Design
งานดีไซน์ยั่งยืนจาก SUSTAINABLE DESIGN EXHIBITION
10 ดีไซน์ยั่งยืนจาก Sustainable Design Exhibition สีสันส่วนหนึ่งในงาน Thailand Sustainability Expo 2020 (TSX)
ฮ่องเต้ กนต์ธร พิธีกรช่างประจำบ้านที่เริ่มวาดรูปตั้งแต่สองขวบ จวบจนมีนิทรรศการเป็นของตัวเอง
ฮ่องเต้ กนต์ธร ทำความรู้จักชายมากความสามารถที่เป็นทั้งศิลปิน นักออกแบบนิทรรศการ พิธีกร ภัณฑารักษ์ และอีกหลายบทบาท ผ่านงานศิลปะที่บอกเล่าเรื่องความเท่าเทียม
CASA MERIDA บ้านคอนกรีตเปลือยไอเดียจากพีะมิดชนเผ่ามายา
Casa Merida หยิบยกเรื่องราวอารยธรรมชนเผ่ามายา มาถ่ายทอดเป็น บ้านปูนเปลือย ที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมร่วมสมัยกับสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของเม็กซิโก
OTSU BAR บาร์ญี่ปุ่นที่ชวนคุณมาเปิดโลกเหล้าบ๊วย
เลิกงานเย็นนี้ชวนแก๊งเพื่อนไปแฮ้งเอ๊าต์ที่ OSTU BAR บาร์ญี่ปุ่นบรรยากาศสดใสจี๊ดจ๊าด ที่เซอร์ไพร้ส์กันตั้งแต่ทางเข้าด้านหน้า ตลอดจนถึงพื้นที่ด้านใน กับการตกแต่งด้วยสีแดงยั่วตา ก่อนพาคุณไปดื่มด่ำกับเครื่องดื่มสูตรพิเศษ มาปลดเปลื้องความเหนื่อยล้าจากงานตลอดทั้งวันกับบาร์ญี่ปุ่น ที่จะชวนคุณมาเปิดโลกเหล้าบ๊วย โดยชื่อร้าน OSTU BAR มาจากวลีในภาษาญี่ปุ่น “Otsukaresama” ที่แปลว่า “ขอบคุณที่ทำงานมาอย่างเหน็ดเหนื่อย” ไว้สำหรับกล่าวกับเพื่อนร่วมงานหลังจากทำงานกันอย่างเต็มที่มาตลอดทั้งวัน และเตรียมตัวออกไปดื่มสังสรรค์ ทั้งยังพ้องเสียงกับ Oyatsu หรือที่แปลว่า “ของทานเล่น” อีกด้วย บาร์แห่งนี้เกิดจากการรีโนเวตทาวน์เฮ้าส์ที่เคยเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวขนาด 2 คูหา มาเป็นบาร์ขนาด 1 คูหา ในบรรยากาศที่เข้าถึงง่ายและเป็นกันเอง เริ่มจากการปรับผังใหม่โดยการเพิ่มบันไดให้ดูเป็นพระเอกของร้าน ใช้แผ่นอะคลิริกสีแดงมากรุเป็นราวกันตก สร้างความโดดเด่นให้กับสเปซได้เป็นอย่างดี แล้วออกแบบเคาน์เตอร์บาร์แบบหันหน้าทางเดียว เพื่อให้บาร์เทนเดอร์สามารถดูแลลูกค้าได้ทั่วถึง ช่วยให้บาร์เทนเดอร์ไม่รู้สึกเกร็งจนเกินไป อีกทั้งเป็นการประหยัดพื้นที่ไปในตัว ในแง่ของการใช้วัสดุ ที่นี่เน้นเลือกใช้วัสดุที่มีราคาถูกแต่ออกมาดูดี ไม่ว่าจะเป็นไม้อัด OSB ที่นำมากรุในส่วนของเคาน์เตอร์ ซึ่งยังคงความรู้สึกอบอุ่นและมินิมัลแบบไม้ รวมไปถึงการนำไม้บัวมาเรียงต่อกันเเล้วทาสีแดงบริเวณฟาซาดด้านหน้าร้าน กลายเป็นจุดนำสายตาเเละเอกลักษณ์มองเห็นได้เเต่ไกล ประกอบกับซุ้มทรงโค้งที่ออกแบบให้ดูมีมิติแบบกึ่งปิด-กึ่งเปิด ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับร้านไม่น้อยทีเดียว ที่ตั้ง 1064/59 ถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ เปิด วันอังคาร-ศุกร์ 17.30 […]
CHOCOLATE BOX MINT จากตึกเก่าแปลงสู่ Poshtel ลุคสบาย ๆ เรียบง่ายสไตล์มินิมัล
รีโนเวตตึกแถวขนาดสูงใหญ่ในซอยสีลม22 สู่ Chocolate Box Mint ที่พักแบบ Poshtel ซึ่งมีบริการที่พิเศษกว่าโฮสเทลทั่วไป กับบรรยากาศมินิมัลโทนสีขาว-ดำ ตัดกับความเขียวชอุ่มของหมู่แมกไม้สีเขียว สมกับชื่อที่พักที่มีคำว่า “Mint” ห้อยท้าย โฮสเทลที่ชูความพิเศษของการตกแต่งและการให้บริการใจกลางย่านสีลม “Chocolate Box Mint” ขอวางตำแหน่งให้ตนเป็น Poshtel พร้อมการตกแต่งที่มีบรรยากาศเต็มไปความเป็นส่วนตัว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักที่ครบครัน รวมถึงอาหารเช้าแบบจัดเต็ม ภายใต้ภาพลักษณ์ของโรงแรมสีขาว ตกแต่งสไตล์มินิมัล ให้ความสงบสะอาดตา หลีกหนีความวุ่นวายจากใจกลางย่านพลุกพล่าน ที่นี่เกิดขึ้นจากการรีโนเวตตึกแถวขนาดใหญ่สูง 4 ชั้น 2 ตึก โดยตึกหนึ่งหันหน้าเข้าสู่ซอยสีลม 22 อีกตึกหันหน้าเข้าสู่ซอยสีลม 22/1 จากสภาพที่ตั้งดังกล่าวจึงเกิดช่องว่างตรงกลางระหว่างทั้งสองตึก ผู้ออกแบบจึงนำมาใช้สร้างจุดเด่นให้กับโรงแรม โดยทำลายกำแพงกั้นระหว่างสองตึกนี้ลง แล้วเชื่อมช่องว่างด้านหลังของทั้งสองตึกเพื่อทำเป็นคอร์ตใจกลางโรงแรม ร่มรื่นไปด้วยพรรณไม้น้อยใหญ่ท่ามกลางอาคารคอนกรีต ให้ทั้งความรู้สึกเย็นสบายและสดชื่นเปรียบเหมือนสีเขียว “Mint” ซึ่งเป็นคำที่ใช้ห้อยท้ายชื่อของโรงแรมนั่นเอง ที่ตั้ง 29/15-17 ซอยสีลม 22 บางรัก กรุงเทพฯ โทร.09-9627-2372 https://www.facebook.com/Chocolateboxmint เรื่อง : […]
Flat White Café x Poshtel โฮสเทลสีขาวสะอาดตา มีคาเฟ่และที่พักรวมอยู่ในที่เดียว
Flat White Café x Poshtel ที่พักในจังหวัดลำปาง รวมคาเฟ่และที่พักไว้ในที่เดียวกันกับโฮสเทลสีขาวสะอาดตา กับคอนเซ็ปต์ที่ต้องการสื่อถึงความบริสุทธิ์และความสงบ เพื่อสร้างความประทับใจและเติมเต็มการพักผ่อนให้แก่แขกผู้เข้าพักอย่างแท้จริง ตัวอาคารของ Flat White Café x Poshtel ด้านนอกสีขาวดูโดดเด่นด้วยฟาซาดที่ใช้โครงเหล็กกล่องสี่เหลี่ยมโปร่งซ้อนกัน ขณะเดียวกันก็ช่วยพรางตาเครื่องคอมเพรสเซอร์แอร์ได้อีกด้วย เมื่อเข้ามาด้านในจะพบกับพื้นที่ล็อบบี้ที่เปิดเป็นคาเฟ่ไปในตัว จัดวางโซฟาและมุมนั่งเล่นเรื่อยไปจนถึงชั้นลอย บรรยากาศโปร่งโล่งแบบดับเบิ้ลสเปซ ตกแต่งสไตล์โมเดิร์นคุมโทนสีขาวเป็นหลัก และใช้โครงเหล็กกล่องเพื่อกำหนดสเปซสร้างความรู้สึกต่อเนื่องกับอาคารด้านนอก แต่เพื่อไม่ให้ดูเรียบจนเกินไปจึงได้แทรกด้วยวัสดุตกแต่งที่มีความเป็นธรรมชาติอื่น ๆ ลงไป เช่น หินอ่อน ผนังอิฐ พื้นคอนกรีต และระแนงไม้ รวมถึงดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างป้ายชื่อโรงแรมที่ทำจากหลอดไฟนีออนสีชมพูตัดกับผนังสีขาว จัดวางแจกันดอกไม้และไม้ใบสีเขียวสดดูมีชีวิตชีวา จี๊ดจ๊าดไปกับเก้าอี้เหล็กทำสีส้ม และผนังที่ทาสีเป็นแสงไผฉายลงมาบนพื้นเพื่อให้ล้อไปกับโคมไฟด้านบนผนัง ให้อารมณ์เหมือนเปิดไฟไว้ตลอดเวลา ส่วนห้องพักชั้นบนมีทั้งห้องเตียงเดี่ยว เตียงคู่ และเตียงชุดสำหรับ 4 คน ตกแต่งในโทนสีขาวเช่นเดียวกับส่วนอื่น ๆ และเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แต่เพียงน้อยชิ้นเพื่อให้ยังคงบรรยากาศเเบบมินิมัล เป็นความน้อยแต่มากที่เต็มไปด้วยความลงตัว ไม่ว่าจะกำลังมองหาพื้นเพื่อสังสรรค์ดื่มกาแฟกินขนมกับเพื่อน ๆ หรือหาสถานที่พักผ่อนระหว่างเดินทางมาท่องเที่ยว ที่นี่ก็พร้อมต้อนรับตอบโจทย์ครบครันในที่เดียว ที่ตั้ง 344/4 ถนนบ้านเชียงราย ตำบลสบตุ๋ย […]
THE ESCAPE PLAN CAFÉ ชวนหลบหนีความวุ่นวายไปกับคาเฟ่ปูนเปลือยดิบเท่กลางเมืองตาก
หากเอ่ยถึงจังหวัดตาก คงจะนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกทีลอซู อุทยานแห่งชาติน้อยใหญ่ เขื่อนภูมิพล หรือจะข้ามไปเที่ยวยังประเทศเพื่อนบ้านที่ชายแดนแม่สอด แต่ว่านอกจากที่เที่ยวเชิงธรรมชาติแล้ว อยากลองชวนทุกคนแวะเข้าตัวเมืองตากกันเสียหน่อย เพราะวันนี้ room จะพาคุณไปนั่งจิบกาแฟชิล ๆ ในคาฟ่น้องใหม่กลางเมืองตากกับ THE ESCAPE PLAN CAFÉ คาเฟ่ THE ESCAPE PLAN CAFÉ แห่งนี้ เกิดจากไอเดียของ คุณภัทรวดี รักพ่วง ที่ใฝ่ฝันอยากมีร้านกาแฟเป็นของตัวเอง จึงตัดสินใจรีโนเวตบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ขนาดสองชั้น ซึ่งตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ มีผู้สัญจรผ่านไปมาตลอดเวลา นับเป็นทำเลที่เหมาะสมในการทำธุรกิจ จึงวางใจให้เพื่อนอย่าง คุณฟ้า-อาทิมา ลวกุล มาเป็นผู้สานฝันและเนรมิตคาเฟ่สุดเท่ให้ เนื่องจากจังหวัดตากเป็นจังหวัดเล็ก ๆ ที่ยังมีร้านกาแฟไม่เยอะมากนัก เจ้าของจึงอยากทำร้านกาแฟที่มี Co-Working Space เพื่อตอบโจทย์คนที่ต้องการนั่งทำงานนาน ๆ โดยแบ่งชั้นล่างเป็นร้านกาแฟที่มีฟังก์ชันครบตั้งแต่ส่วนทำกาแฟ ส่วนเซอร์วิส ห้องน้ำ ห้องครัว และเว้นพื้นที่ด้านหลังไว้สำหรับทำสวนในอนาคต ส่วนชั้นบนเป็นพื้นที่ Co-Working นอกจากความชัดเจนเรื่องการจัดสรรพื้นที่แล้ว เจ้าของยังตั้งต้นด้วยชื่อร้าน The Escape […]
WALL HOUSE บ้านหายใจได้ เย็นสบายไม่ง้อเครื่องปรับอากาศ – room
Wall House บ้านอิฐโปร่ง สร้างจากวัสดุธรรมดาสามัญที่ยอมให้อากาศและแสงผ่านเข้าบ้านได้ แตกต่างจากผนังบ้านแบบปิดทึบทั่วไป สร้างสภาวะน่าสบาย พร้อมมุมสีเขียวให้ได้พักผ่อนภายใน ตอบโจทย์การอยู่อาศัยแบบปลอดมลพิษ และเข้ากับสภาพอากาศร้อนชื้นในเวียดนามได้อย่างดี ที่นี่เกิดจากคำถามที่ว่า ถ้าหากลมและแสงไม่สามารถผ่านเข้าบ้านได้ คุณภาพอากาศและการใช้ชีวิตในบ้านจะเป็นอย่างไร แน่นอนว่านั่นย่อมย่ำแย่ทั้งต่อสุขภาพและการอยู่อาศัย เป็นโจทย์ให้เจ้าของบ้านกับทีมออกแบบจาก CTA | Creative Architects อยากสร้างบ้านให้สามารถหายใจได้ ผ่านขั้นตอนการออกแบบโดยมีวัสดุหลักอย่าง “อิฐโปร่ง” มาทำหน้าที่เป็นกำแพงให้แก่บ้าน แม้จะไม่สามารถรับน้ำหนักได้อย่างอิฐทั่วไป แต่ก็มาพร้อมคุณสมบัติที่ช่วยให้ลมและอากาศไหลเวียนถ่ายเทได้อย่างทั่วถึง Wall House บ้านอิฐ Wall House ตั้งอยู่ในพื้นที่สวนดั้งเดิม (ซึ่งนับวันจะเหลือน้อย) ในเมืองเบียนฮหว่า เมืองหลักของจังหวัดด่งนาย ประเทศเวียดนาม ฉะนั้นเพื่อรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมซึ่งอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ และสร้างความกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมรอบ ๆ สถาปนิกจึงเน้นใช้วัสดุธรรมชาติเป็นหลักในการออกแบบ เริ่มต้นจากองค์ประกอบเด่น ๆ อย่าง กำแพงหายใจได้ สถาปนิกเล่าว่าเขาแบ่งออกเป็น 2 องค์ประกอบ องค์ประกอบแรกคือ ระบบผนังเปิด ที่ทำจากอิฐโปร่ง เพื่อป้องกันมลภาวะจากสภาพแวดล้อมภายนอก โดยนำมาเรียงต่อกันในทิศทางตรงกันข้ามกับวิธีการก่อสร้างแบบเดิม ด้วยการจัดเรียงดังกล่าวจึงสามารถช่วยให้อากาศบริสุทธิ์ และแสงไหลเวียนถ่ายเทได้ดี ส่วนองค์ประกอบที่สองคือ พื้นที่สวน […]
TANGIBLE คาเฟ่และรีเทลที่เชื่อมดีไซน์เข้าหาย่านและผู้คนผ่านกลไกที่เรียกว่าไลฟ์สไตล์
แม้จะก้าวสู่ปีที่ 15 ของการเป็นผู้ขับเคลื่อนแวดวงสร้างสรรค์ของไทย แต่ ชินภานุ อธิชาธนบดี, ภิรดา และภารดี เสนีย์วงษ์ ณ อยุธยา ก็ยังทดลองสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ และ Tangible ก็เป็นเหมือนพื้นที่ทดลองการใช้วัสดุในมุมมองที่ต่างออกไป
SAWO COFFEE & ROASTERY คาเฟ่ที่อินโดนีเซียในบรรยากาศกึ่งเอ๊าต์ดอร์
Sawo Coffee & Roastery คาเฟ่ที่อินโดนีเซีย บนถนนบราก้า กลางเมืองบันดุง ประเทศอินโดนีเซีย เมืองที่มีเอกลักษณ์ทางมรดกที่แข็งแรง ซึ่งอาคารหลังนี้ดูโดดเด่นออกจากบริบทโดยรอบด้วยรูปแบบของความเป็นบล็อกอาคารสไตล์โมเดิร์นเพียงหนึ่งเดียว ที่ตั้งอยู่ริมทางเท้าเชื่อมถนนคนเดิน ผู้ออกแบบจาก Oi Architect ได้ทำการปรับช่องเปิดขนาดใหญ่ด้านหน้า ที่เดิมทีเป็นกระจกติดฟิล์มดำทั้งผืนให้เหลือเพียงครึ่งบาน เพื่อนำแสงธรรมชาติเข้าสู่ภายใน เอื้อต่อการเจริญเติบโตของต้นไม้ในพืนที่กึ่งเอ๊าต์ดอร์ ทั้งยังช่วยดึงดูดความสนใจของผู้ที่สัญจรผ่านไปมาให้เห็นความเคลื่อนไหวภายในอาคารได้เป็นอย่างดี พื้นที่ภายในอาคารแบ่งออกเป็น 3 โซนหลัก ๆ คือ พื้นที่กึ่งเอ๊าต์ดอร์ พื้นที่อินดอร์ และส่วนเซอร์วิส ไล่จากทางเข้าด้านหน้าเป็นลำดับ ภายในตกแต่งสไตล์มินิมัล ในโทนสีขาวสะอาดตาเข้าคู่กับเฟอร์นิเจอร์ไม้ และเพิ่มความรู้สึกอบอุ่นด้วยไฟแบบวอร์มไวท์ เลือกวางเฟอร์นิเจอร์แบบโต๊ะตัวยาวให้ลูกค้านั่งทำงาน ประชุม หรือว่าแฮ้งเอ๊าต์ในยามเย็น อีกส่วนหนึ่งสำหรับคนที่มาคนเดียวหรืออยากนั่งคุยกับบาริสต้า ในส่วนของโต๊ะบาร์ที่คุมโทนสีขาวกลืนไปกับผนังด้านหลังให้ดูเรียบง่ายที่สุด แล้วเพิ่มจุดโฟกัสไปที่โคมไฟเหนือเคาน์เตอร์แทน องค์ประกอบทั้งหมดที่อยู่รวมกันทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายของผู้ที่ต้องการความสดชื่น พักผ่อน และเชิญชวนให้ผู้คนเเวะเวียนเข้ามาทำความรู้จัก ออกแบบ: Oi Architect ภาพ: KIE เรียบเรียง: BRL OTTOMAN’S COFFEE BREWERS คาเฟ่สีหวานละมุนตาในอินโดนีเซีย CAPELLA UBUD HOTEL เต็นท์กลางป่าฝนลึกลับจากตำนานของนักเดินทางชาวดัทช์
ESCAPE BANGKOK เติมอารมณ์ให้สายปาร์ตี้ไปกับบีชบาร์สไตล์บาหลี
Escape Bangkok ยกบีชบาร์ริมทะเลมาไว้กลางกรุง บนชั้น 5 ของดิเอ็มควอเทียร์ สำหรับเป็นสถานที่แฮ้งเอ๊าต์ของหนุ่มสาวหลังเลิกงาน ได้มาปลดปล่อยตัวเองเข้าสู่โหมดแห่งความรีแล็กซ์ จนลืมไปเลยว่ากำลังอยู่ในย่านสุขุมวิทที่พลุกพล่านกลางกรุงเทพฯ ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่เป็นสายแฮ้งเอ๊าต์ Escape Bangkok รูฟท็อปบาร์บรรยากาศเอ๊าต์ดอร์แห่งนี้ รับรองไม่ทำให้คุณผิดหวัง ทันทีที่ดวงอาทิตย์ลับเหลี่ยมมุมตึก สีสันความสนุกก็พร้อมเริ่มต้นขึ้น ท่ามกลางป่าคอนกรีตหนาเเน่น รู๊ฟท็อปบาร์เเห่งนี้เปรียบได้กับโอเอซิสให้คุณมาดื่มด่ำกับกลิ่นอายคล้ายกำลังพักผ่อนอยู่ริมชายหาด ระหว่างรอให้เเสงอาทิตย์ยามเย็นลับหายจากมุมตึก เเสงไฟเเต่ละตำเเหน่งก็เตรียมทำหน้าที่ฉาบไล้รอบ ๆ ด้วยเเสงสีชมพู กระตุ้นอารมณ์ให้คึกคักไปตามเสียงเพลงจากบู๊ธดีเจ ซึ่งมีดีเจทั้งไทยเเละเทศผลัดเปลี่ยนกันมาสร้างสีสัน พร้อมบริการเครื่องดื่มเเละอาหารรับประทานง่ายเเบบสไตล์ตะวันตก จุดเด่นของพื้นที่โอเพ่นบาร์ด้านนอก คือ Ellipse Bar บาร์ค็อกเทลขนาดใหญ่สีขาวทรงโค้งมน ช่วยให้บาร์เทนเดอร์สามารถบริการลูกค้าที่นั่งอยู่บนสตูลได้รอบทิศทาง ด้านบนประดับเเชนเดอเลียร์ผ้าพลิ้วไหวราวกับฟองคลื่น เมื่อกระทบกับเเสงไฟนีออนสีชมพูฟลามิงโก บาร์ค็อกเทลนี้ก็ยิ่งมีความพิเศษเเละเด่นสะดุดตามากขึ้น รอบ ๆ จัดที่นั่งขนาดยาวขนานไปตามเเนวระเบียง พร้อมซุ้มที่นั่งใต้กระโจมหญ้าคาเเบบบาหลี ประดับต้นไม้ ของตกแต่ง เเละเฟอร์นิเจอร์สไตล์ทรอปิคัล ให้กลิ่นอายสื่อถึงท้องทะเลเขตร้อน นอกจากนี้หากใครมาเป็นกลุ่มใหญ่ หรือต้องการจัดไพรเวตปาร์ตี้ ที่นี่ยังมีโซนอินดอร์ให้บริการด้วย เรียกว่าไม่ต้องไปไกลถึงทะเล คุณก็สามารถสัมผัสกับความสนุก เเละบรรยากาศชิล ๆ พร้อมกลุ่มเพื่อนได้ เเม้จะอยู่ในมหานครที่เต็มไปด้วยตึกสูงก็ตาม ที่ตั้ง ชั้น 5 ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ […]
ARKHA เก้าอี้แขนโค้งลวดลายอาข่า
การผนวกกันระหว่างเก้าอี้โคโลเนียลแขนโค้งที่มีการปรับเส้นสายดั้งเดิมให้ดูสบายขึ้น กับความงามที่ผ่านการวิเคราะห์ภาษาและวัตณธรรมพื้นถิ่นของชนเผ่า จนได้ผลลัพธ์เป็นเก้าอี้ที่มีลวดลายอาข่าที่พีทแปลความงามของเสื้อผ้าชาวกะเหรี่ยง
SIAM ชั้นวางหนังสือที่จับคู่ ไม้จามจุรี กับ ศิลาดล จนเกิดภาพจำที่แตกต่าง
ชั้นวางหนังสือ “สยาม” ความร่วมมือของ “มูนเลอร์” และ “สยามศิลาดล” ที่นำวัสดุพื้นถิ่นในภาคเหนือของไทย 2 ชนิด อย่าง “ไม้จามจุรี” และ “ศิลาดล” มาสร้างคุณค่าใหม่ผ่านงานหัตถกรรมเฟอร์นิเจอร์ที่สะท้อนความเป็นไทยในอีกแง่มุมหนึ่ง
DR.FETCH บาร์ลับที่จำลองบรรยากาศห้องทดลองใต้ทะเลของด็อกเตอร์สติเฟื่อง
DR.FETCH บาร์ลับในย่านสุขุมวิท กับคอนเซ็ปต์ “Ocean Laboratory Bar” ห้องทดลองวิทยาศาสตร์ใต้ทะเลสุดพิลึกของดอกเตอร์สติเฟื่อง! ใครชอบภาพยนตร์เเนววิทยาศาสตร์ดูลึกลับ ๆ ละก็ บนชั้น 2 ของ Octo Seafood Bar คุณจะได้พบกับ Dr.Fetch บาร์ที่จำลองบรรยากาศห้องทดลองลับใต้ทะเลของ Dr.Fetch นักวิทยาศาสตร์ผู้ชอบนำสัตว์ทะเลมาทำการทดลองเเปลก ๆ ซึ่งเป็นธีมสนุก ๆ ที่สลับฉากจากภาพร้านอาหารซีฟู้ดชั้นล่างโดยสิ้นเชิง ภายใต้ธีม “Ocean Laboratory Bar” ทันทีที่ก้าวเข้ามาคุณจะสัมผัสได้กับบรรยากาสสุดดาร์กดูมืดสลัว โดยมีเหล่าบาร์เทนเดอร์สวมบทบาทเป็นนักวิทยาศาสตร์ในชุดกาวน์สีขาวคอยปรุงเครื่องดื่ม เติมส่วนผสมนั่นนิดนี่หน่อยจนได้เเก้วเครื่องดื่มสำหรับจัดเสิร์ฟหลากหลายเมนู ขณะที่การตกแต่งภายในยังคงหยิบองค์ประกอบเพื่อบอกเล่าบรรยากาศใต้ท้องเรือโบราณ เช่นเดียวกับร้านอาหารชั้นล่างมาใช้ เติมกลิ่นอายย้อนยุคจากเหล่าเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้มเเละหนังตอกหมุด รอบ ๆ ตกแต่งด้วยสคัลป์เจอร์ซากฟอสซิลเเละรูปสัตว์หน้าตาประหลาด เปรียบเสมือนผลลัพธ์จากการทดลองสุดเเหวกเเนว ผสมกับบรรยากาศความเป็นห้องเเล็ปที่มีเอกลักษณ์ อย่างการกรุกระเบื้องสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีขาวยาวตลอดเเนวครึ่งหนึ่งของผนัง ก่อนจะตัดด้วยสีเขียวเทอร์คอยส์ที่ขอบด้านบนล้อกันไปกับสีกระเบื้องด้านหน้าเคาน์เตอร์บาร์ ฉาบไล้ด้วยเเสงไฟสลัว ๆ จากเหล่าโคมไฟสไตล์อินดัสเทรียล และไฟแอลอีดีที่ซ่อนอยู่หลังเเนวที่นั่ง ขับบรรยากาศให้ห้องทดลองลับแห่งนี้ดูลึกลับยิ่งขึ้นไปอีก เรียกว่าใครกำลังมองหาสถานที่เเฮ้งเอ๊าต์กับแก๊งเพื่อน Dr.Fetch รอมอบความพิเศษเคล้าไปกับเสียงเพลงจากดีเจเเละศิลปินชื่อดังที่ผลัดเปลี่ยนกันมาเเสดงดนตรีสดให้ได้ฟังสร้างความบันเทิงตลอดทั้งคืน ที่ตั้ง ชั้น 2 อาคาร Octo […]
OCTO SEAFOOD BAR ซีฟู้ดบาร์ในบรรยากาศเรือโบราณใต้สมุทร
OCTO SEAFOOD BAR ซีฟู้ดบาร์ไอเดียสุดแฟนตาซี ที่มาพร้อมกิมมิกสนุก ๆ ราวกับคุณกำลังอยู่ในเรือโบราณใต้มหาสมุทร โดยมีเจ้าปลาหมึกยักษ์คอยต้อนรับอยู่ด้านหน้า ซีฟู้ดบาร์กลางซอยสุขุมวิท 24 แห่งนี้ เกิดจากการเปลี่ยนโฉมคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดเล็ก 2 ชั้นให้กลายเป็นร้านอาหารทะเลภายในกล่องกระจกใส โดยมีประติมากรรมปลาหมึกยักษ์โชว์อยู่ด้านหน้า ช่วยดึงดูดสายตาผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาให้ต้องเหลียวมอง เหมาะกับใครกำลังมองหาสถานที่แฮ้งเอ๊าต์กับกลุ่มเพื่อน หรืออยากพาครอบครัวไปรับประทานอาหารทะเลอร่อย ๆ แบบไม่ต้องไปไหนไกล การปรับปรุงอาคารที่เคยเป็นศูนย์การค้าเก่าให้เหมาะกับการเปิดเป็นร้านอาหารนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย การออกแบบที่นี่ต้องทุบพื้นที่ทั้งหมดออกเเล้วสร้างสเปซการใช้งานด้านในขึ้นมาใหม่ ก่อนเปลี่ยนลุคเดิมของอาคารไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชันการใช้งานภายใน ฟาซาดด้านหน้า พื้น และอื่นๆ ขณะที่โครงสร้างได้เน้นการใช้เหล็กเป็นส่วนประกอบสำคัญ ฉะนั้นเพื่อไม่ให้ดูอินดัสเทรียลจนน่าอึดอัดทั้งหมดจึงถูกทาด้วยสีเขียวเทอร์คอยส์ เพื่อให้เข้ากับธีมที่สื่อถึงความเป็นทะเล มีความรีเเล็กซ์เเละเป็นกันเองมากขึ้น ด้วยเหล่าโต๊ะเเละเก้าอี้ที่ทำมาจากไม้เเละหวาย นอกจากนี้ยังหยิบองค์ประกอบชิ้นส่วนของเรือมาตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นหน้าต่างวงกลม การโชว์ท่องานระบบใต้ท้องอาคาร ไม้หุ้มเสาที่ยึดด้วยนอต โคมไฟเรือ ฯลฯ กลายเป็นกลิ่นอายที่เชื่อมโยงเข้ากับเเรงบันดาลใจซากเรือโบราณ โดยไม่ต้องยกเรือทั้งลำมาให้เห็นได้อย่างเเยบยล พื้นที่ตรงกลางโดดเด่นด้วยเคาน์เตอร์บาร์ขนาดใหญ่แบบ 360 องศา ให้บริการเครื่องดื่มรสเลิศจากทุกมุมโลกเเละเสิร์ฟเบียร์สดคุณภาพ รายล้อมด้วยเหล่าร้านอาหารที่ชวนให้นึกถึงบรรยากาศอย่างกับตลาดอาหารทะเล เเละหากมองลงมาจากชั้น 2 เคาน์เตอร์บาร์ที่ว่านี้จะดูเหมือนห้องบังคับการเรือของกัปตัน โดยมีภาพฝูงปลาเเวกว่ายอยู่ด้านบนซึ่งฉายจากโปรเจ็กต์เตอร์ขนาดใหญ่ จำลองภาพเหมือนคุณกำลังอยู่ใต้ท้องทะเลจริง ๆ ทำให้สัมผัสได้ถึงประสบการณ์ที่เเตกต่างจากร้านอาหารทะเลทั่วไป ที่ตั้ง 88/2,88/9 สุขุมวิท […]
HOME CHIANGMAI HOTEL ไลฟ์สไตล์โฮเทลที่โชว์สัจวัสดุและวิญญาณความเป็นพื้นถิ่น
HOME CHIANGMAI HOTEL โรงแรมเชียงใหม่ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นของความเป็น “บ้าน” สมชื่อ “Home” นำเสนอการพักผ่อนภายใต้แนวคิดไลฟ์สไตล์โฮเทล ให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์ของผู้เข้าพัก และการสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง ผ่านการออกแบบที่ส่งเสริมให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างแขกผู้เข้าพักด้วยกันเองกับผู้คนในท้องถิ่น ซึ่งเป็นการสร้างมิตรภาพใหม่ให้เกิดขึ้นระหว่างการแชร์ “เวลา” กับ “พื้นที่” ร่วมกัน เห็นได้จากพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่อย่าง สระน้ำ ที่มีขั้นบันไดโดยรอบ สำหรับนั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศ หรือฟังดนตรีในสวนแสนร่มรื่น นอกจากนี้ยังมีอาคารเรือนกระจกด้านหน้าทำหน้าที่เป็นทั้งล็อบบี้ คาเฟ่ และร้านอาหาร เปิดให้คนภายนอกสามารถมาใช้บริการได้ด้วย HOME CHIANGMAI HOTEL โรงแรมเชียงใหม่ ตัวอาคารโดดเด่นด้วยการออกแบบสไตล์โมเดิร์น บ่งบอกถึงความเรียบง่าย และเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศที่แสนสงบ สะท้อนผ่านแนวคิดสัจวัสดุของอาคารคอนกรีตเปลือยผิว แม้จะดูหนาหนักแต่กลับละเมียดละไมขึ้นด้วยวัสดุไม้เก่าที่นำกลับมาใช้ใหม่ จนอาจกล่าวได้ว่าเป็นหัวใจหลักของโรงแรม รวมถึงร่องรอยของไม้พิมพ์บนผิวคอนกรีตหล่อในที่ ซึ่งปรากฏให้เห็นในพื้นที่ต่าง ๆ และพื้นหินขัดผิวเรียบเนียน ก่อนจะสอดแทรกจิตวิญญาณความเป็นพื้นถิ่นภาคเหนือ ด้วยการใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สักจากช่างฝีมือในท้องถิ่น หรือแม้แต่รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการเลือกใช้ชุดยูนิฟอร์มของพนักงานที่ตัดเย็บมาจากผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายโดยกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ และเมนูอาหารล้านนารสชาติดั้งเดิม ทั้งหมดคือความตั้งใจที่ต้องการนำพาแขกผู้เข้าพักให้ค่อย ๆ ซึมซับกับบริบทความเป็นเชียงใหม่ ราวกับกำลังค่อย ๆ ทำความรู้จัก และสร้างมิตรภาพใหม่ให้เกิดขึ้น […]
CAPELLA UBUD HOTEL เต็นท์กลางป่าฝนลึกลับจากตำนานของนักเดินทางชาวดัทช์
แคปแพลล่าคือเครือโรงแรมที่ดีเป็นอันดับที่สองของโลก โดย CAPELLA UBUD HOTEL สาขานี้ตั้งอยู่ในเมืองอูบุด บนเกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ถูกโหวตให้เป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในโลก หรือ ‘No. 1 Hotel in the World’ โดยนิตยสารท่องเที่ยว Travel + Leisure จากตำนานเรื่องเล่าของกลุ่มผู้บุกเบิกชาวดัทช์ที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล และเกิดอุบัติภัยทางน้ำทำให้เรือแตก และทำการตั้งแคมป์บนดินแดนเกาะบาหลีแห่งนี้เมื่อสมัยคริสต์ศตวรรษ 1800 สู่โรงแรมสุดหรู CAPELLA UBUD HOTEL ที่ออกแบบเสมือนเต็นท์ 22 หลังที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าฝนลึกลับผืนนี้ ที่สุดของความท้าทายในการออกแบบที่นี่ คือการวางตำแหน่งของเต็นท์แต่ละหลังอย่างเหมาะสม เพื่อเป็นการทำลายป่าให้น้อยและเเตะผืนดินอย่างแผ่วเบาที่สุด โดยผู้ออกแบบอย่าง Bill Bensley นักออกแบบที่ควบตำแหน่งสถาปนิก อินทีเรียร์ และภูมิสถาปนิก ซึ่งมีออฟฟิศอยู่ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทยของเรานี้เอง โดยในงานนี้ Bill ได้โน้มน้าวให้เจ้าของเปลี่ยนจากสร้างอาคารมาเป็นเต็นท์ขนาดเล็กที่แทรกตัวอยู่ในป่าแทน ทำให้ท้ายที่สุดไม่มีต้นไม้ต้นใดถูกตัดโค่นแม้แต่ต้นเดียว ทุกหลังจึงยังคงมองเห็นทัศนีภาพของราวป่าที่สวยงาม ซึ่งผืนป่าแห่งนี้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกนานาชนิดที่จะมาส่งเสียงเจื้อยเเจ้วในตอนเช้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสุนทรียภาพให้กับคุณ ขณะกำลังพักผ่อน หรือแหวกว่ายอยู่ในสระว่ายน้ำส่วนตัว เต็นท์ทั้ง 22 หลังได้รับการออกแบบให้ไม่เหมือนกันสักหลังตามคาแร็กเตอร์ของนักเดินทาง เช่น […]
OIKUMENE CHURCH โบสถ์ไม้ในคราบโรงนาสุดโมเดิร์น
โบสถ์ไม้โมเดิร์น หรือคริสตจักร OIKUMENE แห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นอย่างกะทันหันเพื่อรองรับคริสตศาสนิกชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เกาะกาลิมันตัน หรือเกาะบอร์เนียว ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนงานในไร่และมีบ้านเรือนข้างเคียง โดยโครงการนี้เป็นหนึ่งในงาน CSR ของบริษัท PT. KMS ที่ทำงานเกี่ยวกับการเกษตร แนวทางการออกแบบ โบสถ์ไม้โมเดิร์น แห่งนี้เริ่มต้นมาจากความต้องการสร้างอาคารโดยใช้วัสดุเพียงชนิดเดียวเท่านั้น และ “ไม้” คือคำตอบของวัสดุหลักดังกล่าว เนื่องจากเป็นวัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น โดยส่วนใหญ่เป็นไม้ Bengkirai, Kapur และ Meranti ซึ่งเป็นเศษไม้ที่เหลือจากโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ส่วนฟาซาดอาคารเลือกใช้ไม้ Rimba และใช้ไม้ Meranti ในการตกแต่งภายใน โดยแนวคิดนี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก Rumah Betang บ้านแบบดั้งเดิมที่มีลักษณะเป็นอาคารแนวยาวที่ใช้วัสดุท้องถิ่นมาก่อสร้าง และในเชิงปรัชญาโบสถ์นี้ออกแบบเพื่อสะท้อนให้เห็นว่า พระเจ้าช่วยมวลมนุษย์ให้หลุดพ้นจากบาปได้อย่างไร ผ่านงานสถาปัตยกรรมนี้ ด้วยการออกแบบหลังคาให้มีความลาดเอียงที่ถูกค้ำจุนไว้ด้วยผนังของโบสถ์ การตกแต่งภายในคำนึงถึงการใช้งานของโบสถ์เป็นหลัก รวมไปถึงพื้นที่ทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับดนตรี ที่สำคัญคือการออกแบบให้อิงกับสภาพอากาศในท้องถิ่นของที่ตั้ง ซึ่งมีอุณหภูมิค่อนข้างสูงในช่วงเวลากลางวัน โดยออกแบบหลังคาให้มีลักษณะซ้อนกันเเบบมีช่องว่าง เพื่อให้ความร้อนลอยตัวขึ้นที่สูง และระบายออกไปได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้อากาศภายในโบสถ์เย็นสบาย แทบไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศเลย ความท้าทายของโปรเจ็กต์นี้ที่อดกล่าวถึงไม่ได้ คือรายละเอียดกระบวนการเลือกใช้ไม้และดีเทลของงานไม้ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการคัดเเยกเเละเลือกไม้ Bengkira ให้เหมาะสมกับการใช้งานเเต่ละส่วนค่อนข้างนาน […]