอยากทำอะไรบ้าง เมื่อเราวางแผนแล้วว่าจะสร้างอาคารตรงนี้ ก็ต้องวางตำแหน่งถนนทางเข้าออกที่เชื่อมต่อพื้นที่ทุกส่วนไว้ด้วยกัน อย่างสวนและบ้านโซนนี้ก็มีทางเข้าออกของตัวเองที่ไม่ต้องใช้ร่วมกับสวนด้านหน้า หากวันหนึ่งในอนาคตนี่ไม่ใช่ร้าน เราอาจปรับเป็นบ้านเอาไว้อยู่อาศัยแยกเป็นอีกหลังได้” จากความตั้งใจแรกที่ต้องการให้ Whispering cafe เป็นร้านอาหารขนาดเล็กและห้องเรียนของเด็กๆไปด้วยในตัว แต่ปรากฏว่ามีคนที่สนใจมาใช้บริการเป็นจำนวนมากทำให้ร้านเดิมมีขนาดเล็กจนเกินไป เมื่อเปิดบริการแล้วปรากฎว่าที่นั่งไม่พอนั่งจึงต้องขยายมาในที่ดินแปลงใหม่ด้านหลัง ด้วยเหตุนี้คุณวิทย์จึงไม่ทำอาคารเล็กเพิ่มอีกหลังเพราะถ้าหากไม่พอนั่งก็ต้องขยายไปอีกหลังเรื่อยๆ อีกทั้งอาคารหลังใหญ่ยังใช้จัดอีเว้นท์หรือทำกิจกรรมหลายประเภทได้ด้วย สามารถรับคนใช้บริการได้เยอะขึ้น ทั้งยังดูแลง่ายจัดการพนังงานบริการได้ง่าย อาคารรูปทรงจั่วสีขาวหลังใหญ่ออกแบบให้มีประตูหน้าต่างตรงข้ามกันทุกด้านช่วยให้สามารถรับลมได้ดีมากขึ้น ซึ่งเป็นประตูและหน้าต่างของเก่าจากประเทศพม่าที่คุณวิทย์สะสมไว้ตั้งแต่แรกและมีปริมาณเยอะ ซึ่งมีสไตล์โพรวองซ์เชื่อมต่อกันกับอาคารหลังแรกของร้านที่ให้กลิ่นอายแบบชนบทของประเทศฝรั่งเศสไว้ โดยนำเอาวัสดุง่ายๆที่หาได้ใกล้ตัวมาประยุกต์ใช้แทน จุดเด่นคือใช้โครงสร้างไม้เป็นโครงสร้างหลัก ผนังฉาบปูนแบบไม่เรียบ ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านไม้ในสมัยก่อนผสมอยู่ด้วย ” เมื่อเราเห็นบ้านและสวนในโพรวองซ์มันทำให้รู้สึกเหมือนเราได้พักผ่อน ประกอบกับเราชอบของวินเทจที่ใช้ตกแต่งบ้านหลังนี้ด้วย มันเลยกลายเป็นสไตล์ที่เราหลงรัก เราเห็นแล้วอยากมีบ้านแบบนี้ นี่จึงกลายเป็นรงบันดาลใจให้เราอยากทำบ้านและสวนแบบนี้ในโซนใหม่ของ Whispering cafe แต่ก็ไม่ได้เอามาทั้งหมด เราแค่เก็บเอากลิ่นอายมาใช้เฉยๆเท่านั้น ” สวนสไตล์โพรวองซ์มีลักษณะที่ดึงเอาสวนแบบฝรั่งเศสที่มีรูปแบบการออกแบบที่เน้นการตัดแต่งแบบฟอร์มัลชัดเจนมาลดทอนให้ดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น […]

ส่องบอนสีชื่อดังจาก “สวนชื่นเจริญ” พร้อมเผยเคล็ดลับดูแลบอนสีในฤดูหนาว

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบมาเดินซื้อต้นไม้ในงานบ้านและสวนแฟร์ช่วงเช้าทันทีที่งานเปิด คุณคงแปลกใจกับภาพผู้คนมากมายที่มามุงดูและรายล้อมที่จะซื้อบอนสีจากร้านแห่งหนึ่งภายในงานทุกวัน ร้านแห่งนั้นคือ “สวนชื่นเจริญ” ของคุณสำเริง ชื่นเจริญ ผู้ขายและเพาะพันธุ์บอนสีมานานกว่า 24 ปี ด้วยราคาที่ย่อมเยาว์ประกอบกับสายพันธุ์บอนสีที่สวยงามหลากหลายเป็นที่ต้องการของตลาดทำให้ร้านสวนชื่นเจริญเป็นที่รู้จัก และยิ่งมีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้นไปอีกในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมาเมื่อกระแสบอนสีมาแรง เราจึงขอพาทุกท่านมาเยี่ยมชมบอนสีสวยๆที่สวนชื่นเจริญถึงที่ (สวนไม่เปิดให้คนทั่วไปเข้าไปซื้อได้ด้วยตัวเอง) รวมถึงไขทุกข้อสงสัยต่างๆ และการดูแลในช่วงฤดูหนาวที่บอนสีอาจเริ่มพักตัวหายไป ทำไมถึงเริ่มปลูกและจำหน่ายบอนสี ? “เริ่มเข้าสู่วงการบอนสีตั้งแต่งานสวนหลวงร.9 ปี 2543 เราขายบอนสีอย่างเดียวเพราะว่าเราชอบ ก่อนหน้านั้นก็เริ่มจากการเลี้ยงดูเล่นเองจนพอมีฝีมือก็เริ่มไปดูเขาประกวดและเข้าประกวดเอง หลังจากนั้นคนในวงการบอนสีก็แนะนำให้เราผ่าขยายพันธุ์เพื่อจัดจำหน่ายบ้าง มันก็เป็นจุดเริ่มต้นจากตรงนั้น การซื้อบอนสีต้นหนึ่งเหมือนการลงทุนเพียงครั้งเดียว เราสามารถขยายพันธุ์ได้เป็น 10-20 ต้นหรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับขนาดของหัว จากนั้นเราก็ไม่จำเป็นต้องซื้อต้นพันธุ์แล้ว ผมปลูกบอนสีเป็นอาชีพขายมาโดยตลอดเป็นระยะเวลาหลายปี เพราะปลูกบอนสีใช้พื้นที่ปลูกไม่เยอะ ขายมาตั้งแต่ต้นละ 10 บาท แล้วเราก็ผสมดอกให้เกิดสายพันธุ์ใหม่ๆของเราเองหลากหลายสายพันธุ์ขึ้น สมัยก่อนก็ทำส่งเป็นส่วนใหญ่เป็นหัวขนาดเล็กส่งไปตามออร์เดอร์ของลูกค้าตามสายพันธุ์และจำนวนที่ลูกค้าต้องการ” จุดเด่นของบอนสีจากสวนชื่นเจริญคืออะไร? “บอนสีที่สวนของเราส่วนมาก 98 เปอร์เซ็นต์คือบอนสีที่เราเพาะพันธุ์เองและจำหน่ายเองกว่า 50 ชนิด สวนของเราจุดเด่นคือเน้นสีสันและลวดลาย ในราคาจับต้องได้ มีความหลากหลายเพราะคนส่วนใหญ่ชอบไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นสายพันธุ์อื่นส่วนมากจะปลูกเพื่อดูเล่นไม่ได้จัดจำหน่าย  เพราะฉะนั้นในวงการบอนสีทุกสวนส่วนใหญ่ก็จะทำแต่สายพันธุ์ของตัวเองขายเท่านั้น ตลาดก็จะไม่ซ้ำกัน ไม่ชนกัน และคนก็จะไม่เบื่อ “โดยเราก็จะตะเวนไปขายต้นไม้ตามงานขายต้นไม้อย่างงานบ้านและสวนแฟร์หรือตามอีเว้นท์ในห้างสรรพสินค้าทั่วไป เนื่องจากเราเป็นสวนปิดก็จะให้ลูกค้ามาซื้อได้ตามงานอีเว้นท์ที่เราไปออกบูธเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ลูกค้าเข้ามาซื้อที่สวนได้โดยตรง […]

ร้านเจียไต๋ ฟาร์ม สุขุมวิท 60 ส่งต่อความสดใหม่จากฟาร์มสู่มือคุณ

จากเมล็ดพันธุ์ที่คัดสรรสายพันธุ์มาแล้วอย่างพิถีพิถันสู่ผลผลิตที่สดใหม่และได้คุณภาพที่ดีที่สุดแก่เกษตรกรและผู้บริโภค มาวันนี้บริษัทเจียไต๋ จำกัดพร้อมแล้วที่จะปรุงวัตถุดิบที่ส่งตรงจากฟาร์มพร้อมเสิร์ฟสู่มือลูกค้าในเมืองในพื้นที่แห่งใหม่ เจียไต๋ ฟาร์ม สุขุมวิท 60 พร้อมกับก้าวใหม่สู่ประสบการณ์ความพิเศษที่ต่อยอดมาจากเมล็ดพันธุ์ของเจียไต๋ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการเกษตรของไทย ด้วยวิสัยทัศน์ซึ่งต้องการให้สังคมไทยเกิดแรงบันดาลใจในการพัฒนาธุรกิจด้านการเกษตรเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของครัวโลก ส่งเสริมการบริโภคผลผลิตและสนับสนุนอาชีพเกษตรกรรมตั้งแต่ระดับครัวเรือนถึงอุตสาหกรรมแบบครบวงจร เพื่อทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรดีขึ้น โดยสร้างมูลค่าเพิ่มและคุณค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตรผ่านการพัฒนาสินค้า การตลาด และช่องทางการจัดจำหน่ายรูปแบบใหม่ที่นำเสนอสินค้าของเจียไต๋ ผ่านการสอดแทรกให้เห็นและสัมผัสถึงแนวคิดปรัชญาในการทำธุรกิจที่ใส่ใจคุณภาพในทุกกระบวนการทำงาน เพื่อเข้าถึง สร้างแรงบันดาลใจ และส่งมอบสินค้าที่ดีให้แก่กลุ่มผู้บริโภคโดยตรง ร้านเจียไต๋ ฟาร์ม สุขุมวิท 60ตั้งอยู่หน้าอาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัทเจียไต๋ จำกัด โดดเด่นด้วยอาคารรูปทรงโมเดิร์นเข้ากันกับบริบทของเมืองใหญ่โดยรอบในย่านพระโขนงริมถนนสุขุมวิท แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ชั้น ชั้นแรกเป็นส่วนร้านอาหารและคาเฟ่ ซึ่งบริเวณด้านหน้ามีมุมจำหน่ายวัตถุดิบในการทำอาหารและผลผลิตทางการเกษตรที่สดใหม่จากเจียไต๋ ฟาร์มโดยตรง  เช่นเดียวกับเมนูอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดที่ได้พัฒนาสูตรมาเป็นอย่างดีและทำใหม่สดๆทุกจานจากมือเชฟชื่อดังมากฝีมือ เชฟกัมพล ธารีเทียนและทีมงานที่รังสรรค์เมนูมาจากวัตถุดิบหลักที่มีชื่อเสียงของเจียไต๋ ฟาร์มอย่างเมล่อน, ฟักทองมินิบอล, แตงกวาลิซ่าและมะเขือเทศโรสเชอรี่ โดยในอนาคตจะมีมุมสำหรับให้ลูกค้าสามารถตักสลัดบาร์ตามชอบใจแบบรีฟิลให้ซื้อไปทานเป็นอาหารเพื่อสุขภาพได้อีกด้วย การตกแต่งภายในใช้โทนสีเทาเข้มเป็นสีหลัก รับกันกับเส้นสายสไตล์โมเดิร์นซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากบรรยากาศในธรรมชาติที่มีต้นไม้ใหญ่สำหรับให้ร่มเงาภายในอาคาร ผสมกับวัสดุกรุพื้นและผนังที่ให้ผิวสัมผัสของสีไม้ในธรรมชาติสลับกับหินสีขาวที่ดูแล้วสบายตาและอบอุ่นเป็นกันเอง โดยมุมที่ไม่ควรพลาดคือบันไดเชื่อระหว่างชั้นหนึ่งและชั้นสองที่ใช้ฉากกั้นทำจากแผ่นอะคริลิคใสนับร้อยซึ่งภายในฝังด้วยเมล็ดพันธุ์ที่จัดเรียงเป็นลวดลายอย่างสวยงามไม่ซ้ำกัน และบริเวณชั้นสองใช้เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมเวิร์คช้อปทั้งแบบเอนกประสงค์ทั้งประเภทงาน DIY งานฝีมือ และการปลูกต้นไม้ รวมถึงประเภทสอนทำอาหารจากวัตถุดิบที่สดใหม่จากฟาร์มพร้อมแจกสูตรอาหารที่การันตีโดยเชฟให้ทุกคนได้ปรุงความอร่อยง่าย ๆ กันที่บ้าน นอกจากนั้นยังมีมุมสำหรับจำหน่ายเมล็ดพันธุ์พร้อมปลูกที่ผู้ที่สนใจสามารถซื้อไปปลูกที่บ้านได้เลย สามารถไปลิ้มลองเมนูอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ รวมถึงเลือกสรรสินค้าเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์และการปลูกต้นไม้ที่น่าสนใจได้ที่ร้านเจียไต๋ ฟาร์ม สุขุมวิท 60 […]

กุหลาบจุฬาลงกรณ์ อนุสรณ์รักพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ เจ้าดารารัศมี

ความหอมกรุ่นและสีชมพูแสนอ่อนหวานของ “กุหลาบจุฬาลงกรณ์” กุหลาบไร้หนามพันธุ์พิเศษจากดอยแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่เย้ายวนใจให้มีผู้คนปลูกมาเป็นระยะเวลานานสืบต่อจนประวัติศาสตร์ของที่มาเริ่มจางหายไปตามกาลเวลาคงไว้แต่เพียงพระนามาภิไธยแห่งกุหลาบสายพันธุ์นี้ ซื่งเมื่อเราเริ่มกลับเข้าไปสืบค้นถึงที่มากลับยิ่งพบกับความสวยงามของเรื่องราวที่อ่อนหวานเสียยิ่งกว่าความงามของกุหลาบนี้ เพราะนี่คือสัญลักษณ์แห่งตํานานรักของ “เจ้าดารารัศมี” เจ้าหญิงล้านนา และ “พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5”  “กุหลาบจุฬาลงกรณ์ เป็นดอกไม้ที่มีความหมายแห่งความระลึกถึงไม่ว่าจะเป็นของพระราชชายา เจ้าดารารัศมีที่ทรงมีต่อล้นเกล้าฯ ในหลวงรัชกาลที่ 5 หรือของเราเองที่จะพึงมีต่อสองพระองค์ท่านเมื่อใดก็ตามที่เราได้เห็นกุหลาบจุฬาลงกรณ์ เราจะไม่ลืมระลึกถึงความรักที่พระราชชายาทรงเคยให้กับกุหลาบต้นนี้เมื่อ 80 ปีที่แล้ว” ข้อความส่วนหนึ่งจากหนังสือ “ดารารัศมี – สายใยรักสองแผ่นดิน” กล่าวถึงเรื่องราวได้ชัดเจน เจ้าดารารัศมี เจ้าหญิงในราชวงศ์ทิพย์จักรจากนครเชียงใหม่ ประสูติเมื่อวันอังคาร ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2416 เวลา 00.30 น.เศษ ณ คุ้มหลวงกลางเวียง นครเชียงใหม่ ทรงมีบทบาทสำคัญต่อการรวมล้านนาเข้ากับสยาม โดยการถวายตัวเป็นบาทบริจาริกาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และยังทรงฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมล้านนา หลังพระราชสวามีเสด็จสวรรคตเจ้าดารารัศมีจึงเสด็จนิวัตเชียงใหม่ แม้ไม่มีใครทราบประวัติที่มาของกุหลาบต้นแรกนี้แน่ชัด แต่คาดว่าด้วยเหตุที่พระองค์ทรงเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของราชสมาคมกุหลาบแห่งอังกฤษ จึงได้รับการถวายพันธุ์กุหลาบต่าง ๆ ทุกปี ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นกุหลาบขนาดใหญ่ สีชมพูระเรื่อ ไร้หนาม และส่งกลิ่นหอมตลอดเวลา ซึ่งสันนิษฐานว่ากุหลาบต้นนั้นต่อมาจึงพระราชทานนามว่า “จุฬาลงกรณ์”เพื่อถวายเป็นพระบรมราชานุสรณ์แด่พระสวามีผู้เป็นที่รักยิ่ง […]

รวมไอเดียจัดสวนแบบประหยัดและใช้งบน้อยลงกว่าที่ต้องจ่าย

ช่วงนี้จะจับจ่ายใช้สอยเงินก็อาจต้องคิดแล้วคิดอีก อะไรประหยัดได้ต้องประหยัด แต่ครั้นจะปล่อยให้สวนรกไม่สวยงามก็ดูใช่เรื่อง อย่างไรเสียคนเราก็ยังต้องการพื้นที่สวนสำหรับพักผ่อนหย่อนใจได้ออกไปสัมผัสธรรมชาติกันบ้าง เราจึงขอรวบรวมไอเดียทั้งการจัดสวนและดูแลสวนแบบที่ไม่ต้องเสียเงินหรือประหยัดเงินในกระเป๋าคุณไปได้มากทีเดียว จะมีไอเดียจัดสวนแบบประหยัดอะไรบ้าง มาดูกัน ดินเราเองก็มีไม่ต้องซื้อ เงินก้อนใหญ่สําหรับการจัดสวนส่วนหนึ่งหมดไปกับการซื้อดินจากที่อื่นมาถมปรับระดับพื้นที่ หากสวนมีขนาดเล็กหรือเป็นพื้นที่ที่จัดสรรเอาไว้แล้วก็อาจเสียเงินในส่วนนี้ไม่มาก เพราะส่วนใหญ่จะได้ระดับอยู่แล้วและไม่มีความจําเป็นต้องปรับระดับเพิ่ม แต่หากคุณมีพื้นที่ขนาดใหญ่ รับรองว่างบบานปลายแน่นอน ดังนั้นจึงควรสํารวจพื้นที่แล้วใช้วิธีวางผังสวนให้มีระดับสูงตํ่าตามการใช้งานจริง แล้วตักดินในพื้นที่ไปถมในส่วนที่ต้องการ โดยกําหนดระยะความสูงของพื้นที่สวน ส่วนมากจะอ้างอิงจากระดับถนนและพื้นที่สาธารณะด้านข้าง ซึ่งมักออกแบบให้พื้นที่ของเรามีระดับสูงกว่าพื้นที่สาธารณะอีกเล็กน้อยตั้งแต่ 0.15-1 เมตร จากนั้นขุดดินในบริเวณที่สูงกว่าระดับที่เราต้องการเพื่อมาถมให้สูงขึ้นจากเดิม หากพื้นที่มีความชันมากอาจต้องปรับระดับให้มีลักษณะเป็นขั้นบันได คือมีพื้นที่ที่ได้ระดับแบบสมํ่าเสมอเป็นช่วงๆ เพื่อไม่ให้ระดับความสูงต่าของพื้นที่ชันเกินไปจนอาจมีปัญหา ํ เรื่องการกัดเซาะ ดินไม่อยู่ตัวและถล่มได้ แต่หากระดับพื้นที่ของเราไม่มีบริเวณที่สูงกว่า อาจเลือกใช้การขุดบ่อและนําดินมาถมในบริเวณที่ต้องการใช้งาน ก็จะช่วยประหยัดค่าดินที่ต้องถมเพิ่มไปได้มาก อีกทั้งยังทําให้มีทิศทางระบายนํ้าที่ชัดเจนและมีบ่อนํ้าสําหรับใช้ประโยชน์ได้ ทําปุ๋ยใช้เอง อย่าเพิ่งมองข้ามข้อนี้ไป เพราะทุกวันเราสามารถทำปุ๋ยหมักที่ช่วยบำรุงดินและเพิ่มสารอาหารให้ต้นไม้ในสวนได้แบบคนขี้เกียจที่ไม่ต้องทำอะไรเลย โดยขอยกตัวอย่างสูตรและวิธีการทำปุ๋ยหมักมา2 แบบ คือปุ๋ยหมักจากเศษอาหารที่เหลือจากการกินในทุกวันทําได้โดยเตรียมถังพลาสติกเจาะรูรอบถังเพื่อระบายอากาศ จากนั้นก็นําเศษอาหารที่เหลือจากการบริโภคมาใส่ถังทุกวัน แล้วใช้ไม้คลุกเคล้าส่วนผสมวันละ 1-2 ครั้ง หากแห้งเกินไปให้พรมนํ้าไปด้วยแล้วปิดฝา หนึ่งเดือนต่อมาให้ลดการพรมนํ้าจนปุ๋ยแห้งสนิท ทิ้งไว้จนปุ๋ยหมักภายในกลายเป็นสีดําคลํ้าและเปื่อยยุ่ยจนมีขนาดเล็กลง นํ้าหนักเบา และไม่มีกลิ่นเหม็นเป็นอันใช้ได้ ปุ๋ยหมักจากเศษใบไม้หรือกิ่งไม้ที่ร่วงหรือทิ้งจากการตัดแต่งทําได้โดยเตรียมตะกร้าพลาสติกสําหรับทิ้งเศษใบไม้หรือกิ่งไม้ขนาดเล็ก ทุก 10 วัน นําสายยางมาเสียบลงไปในกองเศษใบไม้แนวดิ่งให้ลึกลงไปประมาณ 2 ใน 3 ของขนาดความสูงตะกร้าเพื่อเติมนํ้าด้านใน […]

อัปเดต 9 อโลคาเซียตัวใหม่ๆ สายพันธุ์ที่มาแรง น่าสะสม

อโลคาเซีย (Alocasia) หรือที่หลายคนคุ้นเคยในชื่อ “แก้วหน้าม้า” หรือ “นางกวัก” เป็นไม้ใบสวยอีกสกุลหนึ่งในวงศ์ Araceae ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ เพราะขณะนี้กำลังกลับมาเป็นที่นิยมของเหล่านักสะสมอีกครั้ง ฉบับนี้จึงรวบรวมต้นอโลคาเซียตัวใหม่ๆฮอตฮิตมาให้ชมกัน อโลคาเซียเป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี มีหัวสะสมอาหารอยู่ใต้ดิน ลำต้นเหนือดินเกิดจากกาบใบซ้อนกัน ใบเดี่ยวรูปหัวใจหรือลูกศร หลายชนิดได้รับการปรับปรุงพันธุ์ให้มีใบโดดเด่น สวยงามแปลกตา ปลูกเลี้ยงในกระถางใช้เป็นไม้ประดับตามระเบียง ริมหน้าต่าง หรือแม้แต่ในตัวบ้านได้ดี อโลคาเซียเป็นไม้ใบที่ปลูกเลี้ยงง่าย นิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีแยกหน่อ ชอบแสงรำไร ไม่ควรโดนแสงแดดจัดโดยตรงเพราะจะทำให้ใบไหม้ ชอบชื้นแต่ไม่แฉะ ดังนั้นสิ่งสำคัญก็คือวัสดุปลูกต้องเก็บความชื้น มีอินทรียวัตถุและระบายน้ำได้ดี หลีกเลี่ยงไม่ให้มีน้ำขังในจานรองกระถางเพื่อป้องกันรากเน่า หมั่นสำรวจและกำจัดหนอนผีเสื้อที่มักมากัดกินก้าน ใบ และอาจลามไปกินถึงเหง้า อย่างไรก็ตาม อโลคาเซียเกือบทุกชนิดมีสารแคลเซียมออกซาเลตที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อบริเวณที่สัมผัส เช่น ทำให้ผิวหนังเป็นผื่นแดงและคัน ดังนั้นจึงควรปลูกให้ห่างบริเวณที่มีเด็ก สัตว์เลี้ยง หรือคนเดินผ่านไปมา เรื่อง: อังกาบดอย ภาพ: Botanic at Home ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับไม้ใบหลากหลายชนิดได้เพิ่มเติมใน หนังสือ ไม้ใบ : Foliage Plants โดยสำนักพิมพ์บ้านและสวน

The Creeper House คาเฟ่ของคนรักต้นไม้

จากจุดเริ่มต้นที่หันมาสนใจปลูกต้นไม้เมื่อประมาณ 4 ปีก่อนเพราะเริ่มทำร้าน The Creeper House ใน อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง คาเฟ่บรรยากาศดีท่ามกลางสวนผลไม้ของ คุณแบงค์-ประดิทรรศณ์ เนียมผาสุข กับเพื่อนสนิทอีก 2 คน  คุณสิต-พัชรากร จุลม่อม และ คุณเอ-ณัฏถพงศ์ เจริญศักดิ์ ทำให้คุณแบงค์เริ่มลงมือปลูกต้นไม้และจัดสวนด้วยตัวเอง เพราะในระยะแรกที่ทำร้านต้องการประหยัดงบให้มากที่สุด จากสวนผลไม้ดั้งเดิมจึงค่อย ๆกลายมุมที่นั่งเก๋ๆ แทรกตัวอยู่ในสวน ส่วนที่อยู่ใกล้ร้านเน้นกลิ่นอายแบบอิงลิชคอทเทจ ขณะที่บางส่วนก็ยังคงบรรยากาศร่มรื่นของสวนผลไม้เดิมได้อย่างลงตัว เจ้าของ-จัดสวน :  คุณประดิทรรศณ์ เนียมผาสุข ที่อยู่ 34/8 ม.8 ถนนสาย 11 ซอย1 ตำบล มาบข่า อ.พัฒนานิคม จ.ระยอง โทรศัพท์ 096 945 4941 เนื่องจากคาเฟ่แห่งนี้ตั้งอยู่ในสวนผลไม้ จึงมีไม้ยืนต้นมากมายทั้งไม้ผลและต้นไม้ทั่ว ๆ ไป โดยสร้างอาคารให้แทรกไปกับต้นไม้เหล่านี้อย่างกลมกลืนและค่อย ๆ จัดสวนไปทีละมุม เพื่อจะได้ไม่ต้องใช้งบประมาณจัดสวนในครั้งเดียว จากส่วนจอดรถเมื่อเดินเข้ามาด้านในจะสัมผัสได้กับบรรยากาศร่มรื่นของสวนผลไม้เพราะจงใจทำทางเดินให้คล้ายกับอุโมงค์ต้นไม้ก่อนจะมาถึงส่วนคาเฟ่ที่เปิดเป็นลานโล่งก่อนเข้าสู่อาคาร “คาเฟ่ของเราเริ่มจากร้านเล็ก […]

สวนรีโนเวตแสนร่มรื่นที่งามตามกาลเวลา

มีคนเคยกล่าวว่า นักออกแบบที่ยิ่งใหญ่และอัจฉริยะที่สุดคือธรรมชาติ ซึ่งออกแบบสรรพสิ่งที่มีทั้งความเหมือนและความต่างให้เกิดความงามได้อย่างน่าสนใจ เมื่อนำทั้งสิ่งที่เหมือนและต่างนั้นมาอยู่ด้วยกันอย่างเป็นธรรมชาติก็สามารถผสมกลมกลืนเป็นเอกภาพที่สมบูรณ์ได้เฉกเช่นสวนรีโนเวตแห่งนี้ เจ้าของ : นาวาอากาศเอก ธนภัทร- คุณภูษณิศา งามปลั่ง ออกแบบ : บริษัทบ้านสรา คอร์ปอเรชั่น จํากัด โดยคุณสราวุธ ทูละมาลย์ โทรศัพท์09-1707-8349 ณ บ้านหรูริมทะเลสาบย่านชานเมืองของคุณหมู-นาวาอากาศเอก ธนภัทรและคุณชมพู- ภูษณิศา งามปลั่ง ดูเป็นธรรมชาติและร่มรื่นตั้งแต่บริเวณหน้าบ้าน โดยผสมผสานระหว่างรูปแบบการจัดวางกับงานฮาร์ดสเคปที่ให้กลิ่นอายของความร่วมสมัยแบบสวนยุโรป ขณะเดียวกันก็เลือกใช้พรรณไม้พื้นถิ่นของประเทศไทยและป่าเขตร้อนมาจัดวางไว้ด้วยกันได้อย่างน่าสนใจ จากฝีมือการออกแบบของ คุณสราวุธ ทูละมาลย์ นักจัดสวนแห่งบริษัทบ้านสรา คอร์ปอเรชั่น จากัด ที่ใช้เวลาออกแบบและดูแลสวนแห่งนี้เป็นระยะเวลานานกว่า 8 ปีมาแล้ว “ตอนที่ซื้อบ้านหลังนี้เราได้มุมที่ดีที่สุดของโครงการ  เป็นมุมที่ติดกับทะเลสาบ  สามารถมองออกไปเห็นดวงอาทิตย์ตกที่ทะเลสาบได้เลยจากในบ้าน  เป็นมุมที่สวยงามดีอยู่แล้ว  แต่กลับไม่มีต้นไม้อยู่เลยสักต้นเดียว  มีเพียงสนามหญ้าโล่งและแดดร้อนมาก  คุณสราวุธเป็นเพื่อนกับภรรยาของผมและเคยจัดสวนที่บ้านหลังเก่าของเรามาแล้ว  เราเห็นว่าเขาฝีมือดีก็เลยให้มาช่วยจัดสวนที่บ้านใหม่หลังนี้อีกครั้ง  โดยบอกโจทย์ว่าต้องการให้สร้างร่มเงาแก่ตัวบ้าน  ควรมีต้นไม้ใหญ่อย่างน้อย 4-5 ต้นเพื่อช่วยบังแดดไม่ให้เข้าบ้าน” คุณหมูเล่า หลังจัดสวนครั้งแรกเสร็จผ่านมาหลายปีจนต้นไม้ใหญ่เริ่มเติบโตและให้ร่มเงาที่เหมาะสมตามที่ต้องการได้แล้ว คุณหมูและคุณชมพูเริ่มอยากเปลี่ยนแปลงสวนอีกครั้ง โดยปรับเปลี่ยนพื้นที่ริมรั้วที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้มีพรรณไม้ที่ตรงตามความชอบของทั้งคู่มากยิ่งขึ้น ซึ่งคุณชมพูนั้นชอบไม้ดอก แต่คุณหมูยังชื่นชอบต้นไม้ใหญ่อยู่ นอกจาก นี้ยังย้ายตำ แหน่งศาลาจากด้านหลังมาอยู่บริเวณหน้าบ้านที่ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์ […]

ไขทุกข้อสงสัยที่คนรักบอนสีต้องรู้ กับผู้เชี่ยวชาญด้านบอนสีมากว่า 20 ปี

เวลานี้คงไม่มีต้นไม้ชนิดไหนมาแรงแซงโค้งเท่ากับ บอนสี ต้นไม้ใบที่เคยเป็นที่นิยมมาเมื่อนานมาแล้ว ปัจจุบันกลับได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้นไปอีกครั้งจากกลุ่มคนรักไม้ใบที่เริ่มให้ความสนใจและสะสมต้นไม้ชนิดนี้มากยิ่งขึ้น บ้านและสวน จึงพามาทำความรู้จักและเสาะแสวงเคล็ดลับการปลูกและการขยายพันธุ์ บอนสี เพื่อจำหน่ายเพิ่มเติมให้มากขึ้น หรือแม้แต่การผสมพันธุ์ให้ได้สายพันธุ์ใหม่ ๆ จากคุณครูปอ-จิระวัฒ แซ่อึ้ง แห่งสวนมณีมณ ผู้ซึ่งอยู่ในวงการไม้ใบและบอนสีมาแล้วกว่า 20 ปี จุดเริ่มต้นที่มารักบอนสี เริ่มต้นจากครอบครัวภรรยาของผมขายต้นไม้มาตั้งแต่แรก สมัยที่ยังต้องหาบต้นไม้ใส่กระถางดินเผาขึ้นเรือขึ้นรถเมล์ไปขายที่บางบำหรุและตลาดเทเวศร์ จากจุดเริ่มต้นที่เราปลูกต้นไม้ประดับขายมาก่อน จากนั้นพอมาเริ่มทำไม้ใบขายเรากลับรู้สึกชอบมากกว่า เพราะ มันไม่ต้องอยู่กลางแดดร้อนและไม่ต้องรดน้ำทุกวัน ตอนนั้นเริ่มมีบอนสีพันธุ์อัปสรสวรรค์ออกมาใหม่แล้ว เราก็เริ่มให้ความสนใจ ตอนนั้นราคาก็ไม่สูงและคนเล่นไม่มาก ส่วนมากจะรู้จักกันหมด แต่ก็มีเรื่องของค่าลิขสิทธิ์พันธุ์บอนสีในเวลานั้น ซึ่งหากซื้อขายกันก็ราคาหลักหมื่นอยู่ จากนั้นเราก็เริ่มปลูกและศึกษาเกี่ยวกับบอนสีจากที่ปลูกเป็นต้นไม้เล่น ๆ ก็เริ่มส่งประกวดนั้นเป็นระยะเวลามากว่า 20 ปีมาแล้ว ทำไมบอนสีปัจจุบันถึงราคาสูงขึ้นขนาดนี้ อย่าง”เมืองเกาะเกร็ด”ที่ผมผสมพันธุ์เองเมื่อ 2 ปีที่แล้ว มีจุดเด่น คือ สีสันใบสวย ปลูกง่าย และฟอร์มใหญ่ เราปล่อยขายในราคา 200 บาท ตอนนั้นก็คิดว่าแพงแล้ว แต่จะมีต้นที่สมบูรณ์มีหัวและฝักพร้อมทำพันธุ์ เราขายในราคา 200,000 บาท ซึ่งสามารถเป็นแม่พันธุ์ที่ดีและนำไปยอด เพื่อสร้างรายได้ได้ ปรากฏว่าของขายดีจนหมดและขาดตลาด ทีนี้คนต้องการมากขึ้นต้นที่ขนาดเล็กลง […]

แนบอุรา ต้นไม้เลื้อยแห่งหัวใจที่คล้ายกัน จาก 2 สกุล Scindapsus และ Rhaphidophora

เมื่อพูดถึงไม้ใบที่เรียกกันว่า “แนบอุรา” หรือ “หัวใจแนบ”ภาพในความคิดของหลายคนคงหนีไม่พ้นไม้ใบรูปหัวใจที่มักจำหน่ายเป็นไม้กระถางต้นเจริญเกาะเลื้อยแนบชิดกับแผ่นไม้เรียบหลากหลายขนาดแผ่นใบมีลวดลายหลากหลายแต่ก็ล้วนสะดุดตาแค่เพียงนำไปวางตกแต่งในบ้านหรือประดับสวนก็ช่วยเพิ่มเสน่ห์ชวนมองได้ไม่แพ้ไม้ใบชนิดอื่นลงสวนฉบับนี้จึงพาไปรู้จักไม้ใบลายสวยสุดเก๋เหล่านี้กัน แนบอุรา หัวใจแนบ Scindapsus pictus Hassk. ‘Argyraeus’ ไม้เลื้อยขนาดเล็ก เลื้อยได้ไกล 1-3 เมตร มีรากออกจากลำต้นเพื่อพยุงต้นให้เติบโต ใบรูปหัวใจออกเรียงสลับซ้ายขวาในระนาบเดียวกัน ลักษณะเด่นของชนิดนี้คือ แผ่นใบหนาสีเขียวอมเทาเป็นกำมะหยี่ มีแต้มด่างสีบรอนซ์เงินหลากหลายรูปแบบ อาจเป็นแต้มเล็ก ๆ หรือเป็นปื้นทั่วใบ จึงมีชื่อสามัญว่า Satin Pothos, Silk Pothos, Silver Hilodendron เป็นไม้ประดับที่นิยมปลูกเลี้ยงในเมืองไทยมานานแล้ว นอกจากแนบอุราสกุลซินแด็ปซัส (Scindapsus) ยังมีไม้ใบในสกุลราฟิโดฟอรา (Rhaphidophora) บางชนิดที่เรียกแนบอุราเช่นกัน ลักษณะเป็นไม้เลื้อย มีรากออกตามข้อ เมื่อยังเล็กใบรูปหัวใจหรือใบรี แต่เมื่อโตขึ้นจะเปลี่ยนเป็นอีกรูปทรงหนึ่งซึ่งแตกต่างจากเดิมอย่างเห็นได้ชัดเจน นิยมนำมาเลี้ยงให้เลื้อยขึ้นบนแผ่นไม้ ผนัง หรือใส่ในตู้เทอร์ราเรียม ตัวอย่างเช่น     แนบอุราชอบวัสดุปลูกโปร่งระบายน้ำได้ดีต้องการน้ำปานกลางความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศสูงแสงรำไรสามารถทนร่มได้ดีจึงปลูกเลี้ยงในบ้านได้แทบทุกชนิดเติบโตค่อนข้างช้านิยมปลูกเป็นไม้กระถางแขวนหรือเกาะกับหลักนำมาเลี้ยงให้เลื้อยขึ้นบนแผ่นไม้ผนังหรือลำต้นไม้ใหญ่ที่ชุ่มชื้นและเย็นหากได้รับแสงและความชื้นไม่เพียงพอรากและลำต้นจะไม่เกาะแนบกับพื้นผิววัสดุขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่ง เรื่อง: อังกาบดอย ภาพ: อภิรักษ์ สุขสัย, ธนกิตติ์ คำอ่อน ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับไม้ใบหลากหลายชนิดได้เพิ่มเติมใน หนังสือ […]