- Home
- room
room
HOUSE OF WINE อนุรักษ์อาคารเก่าจากคริสต์ศตวรรษที่ 19 ให้กลายเป็นบาร์ดีไซน์ร่วมสมัย
ไวน์บาร์ ที่ซ่อนตัวอยู่ในอาคารเก่าแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการฟื้นฟูและ อนุรักษ์อาคารเก่า ซึ่งเป็นโรงเบียร์จากยุคคริสต์ศตวรรษที่19 ใจกลางย่านประวัติศาสตร์ของเมืองซนอยโม สาธารณรัฐเช็ก ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งภายใต้การออกแบบที่ร่วมสมัย ซึ่ง House Wine มีแนวคิดการออกแบบการ อนุรักษ์อาคารเก่า ที่เน้นการสอดแทรกพื้นที่การใช้งานใหม่บรรยากาศสดใสเข้าไปในอาคารเก่า โดยปรับเปลี่ยนกายภาพของตัวอาคารให้น้อยที่สุด เล่าย้อนบรรยากาศไปอาคารเดิมมีลักษณะเป็นอาคารปูนขนาดใหญ่ สถาปนิกเลือกเก็บโครงสร้างภายนอกของอาคารไว้ดังเดิม เพื่อรักษาภาพลักษณ์ที่จะปรากฏขึ้นในใจกลางเขตเมืองเก่าไม่ดูโดดเด่นหรือแปลกแยก ในขณะเดียวกันก็รื้อการใช้งานภายในออกให้เหลือเป็นเพียงโถงโล่งกว้าง เพื่อจะได้บรรจุการใช้งานใหม่ได้อย่างยืดหยุ่นและอิสระ โดยฟังก์ชันที่ใส่เข้าไปใหม่นั้นมีลักษณะเป็นกล่องไม้สูงขึ้นไปประกอบด้วยชั้นลอย 2 ชั้น โดยใช้โครงสร้างที่แยกขาดจากตัวอาคารเดิมอย่างชัดเจน เป็นเหมือนการบรรจุไส้ในของตัวอาคารใหม่ โดยใช้โครงสร้างอาคารเดิมทำหน้าที่เป็นเพียงกล่องหุ้มในด้านรูปลักษณ์สถาปนิกเปลี่ยนกรอบอาคารเดิมให้เป็นสีขาวสะอาด แล้วออกแบบฟังก์ชันที่ใส่เข้าไปใหม่ให้มีสีสันเพื่อเน้นให้พื้นที่ใช้งานดูสนุกสนานและเป็นกันเอง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ไม้กับพื้นและผนังที่เป็นโครงสร้างคดโค้ง สร้างความรู้สึกลื่นไหลให้กับพื้นที่ ขณะที่เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์สมัยใหม่ที่มีสีสันสดใสอย่าง สีเหลือง แดง เเละน้ำเงิน เพื่อปรับบรรยากาศให้ดูสนุก ในขณะกันก็ยังสามารถรับรู้สภาพดั้งเดิมของอาคาร และมองผ่านหน้าต่างออกไปเห็นโบราณสถานใกล้เคียงได้ อันเป็นประสบการณ์จากการอาคารอนุรักษ์ที่น่ารื่นรมย์อย่างยิ่ง ข้อมูล เจ้าของ : Vinařství LAHOFER ออกแบบ : CHYBIK + KRISTOF ภาพ : Laurian Ghinitoiu, Alexandra Timpau […]
PORTABLE CABIN บ้านตู้คอนเทนเนอร์กลางสวนหลังน้อย
เอาใจคนมองหาไอเดีย บ้านตู้คอนเทนเนอร์ หลังน้อยกลางสวน เพื่อสร้างไว้สำหรับพักผ่อน หรือตากอากาศในต่างจังหวัด ด้วยการใช้ตู้คอนเทนเนอร์สองหลัง
ปิดล้อมสู่ความสงบใน พื้นที่สีเขียว ส่วนตัว
บ้านหลังนี้โดดเด่นด้วยการสร้างพื้นที่ส่วนตัวในแบบ พื้นที่สีเขียว ซึ่งมีต้นไม้และช่องเปิดสำหรับแสงธรรมชาติอยู่ภายใน การออกแบบพื้นที่ใช้สอยจากพื้นที่เล็กๆให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ โดยยังเชื่อมโยงกับธรรมชาติโดยรอบ จึงเป็นตัวอย่างที่ดีมากอีกหลังหนึ่งของการอยู่อาศัยในเขตเมืองอย่างเช่นกรุงเทพในทุกวันนี้ และผู้ที่ออกแบบบ้านหลังนี้ก็คือ TOUCH ARCHITECTS นั่นเอง เจ้าของ: คุณกายแก้ว อัมพรวิวัฒน์ และคุณสิริยศ ภูนุชออกแบบ: TOUCH ARCHITECT ความเป็นส่วนตัวที่ยังเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ด้วยความที่เดิมทีบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านจัดสรรค์ ที่ดินของบ้านแต่ละหลังจึงค่อนข้างอยู่ติดกันไปเสียหมด การออกแบบพื้นที่ที่มีความเป็นส่วนตัว จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องปิดกั้นพื้นที่ภายในจากพื้นที่ภายนอกเสีย แต่หากปิดกั้นไปเสียหมดแล้วก็จะทำให้รู้สึกอึดอัด ขาดการรับรู้ถึงบริบท และคงทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยภายในรู้สึกไม่ดีเป็นแน่ การออกแบบ facade skin หรือเปลือกอาคาร จึงเป็นสร้างองค์ประกอบที่จะช่วยพรางตาและสร้างความเป็นส่วนตัวได้โดยที่ผู้ที่อยู่ภายในยังรู้สึกสัมผัสกับธรรมชาติและบริบทรอบด้านได้อยู่ ผู้ออกแบบ เลือกที่จะใช้ระแนงเหล็กกล่องเพื่อพรางตาและสร้างความเป็นส่วนตัว แสงธรรมชาติที่ลอดผ่านซี่ระแนงนั้นยังคงทำให้ผู้อยู่อาศัยภายในบ้านรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนไปของบริบทโดยรอบอยู่นั่นเอง นอกจากนี้ การใช้ระแนงโลหะเป็นเปลือกอาคารยังทำให้ผู้ที่อยู่ภายนอกไม่สามารถมองเห็นผู้อยู่อาศัยภายในบ้านได้ แต่ในขณะเดียวกัน ผู้ที่อยู่ภายในยังสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆรอบตัวบ้านได้โดยทั่วเช่นเดิม พื้นที่จตุรัส ใช้งานได้คุ้มค่า สำหรับบ้านพื้นที่น้อย พื้นที่ของบ้านหลังนี้นั้นตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 50 ตารางวา หลังจากรื้อถอนบ้านเดิมออกแล้ว การออกแบบเพื่อตอบสนองการใช้งานใหม่จึงต้องมีการจัดวางผังเสียใหม่ ผู้ออกแบบเลือกวางผังบนกริดตารางแบบสี่เหลี่ยมจตุรัส เพื่อให้แบ่งพื้นที่ใช้งานออกเป็นพื้นที่ต่างๆได้ครบถ้วนกว่าสี่เหลี่ยมผืนผ้า(ในขนาดพื้นที่เดียวกันที่ดินแบบจตุรัสจะใช้งานได้มากกว่าแบบผืนผ้า) โดยที่เลือกให้ห้องรับแขกนั้นอยู่ด้านในจากหน้าบ้านเข้ามา และแบ่งพื้นที่ด้านหน้าออกเป็นห้องทำงานแบบ WFH ที่ต่อไปจะใช้เป็นห้องนอนสำหรับคุณพ่อคุณแม่ในอนาคต และพื้นที่ชั้นสองที่เป็นห้องนอนทั้งสองฝั่ง การเลือกให้ห้องนั่งเล่นอยู่ด้านในของตัวบ้านนั้นก็เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวจากถนนหน้าบ้านด้วยเช่นกัน โดยที่ห้องนั่งเล่นนี้จะสามารถเปิดออกไปยังชานหลังบ้านและรับกับสวนกลางบ้านได้พร้อมๆกัน ด้วยความที่บ้านหลังนี้มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด พื้นที่สัญจรภายในบ้านจึงเลือกที่จะหยิบยืมเอาจากพื้นที่ใช้งานต่างๆ […]
บ้านกลางเมือง THE EDITION บ้านใหม่ของชิปปี้ ที่เป็นได้มากกว่าบ้าน
ท่ามกลางโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว สำหรับหลายคนช่วงเวลาแสนสุขในบ้านหมุนช้าลงเสมอ อาจเพราะบ้านไม่ใช่เพียงที่พักอาศัยเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่แห่งการริเริ่มสร้างสรรค์ เป็นพื้นที่สำหรับไลฟ์สไตล์ส่วนตัวที่สะท้อนตัวตนและความสำเร็จ เช่นเดียวกับคุณชิปปี้ – ศิรินทร์ ปรีดียานนท์ นักแสดงสาวรุ่นใหม่ไฟแรง ที่ตั้งใจให้บ้านแฝดสไตล์โมเดิร์น 3 ชั้นหลังใหม่ในโครงการ บ้านกลางเมือง THE EDITION สาทร-สุขสวัสดิ์ เป็นอาณาจักรส่วนตัวแห่งใหม่ใจกลางเมือง รองรับและตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกด้าน บ้านกลางเมือง THE EDITION สาทร – สุขสวัสดิ์ โครงการบ้านแฝด 3 ชั้น ที่นำเสนอการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วน ขณะเดียวกันก็ยืดหยุ่นสำหรับการปรับเปลี่ยน ด้วยแบบบ้าน X-Tale ที่มาพร้อม 3 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ในพื้นที่ใช้สอย 222 ตารางเมตร ด้วยจุดเด่นไม่เหมือนใคร บ้านแฝดจึงเป็นอีกทางเลือกที่กำลังได้รับความนิยม ดังนั้น นอกจากทำเลศักยภาพย่านสุขสวัสดิ์แล้ว แบรนด์นี้ยังมีอีกหนึ่งทำเลน่าสนใจอย่างโครงการใหม่ล่าสุด บ้านกลางเมือง THE EDITION พหลฯ-รามอินทรา ซึ่งจะเปิด PRE-SALE ในวันที่ […]
V.O. ร้านอาหารจีน ไฟน์ไดนิ่ง ตกแต่งสไตล์คอนเทมโพรารีร่วมสมัยมากลูกเล่น
ร้านอาหารจีน ไฟน์ไดนิ่ง ในเมืองเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน โดดเด่นด้วยการตกแต่งสไตล์คอนเทมโพรารี เน้นนำเสนอความอร่อยผ่านบรรยากาศที่มีความทันสมัย ไปจนถึงบรรยากาศที่มีลูกเล่นของพื้นที่ เพื่อสร้างประสบการณ์ระหว่างมื้ออาหารอันสุนทรีย์ ถ่ายทอดการจัดการสเปซ ร้านอาหารจีน แห่งนี้ ผ่านลูกเล่น รูปร่าง และระดับที่หลากหลาย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Wandering in Valleys – ท่องทั่วทิวหุบเขา” ตั้งแต่ส่วนฟาซาดสีบรอนซ์ทรงสูงที่ช่วยป้องกันแสงจ้าในเวลากลางวัน ทางเดินที่ล้อไปตามระนาบความโค้งของผนัง ฝ้าเพดานที่กดต่ำลง ระยะกว้างแคบและองศาทั้งหมดช่วยสะท้อนบรรยากาศราวกับเดินอยู่ท่ามกลางหุบเขาที่มีพรรณไม้สูงต่ำสลับซับซ้อน ก่อนจัดเสิร์ฟอาหารจีนที่ได้รับการสร้างสรรค์อย่างพิถีพิถัน เด่นด้วยวัตถุดิบชั้นดีที่ส่งตรงจากฟาร์มสู่โต๊ะอาหาร อันเป็นหัวใจสำคัญของร้านนี้ เพื่อถ่ายทอดความงดงามทุกกระบวนการ ตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก วัตถุดิบจากฟาร์มออร์แกนิก การทำอาหารที่ผสานเทคนิคแบบจีนแท้ ๆ แต่สามารถเข้ากับรูปแบบการนำเสนอสมัยใหม่ ที่ล้อไปกับบรรยากาศของพื้นที่ที่มีมุมมองแปลกใหม่ ไม่ธรรมดา เรียกว่าทุกองค์ประกอบจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากขาดการทดลองทำงานกับวัสดุ ก่อนจะส่งไม้ต่อให้เมนูอาหารเป็นบทสรุปของไฟน์ไดนิ่งในแต่ละวัน Idea To Steal การเล่นสนุกกับการซ่อนไฟ (Indirect Light) ผ่านตัวกลางรูปแบบต่าง ๆ เช่น ซ่อนใต้ฝ้าที่เบิ้ลระดับขึ้นอีกชั้น หรือการเบิ้ลผนังซ่อนไฟให้เหมือนกับผนังลอยได้ หรือซ่อนกับขอบด้านในของประตู เหมาะกับบาร์ที่ต้องการสร้างบรรยากาศจากแสงไฟสีนุ่มนวล ข้อมูล เจ้าของ : Voisin Organique […]
KIEW KAI KA ยกทัพสำรับไทย จัดเสิร์ฟในร้านบรรยากาศยุโรป
ร้านเขียวไข่กา l Kiew Kai Ka สาขาลาซาล อิ่มอร่อยกับอาหารไทยภาคกลาง-ใต้ ในร้านสีเขียวลุคเฟมินีน สวยหรูสไตล์วินเทจ อีกหนึ่งร้านอาหารไทยรสชาติถึงเครื่อง กับการขยายสาขาใหม่ล่าสุดมายังย่านบางนา ภายในโครงการ Sunny at Summer Lasalle โดยครั้งนี้ขอแตกต่างด้วยสไตล์การตกแต่งที่ฉีกแนวออกจากสไตล์อินดัสเทรียลสุดเคร่งขรึมในเรือนกระจก ซึ่งเป็นภาพที่แฟนประจำของร้านจดจำได้จากสาขาแรกที่ซอยนาคนิวาส มาสู่ลุคความเป็นเฟมินีนดูโก้หรู เจือกลิ่นอายย้อนยุค เมื่อมองเข้ามาจากถนนในซอยลาซาล ตัวร้านจะอยู่ใต้อาคารที่ยังคงโดดเด่นด้วยธีมสีเขียว เรียกว่ามองปราดเดียวก็รู้ว่านี่คือ ร้านเขียวไข่กา ผนังร้านถูกล้อมด้วยช่องแสงกระจกทรงโค้งตัดขอบด้วยกรอบสีทองดูหรูหรา แม้ตัวร้านจะเป็นส่วนหนึ่งของอาคารในโครงการ Sunny at Summer Lasalle แต่ก็ยังไม่ลืมภาพของความเป็นร้านอาหารบรรยากาศกลาสเฮ้าส์ ด้วยการนำมาสร้างสรรค์กับสาขานี้ด้วย ทั้งยังปรับเปลี่ยนจากสไตล์อินดัสเทรียล มาสู่บรรยากาศหรูหรา และมีความเป็นแฟมินีนมากขึ้น คุณดนัย สุราสา ได้เล่าถึงแนวคิดการออกแบบเขียวไข่กาสาขาลาซาลให้ฟังว่า “จากความต้องการของเจ้าของที่อยากให้สาขาใหม่ยังคงมีบรรยากาศแบบกลาสเฮ้าส์ เราจึงเลือก The Crystal Palace ในกรุงลอนดอน ซึ่งสร้างขึ้นในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมมาเป็นต้นแบบ ด้วยการหยิบเอกลักษณ์การขึ้นโครงเหล็กทรงโค้งที่ดูบางเบามาเป็นไอเดีย โดยนำเส้นสายพวกนั้นมาใช้แบบกลับหัว ในส่วนของช่องแสงรอบผนังร้าน รวมถึงองค์ประกอบงานตกแต่งภายในต่าง ๆ ” เช่นเดียวกับธีมการใช้สีเขียวที่ครั้งนี้มีความเทรนด์ดี้มากขึ้น ด้วยการเลือกใช้สี Teal Blue […]
บ้านตอบโจทย์ครอบครัวต่างวัย เปิดสเปซเชื่อมต่อความสุข
เมื่อถึงคราวต้องปรับเปลี่ยนที่อยู่อาศัย จากบ้านที่เป็นอาคารพาณิชย์ในตัวเมืองเชียงใหม่ สู่การสร้างบ้านหลังใหม่ ซึ่งเป็นอีกบทหนึ่งของชีวิต แน่นอนว่าต้องเป็นบ้านที่ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการพักผ่อนและทำกิจกรรมต่าง ๆ เหนืออื่นใดคือต้องเติมเต็มความสุขให้สมาชิกทุกคน แม้จะต่างวัยกันแค่ไหน แต่ก็อยู่ร่วมกันได้อย่างอบอุ่น จากทำเลที่มองเห็นวิวดอยคำ ดอยสุเทพ และใกล้กับอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ในจังหวัดเชียงใหม่ ครอบครัวขยายของสองทันตแพทย์ ทพ. วัลลภ ธีรเวชกุล และ ทพญ. สรินภรณ์ ธีรเวชกุล ได้ไว้วางใจให้ทีมสถาปนิกจาก STUDIO SATi มารับหน้าที่ออกแบบบ้านให้สอดคล้องกับบริบท และความต้องการของสมาชิก 3 เจเนอเรชั่นที่ย้ายเข้ามาอยู่พร้อมหน้ากันถึง 7 คน โดยมีคุณยาย 2 ท่าน คุณพ่อคุณแม่ ลูกชาย ลูกสาว และหลาน ความท้าทายจึงอยู่ที่การออกแบบให้ทุกคนสามารถมีปฏิสัมพันธ์กัน ไปพร้อม ๆ กับมีพื้นที่สำหรับกิจกรรมส่วนตัว รวมถึงเป็นพื้นที่ที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก ๆ ในบ้านด้วย เนื่องจากตัวบ้านหันไปทางทิศใต้กึ่งตะวันตก ซึ่งเป็นทิศที่รับแดดบ่ายโดยตรง การออกแบบสถาปัตยกรรมจึงต้องคำนึงถึงปริมาณแสงและความร้อนเป็นพิเศษ สถาปนิกออกแบบผนังด้านหน้าบ้านเป็นลักษณะแนวผนังทึบก่ออิฐมอญบิดมุมให้เกิดองศาที่พอเหมาะเพื่อช่วยบังสายตาและกันแสงแดด โดยมีช่องเปิดให้ลมพัดผ่านและมองเห็นวิวได้ “เราออกแบบให้ตัวโถงบันไดและสระว่ายน้ำอยู่ด้านหน้าบ้าน ให้เป็นส่วนรับแดดช่วงบ่าย การใช้น้ำมาเป็นองค์ประกอบจะช่วยให้บ้านไม่ร้อนมาก และมีโถงบันไดด้านหน้าซึ่งเป็นจุดรับความร้อนได้ดี ออกแบบให้มีผนังอิฐเฉียงเพื่อบังแดดและบิดมุม […]
บ้านไม้ไผ่ อยู่อย่างเป็นมิตรกับธรรมชาติในกาลาปากอส
บ้านไม้ไผ่ รูปทรงโมเดิร์นตั้งอยู่ที่เกาะซานกริสโตบาล ส่วนหนึ่งของหมู่เกาะกาลาปากอส ในประเทศเอกวาดอร์ ก่อสร้างขึ้นโดยใช้ทรัพยากร พลังงาน แรงงาน และการขนส่งในพื้นที่ โดยพยายามให้เกิดความยั่งยืนและเป็นมิตรกับธรรมชาติมากที่สุด Dany และ Jenny คู่สามีภรรยาเจ้าของ บ้านไม้ไผ่ ตั้งใจสร้างที่นี่ขึ้น หลังจากที่ทั้งคู่มีลูกคนแรก แล้วต้องการพื้นที่พักอาศัยที่กว้างขึ้น โดยได้รับคำปรึกษาจาก ESEcolectivo ก่อนออกมาเป็นบ้านที่ใช้โครงสร้างไม้ไผ่ทั้งหลัง โดยใช้แรงงานและภูมิปัญญาท้องถิ่นภายใต้งบประมาณที่ไม่สูงนัก เพื่อให้เข้ากันดีกับบริบททางธรรมชาติอันเปราะบางของหมู่เกาะกาลาปากอส บ้านทั้งหลังจึงต้องออกแบบให้สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างสมดุล ลดการใช้พลังงาน และพึ่งพาตนเองได้ เห็นได้จากการแบ่งพื้นที่รอบบ้านสำหรับทำแปลงปลูกผักใช้รับประทานในครอบครัว ขณะที่พื้นที่ใช้สอยภายในขนาด 120 ตารางเมตร สถาปนิกได้แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ชั้น ชั้นล่างประกอบด้วยส่วนห้องน้ำ ส่วนซักล้าง และห้องพักสำหรับผู้สูงอายุ แบ่งพื้นที่รอบแกนบันไดให้มีขนาดกว้าง เพื่อทำหน้าที่เป็นทางเดินไปขึ้นสู่ชั้นบนสุดมองเห็นวิวทะเลได้ ทั้งยังช่วยในการไหลเวียนอากาศทั่วทั้งบ้าน ชั้น 2 มีห้องพัก 2 ห้อง คือ ห้องนอนใหญ่ และห้องเด็กเล่น เผื่อสำหรับในอนาคตเมื่อลูกเติบโตขึ้น เขาสามารถย้ายมาพักที่ห้องนี้ได้เพื่อความเป็นส่วนตัว ส่วนชั้น 3 มีห้องสตูดิโอขนาดเล็ก และจุดชมวิวที่สามารถทอดสายตาชมวิวทะเล และพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างโรแมนติก ด้านการตกแต่งเน้นเฟอร์นิเจอร์และส่วนต่าง ๆ […]
WORKPLACE Saimai-Phaholyothin โฮมออฟฟิศตอบโจทย์ธุรกิจคนรุ่นใหม่
WORKPLACE Saimai-Phaholyothin คืออีกหนึ่งโครงการภายใต้แบรนด์โครงการโฮมออฟฟิศโดย SC Asset รองรับทั้งการอยู่อาศัยและการประกอบธุรกิจ ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้านักธุรกิจรุ่นใหม่ เจ้าของกิจการที่ต้องการขยายสาขา หรือกำลังมองหากิจการใหม่ ๆ เช่น คลินิก ร้านอาหาร คาเฟ่ ฯลฯ รวมถึงกลุ่มนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ โครงการ WORKPLACE Saimai-Phaholyothin ทำเลติดถนนสายไหม ต่อเนื่องกับโครงการทาวน์โฮม เวิร์ฟ สายไหม-พหลโยธิน เนื่องจากมีจำนวนยูนิตน้อย รวมถึงทุกยูนิตหันหน้าเข้าถนน จึงพร้อมรองรับทั้งลูกค้าจากภายนอก และสมาชิกในหมู่บ้าน โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์เรียบเท่สไตล์ Modern Loft ที่เพิ่มเส้นสายสร้างชีวิตชีวา และความสนุกสนานแบบ Festival ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ทั้งยังมีการออกแบบให้เชื่อมโยงกับโครงการทาวน์โฮมด้านหลัง เพื่อสร้างความเป็นต่อเนื่องของภาพรวม โฮมออฟฟิศแบบไหนตอบโจทย์ธุรกิจคนรุ่นใหม่ คุณภาณุ พิศาลกิจวนิช ตำแหน่ง Marketing Manager Low Rise และ คุณภาณุพงษ์ ชินมหาวงศ์ Senior Manager Project Architect ของโครงการ เวิร์คเพลส สายไหม–พหลโยธิน บอกเล่าถึงแนวโน้มความนิยมที่อยู่อาศัยประเภทโฮมออฟฟิศในตลาดคนรุ่นใหม่ ที่มองหาพื้นที่ธุรกิจพร้อมๆ กับที่อยู่อาศัย “แนวโน้มของโฮมออฟฟิศกำลังเริ่มดีขึ้น คนรุ่นใหม่เริ่มทำธุรกิจเร็วขึ้น […]
PROTAGONIST BAR คาเฟ่กึ่งบาร์ที่มี “สัจวัสดุ” เป็นพระเอก
คาเฟ่กึ่งบาร์ ที่แปลชื่อได้ว่า “ตัวเอก” มีโจทย์อยู่ที่การสร้างพื้นที่โดยใช้ “สัจวัสดุ” ซึ่งได้กลายมาเป็นงานออกแบบตัวเอกของสถานที่นี้ พื้นที่ภายในเน้นบรรยากาศเผยให้เห็นความเป็น สัจวัสดุ ซึ่งเป็นร่องรอยโครงสร้างดั้งเดิม ทั้งการฉาบฝ้าเพดาน พื้นผิวคอนกรีตมองเห็นรอยที่เคยปูกระเบื้อง เเละเนื้อปูนที่เชื่อมประสานอิฐแต่ละก้อน แล้วจัดสรรสเปซเพื่อให้สอดรับกับฟังก์ชันการใช้งานมากที่สุด เพราะให้ความสำคัญกับเสียงเพลงและดีเจเป็นพิเศษ นอกจากจะออกแบบระบบเสียงอย่างดีแล้ว บู๊ธดีเจของที่นี่ยังแสดงถึงกลิ่นอายวินเทจนิด ๆ ด้วยการนำสเตอริโอโบราณจากยุคโซเวียตมาตัดครึ่งแล้วขยายออก ก่อนเติมดีเทลความเป็นโมเดิร์นลงไป จนกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเอกของพื้นที่ส่วนที่เป็นจุดโฟกัสของสเปซอย่างพื้นที่รับประทานอาหารส่วนกลาง เลือกใช้โต๊ะอาหารแบบยาววางกลางห้อง เปิดมุมมองออกสู่หน้าต่างบานกว้างแบบพานอรามา เหนือโต๊ะเป็นประติมากรรมโคมไฟขนาดยักษ์ตีกรอบล้อมรอบด้วยผิวเมทัลลิกมันวาว พื้นที่ส่วนกลางนี้ประกบข้างด้วยบาร์เต็มรูปแบบอยู่ฝั่งซ้ายมือของโต๊ะ และผืนผนังบล็อกแก้วที่สะท้อนความเป็นไปภายในร้านผ่านแสงและสีสัน ทั้งหมดนี้สามารถมองเห็นรายละเอียดการตกแต่งที่เรืองรองออกมาจากกล่องหน้าตาธรรมดาตรงบริเวณหัวมุมถนนโดดเด่นกว่าใคร Idea to Steal เปลี่ยนจากเครื่องใช้ไฟฟ้าวินเทจให้กลายเป็นพร็อปส์ตกแต่งสุดเก๋ด้วยการทดลองตัด ต่อ และเติม ข้อมูล ที่ตั้ง เมืองคาร์คิฟ ประเทศยูเครน ออกแบบ : belbek bureau เวลาทำการ : ทุกวัน 10.00 น. – 02.00 น. IG: prtgnst.bar
ออฟฟิศ ม่านไม้เลื้อยเพื่อสร้างความสุขในการทำงาน A&P OFFICE BUILDING
ออกแบบ ศรีศักดิ์ พัฒนวศิน หากใครมีโอกาสผ่านเข้าไปในซอยประชาชื่น 31 จะพบอาคารคอนกรีตสูง 5 ชั้นที่ตั้งใจเลือกใช้ฟาซาดจากธรรมชาติ เป็นม่านไม้เลื้อย ซึ่งอาคารแห่งนี้เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัท เอ แอนด์ พี เมนทิแนนซ์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ในแวดวงธุรกิจจะรู้จักกันดีในชื่อ A&P ซึ่งเป็นบริษัทรับคลีนนิ่งระดับประเทศ ที่รับทำความสะอาดทั้งอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ศูนย์การค้า สนามบิน ตลอดจนหน่วยงานราชการต่างๆ โดยอาคารสำนักงานดังกล่าวเป็นการออกแบบและสร้างใหม่บนที่ดินขนาด 1.5 ไร่ ออกแบบโดยคุณ ศรีศักดิ์ พัฒนวศิน ภายใต้แนวความคิดการหลอมรวมธรรมชาติให้เป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน เพื่อสร้างความสุขให้กับพนักงานขององค์กรอย่างยั่งยืน อาคารสำนักงานแห่งนี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของผู้ออกแบบไม่น้อย เนื่องจากต้องทำการออกแบบและก่อสร้างภายใต้ข้อจำกัดมากมาย ทั้งในเรื่องของระยะเวลาและการออกแบบเพื่อให้ใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าที่สุด ในการออกแบบเบื้องต้น ผู้ออกแบบจึงกำหนดให้ตัวอาคารที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 2,000 ตร.ม. วางไว้ด้านในของที่ดิน เนื่องจากทางเจ้าของโครงการมีแผนจะสร้างอาคารเพิ่มเติมยังบริเวณด้านหน้าที่ดินในอนาคต อีกทั้งด้วยตำแหน่งของที่ตั้งทำให้จำเป็นต้องหันด้านหน้าอาคารไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นด้านที่จะได้รับความร้อนตลอดทั้งวัน ผู้ออกแบบจึงกำหนดให้มีชุดผนังกระจกบานเลื่อนซ้อนในทุกๆ ฟังก์ชันเผื่อในกรณีที่ต้องการเปิดรับลมได้มากสุด ก็จะทำให้อากาศนั้นหมุนเวียนไปได้ทั่วอาคาร เสริมกับการเลือกใช้ต้นลีกวนยูมาเป็นฟาซาดด้านหน้าอาคารก็เพื่อช่วยลดความร้อนจากแสงอาทิตย์ ทำหน้าที่เสมือนเป็นอุปกรณ์บังแดดทางธรรมชาติที่ยอดเยี่ยมให้กับอาคารอีกชั้นหนึ่งด้วย ทั้งนี้ตัวอาคารยังออกแบบพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าด้วยการกำหนดผนังทั้ง 2 ด้านของอาคารนั้นเป็นผนังทึบ ทำให้ระยะร่นระหว่างจากอาคารถึงแนวเขตกำแพงนั้นมีน้อยลงตามที่ข้อกฎหมายได้กำหนด ส่งผลให้อาคารมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น นอกจากนั้นเพื่อช่วยกันความร้อนและเพื่อย่นระยะเวลาในการก่อสร้าง […]
“มีวนา” แบรนด์กาแฟไทยกับวิถีวนเกษตรอินทรีย์ คนกับป่าพึ่งพากันอย่างยั่งยืน
ทุกครั้งที่ยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม ถ้าได้รู้ถึงที่มาของความอร่อยตรงหน้า ความสุขจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีรึเปล่านะ? สำหรับเราความรู้สึกนี้ได้เกิดขึ้นหลังจากการไปเยือน MiVana Coffee Flagship Store แฟล็กชิปสโตร์คาเฟ่ที่มีบรรยากาศร่มรื่นย่านศรีนครินทร์ของ “ มีวนา ” โดยเปิดขึ้นเพื่อหวังให้ที่นี่เป็นโมเดลต้นแบบในการส่งต่อแนวคิดการดูแลธรรมชาติ ผ่านไลฟ์สไตล์การดื่มกาแฟ กระตุ้นให้คนเมืองสนใจกาแฟออร์แกนิกกันมากขึ้น ตลอดการทำงานมากว่าสิบปีของแบรนด์กาแฟ “มีวนา” ได้ดำเนินธุรกิจภายใต้แนวทางเพื่อสังคม ผลิตกาแฟอาราบิก้าด้วยระบบวนเกษตรแบบอินทรีย์ กับการปลูกกาแฟแทรกไปกับต้นไม้ในผืนป่า แตกต่างจากการทำไร่กาแฟที่ต้องใช้ปุ๋ยและสารเคมีที่สามารถควบคุมปริมาณผลผลิตได้ตามความต้องการของตลาด ขณะที่การปลูกกาแฟใต้ร่มเงาป่าของมีวนา แม้จะไม่สามารถสู้เรื่องจำนวนการผลิตได้ แต่ในด้านคุณภาพที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับระบบนิเวศควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้ชาวบ้านมีอาชีพและปลูกฝังความหวงแหนรักษาป่าละก็นั่นนับเป็นพันธกิจและเป้าหมายอันสำคัญกว่า เบื้องหลังแนวคิดนี้ คุณมิกิ-ชัญญาพัชญ์ โยธาธรรมสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการงานพัฒนาธุรกิจและการตลาด บริษัท มีวนา จำกัด คือตัวแทนที่จะมาเล่าให้ฟังถึงแนวทางการทำงานของมีวนา ภายใต้เหตุผลของความยั่งยืนดังกล่าวว่า สิ่งนี้ได้สร้างผลลัพธ์ใดกลับคืนสู่สังคมและโลกใบนี้อย่างไร นอกเหนือจากมูลค่าทางธุรกิจ การปลูกกาแฟอินทรีย์กับการอนุรักษ์ป่าสองเรื่องนี้มาบรรจบกันได้อย่างไร คุณมิกิ : “เนื่องจากกาแฟอาราบิก้าต้องปลูกในพื้นที่สูงมีระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตร ขึ้นไป และต้องมีสภาพภูมิอากาศที่เย็นจึงจะได้ผลผลิตที่ดีในเชิงของพื้นที่ป่าที่เราเข้าไปทำงานในเชียงราย จะมีสองส่วนคือพื้นที่ป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่แล้ว เราก็อนุรักษ์ไว้แล้วก็เอากาแฟไปปลูกใต้ร่มเงาป่าในพื้นที่ อีกส่วนคือป่าเสื่อมโทรมหรืออาจจะถูกทำลายไปแล้วเราจะปลูกต้นกาแฟควบคู่ไปกับต้นไม้ที่มีความหลากหลายทางนิเวศ เป็นไม้ที่ให้ร่มเงาในระดับที่แตกต่างกัน ทำให้พื้นที่ป่ามีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นเรื่อย ๆ “ในอดีตที่ผ่านมาคนอาจจะคุ้นเคยกับการทำไร่กาแฟแบบเป็นแปลงปลูก จะไม่ได้เป็นการปลูกแบบร่วมกันกับป่าเท่าไหร่มากนัก เขาจะมีการจัดการบริหารที่ง่ายกว่าเรา เดินตามแปลงก็จบ บริหารจัดการง่าย พอเจอศัตรูพืชก็ใช้สารเคมีเร่งดอก เร่งผล […]