Design

พื้นที่ชั้นล่างของอาคารมิกซ์ยูสแห่งหนึ่งย่านปุณณวิถีที่ถูกแบ่งให้ผู้สนใจเข้ามาเช่าพื้นที่ หนึ่งในนั้นคือคาเฟ่นามว่า “Double S Specialty Coffee” คาเฟ่ปุณณวิถี ในกล่องใสคลีนสะอาดตา ดึงดูดความสนใจตั้งแต่แรกเห็น โดยทั้งหมดเป็นฝีมือการออกแบบของสถาปนิกจาก TOUCH ARCHITECT “เมื่อดูจากบริบทของพื้นที่ตั้ง ซึ่งเป็นห้องเเบ่งเช่าที่อยู่ในอาคาร พร้อมกับขนาดพื้นที่ที่เล็กเพียง 35 ตารางเมตร ทำให้ยากต่อการออกแบบสเปซ ดังนั้นจึงเลือกที่จะออกแบบให้ คาเฟ่ปุณณวิถี แห่งนี้ มีความโปร่งโล่งที่สุด ทั้งยังต้องการให้คนสามารถมองเห็นบรรยากาศภายในร้านเเละชักชวนให้ลูกค้าอยากเข้ามา จึงตกแต่งพื้นที่เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนผ่านทางความรู้สึก โดยการเลือกใช้วัสดุที่ช่วยสร้างความน่าสนใจให้กับพื้นที่ในเเต่ละฟังก์ชันแทน” จากข้อจำกัดของพื้นที่สถาปนิกเลือกที่จะไม่แตะโครงสร้างของอาคาร แล้วสร้างเลเยอร์ซ้อนอีกชั้นด้านในด้วยแผงฟาซาดแบบบานเกล็ดใส ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากโรงคั่วกาแฟแบบโบราณที่ผนังมักใช้ไม้ตีซ้อนเกล็ด คงกลิ่นอายแบบรัสติก พร้อมการโชว์สัจวัสดุ แต่มีข้อจำกัดเรื่องของมุมมองและความทึบตัน ผู้ออกแบบจึงนำแพตเทิร์นนี้มาใช้โดยดัดแปลงเป็นบานเกล็ดกระจกใสที่ติดตั้งแบบแรนดอม เกิดเป็นอารมณ์ที่แตกต่างออกไป ทั้งยังเป็นวัสดุที่หาได้ง่ายราคาไม่เเพง ให้ความรู้สึกปลอดโปร่งด้านมุมมองที่ดีกว่า อีกทั้งยังสามารถมองเห็นบรรยากาศภายในร้าน จูงใจให้ลูกค้าอยากเข้ามาใช้บริการ อย่างที่ผู้ออกแบบตั้งใจไว้ด้วย ในส่วนของผนังที่กลายมาเป็นแบ็กกราวน์ของร้าน เด่นด้วยการเลือกใช้อิฐบล็อกที่คุ้นเคย โดยแพตเทิร์นในการก่อนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากการจัดเรียงวัสดุชนิดนี้ในร้านขายวัสดุก่อสร้างที่มีการวางเรียงสลับกันไปมา อย่างการนำด้านสันหรือด้านข้างหันออกบ้าง เพื่อสร้างความสมดุลและการถ่ายเทน้ำหนักมาสร้างความแปลกตาให้กับผนังร้านได้เป็นอย่างดี ด้วยความชื่นชอบสไตล์มินิมัลแบบคาเฟ่เกาหลีของเจ้าของร้าน ทำให้พื้นที่ภายในได้รับการตกแต่งแบบเรียบง่าย คุมมู้ดแอนด์โทนสีเทา-ดำ กับเคาน์เตอร์บาร์กรุสเตนเลสเรียบเกลี้ยงเป็นพระเอกของร้าน ซึ่งเคาน์เตอร์นี้ยังเป็นตัวแบ่งสเปซภายในให้เป็นสัดส่วน และแก้ปัญหาเรื่องเสาที่อยู่ตำแหน่งกลางร้านได้เป็นอย่างดี ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความยืดหยุ่น อีกทั้งง่ายต่อการบำรุงรักษา โดยมีที่นั่งให้เลือกทั้งแบบบาร์และแบบโต๊ะเดี่ยว พร้อมรองรับลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะมาคนเดียว มาเป็นคู่ […]

นอกจากงานดีเจซึ่งเป็นอาชีพหลักแล้วยังเปิดบ้านในอำเภอสารภีเป็นร้านเล็กๆแบบ  Chef’s Table ในชื่อว่า คำสล่า รับเฉพาะโต๊ะจองมาล่วงหน้าเท่านั้น

บ้านนี้ประกอบขึ้นจากวัสดุหลากหลาย  ด้านนอกแม้จะดูแตกต่างไปจากบ้านในละแวกใกล้เคียงกัน ภายใต้ขนาดพื้นที่ใช้สอยราว 250 ตารางเมตร ได้รับการออกแบบแปลนเป็นรูปตัวยู (U) ล้อมคอร์ตสระว่ายน้ำขนาดย่อมไว้ตรงกลาง

Blu Monkey Hotels กลุ่มโรงแรมบูติกขนาดเล็กถึงกลาง ที่เกิดจากกลุ่มสถาปนิกภูเก็ต ซึ่งชื่นชอบการเดินทาง จึงได้นำประสบการณ์ดี ๆ มาใช้ในงานบริการของโรงแรมในเครือ

“Boonta Flowers and Cafe” คาเฟ่ดอกไม้ ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศสบาย ๆ ย่านบางกรวยที่เหมือนยกฟาร์มดอกไม้ตั้งมาไว้ที่นี่ รอให้คุณมาสัมผัสเเละเยี่ยมเยือน

“คลองบางกอกน้อย” ลำคลองสายดั้งเดิมของกรุงเทพฯ ที่มีความสำคัญทั้งในแง่ประวัติศาสตร์และวิถีชีวิต จากบริบทความสำคัญของที่ตั้ง บวกกับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Simply at Ease” ทำให้ CHANN Bangkok Noi ออกแบบตนเองให้มีกลิ่นอายแบบไทย อย่างการเลือกใช้วัสดุอย่าง“ไม้” เป็นวัสดุหลักในการก่อสร้าง ให้ตั้งขนานกันไปกับริมฝั่งคลอง โดยพื้นที่ทั้งหมดของโรงแรมได้รับการเชื่อมต่อถึงกันด้วย “ชานไม้” อันเป็นเอกลักษณ์ที่กลายมาเป็นชื่อของโรงแรมเพื่อสื่อถึงบ้านไทยสมัยก่อน และวิถีชีวิตของผู้คนริมน้ำ พื้นที่ภายนอกทุกส่วนถูกออกแบบให้เชื่อมเข้ากันไว้ด้วยชานไม้ขนาดใหญ่ ทางโรงแรมจึงดัดแปลงเป็นพื้นที่ส่วนต้อนรับ และพักผ่อนส่วนกลาง โดดเด่นด้วยไม้พื้นที่วางเรียงแบบเว้นร่อง นอกจากจะช่วยระบายอากาศได้ดีแล้ว ยังช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นให้กับผู้เข้าพัก  พื้นที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเป็นพื้นที่ให้ผู้เข้าพักได้ออกมานั่งเล่นเอกเขนกชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นพร้อมกับเสพบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติ สำหรับพื้นที่ภายใน ส่วนแรกคือห้องพักที่มีให้เลือกพักทั้งแบบ Riverside,Riverfront และ Courtyard แต่ละห้องตกแต่งภายในด้วยสไตล์ไทยร่วมสมัย ใช้รายละเอียดของการออกแบบฝาบ้านไทยดั้งเดิม รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์พิเศษที่สั่งทำโดยเฉพาะ ทำให้บ้านพักแห่งนี้ยังคงเอกลักษณ์บ้านไทยสมับก่อน ในส่วนของอ่างอาบน้ำโซนเอ๊าต์ดอร์ถูกออกแบบโดยเน้นให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ เน้นการใช้ไม้ในการออกแบบพื้นที่เป็นหลักนอกจากจะช่วยสร้างบรรยากาศที่สะท้อนแบบบ้านไทยสมัยก่อนแล้ว ยังตกแต่งพื้นที่ด้วยการจัดวางไม้ให้สอดคล้องกับธรรมชาติ เกิดเป็นแสงเงาและมิติที่สวยงามอีกทั้งยังครบด้วยประโยชน์ในการทำเป็นม่านบังตาสายตาได้อีกด้วย เอื้อให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายแบบส่วนตัวแต่ยังคงความใกล้ชิดธรรมชาติเรียกได้ว่าตอบโจทย์ครบทุกฟังก์ชันการใช้งานได้เป็นอย่างดี อีกพื้นที่ที่น่าสนใจ คือใต้ถุน หรือพื้นที่ชั้นล่าง แบบเรือนไม้ไทยยกพื้นสูงอย่างสมัยก่อน ด้วยพื้นที่โล่งกว้างมีลมพัดผ่านได้ดี จึงเหมาะกับเป็นพื้นที่พักผ่อนส่วนกลาง ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่สั่งทำพิเศษเข้ากับไม้ที่ใช้เป็นโครงสร้างหลักในการออกแบบทำให้เข้ากับบรรยากาศบ้านแบบไทยๆ สะท้อนกลิ่นอายแบบสมัยก่อนได้อย่างลงตัว   IDEAS TO GRAB A.พื้นใช้ไม้พื้นตีเว้นร่อง ช่วยให้สามารถระบายอากาศและได้บรรยากาศอบอุ่นแบบบ้านไม้ไทย […]

THINKK STUDIO ชวนตอบคำถาม “เราจะออกแบบเก้าอี้ตัวใหม่กันไปทำไม?” ผ่านนิทรรศการเก้าอี้ 21 ตัว THINKK TOGETHER 03*; WHY DO WE NEED ANOTHER CHAIR?

เชื่อว่า “ไม้” คงเป็นวัสดุในใจของใครหลาย ๆ คน ด้วยคุณสมบัติที่หาที่ไหนเหมือนไม่ได้ กับการสร้างบรรยากาศความอบอุ่นเป็นกันเองให้แก่พื้นที่ อีกทั้งยังให้ความรู้สึกสบายเสมือนได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ชวนให้นึกถึงบรรยากาศในวันวานของครอบครัวขยายของไทยสมัยก่อน หลาย ๆ โรงแรมและที่พักจึงเลือกวัสดุ “ไม้” มาเป็นวัสดุหลักในการออกแบบตกแต่งเอื้อให้เจ้าของและแขกผู้เข้าพักรู้สึกเป็นกันเอง สบาย ๆ ทั้งยังดูกลมกลืนไปกับบริบทโดยรอบของพื้นที่  ซึ่ง room จึงได้รวบรวม 5 ที่พักไม้ ในบรรยากาศสบาย ๆ มาฝาก ให้คุณเลือกตามไปพักผ่อนท่ามกลางวัสดุอบอุ่นสุดพิเศษนี้กันครับ 01 | CHANN BANGKOK NOI พื้นที่เชื่อมสัมพันธ์แบบไทยริมคลองบางกอกน้อย โรงแรมที่มีกลิ่นอายความเป็นไทยอย่างเต็มเปี่ยม ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมคลองบางกอกน้อย กับการออกแบบภายใต้แนวคิด Simply at Ease อันพัฒนามาจากรากฐานของสิ่งรอบตัวซึ่งเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ แวดล้อมด้วยสถานที่สำคัญ อาทิ พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน (สถานีรถไฟธนบุรีเดิม) และชุมชนริมคลองบางกอกน้อย ซึ่งสะท้อนวิถีชีวิตริมน้ำและวัฒนธรรมไทยได้อย่างมีเอกลักษณ์ ที่นี่โดดเด่นด้วยการเลือกใช้วัสดุอย่าง “ไม้” เพื่อแสดงถึงเอกลักษณ์ของ “บ้านไทยสมัยก่อน” ตัวอาคารเป็นบ้านสองชั้น จำนวน 4 หลังที่เชื่อมต่อพื้นที่กันด้วย “ชาน” ซึ่งเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของพื้นที่แต่ละส่วนเข้าไว้ด้วยกัน […]

ชวนคุณไปเปิดประสบการณ์จับจ่ายใน “สะดวกซื้อ” นิทรรศการล่าสุดของ DESIGN PLANT กลุ่มดีไซเนอร์ไทยรุ่นใหม่ไฟแรง ในงาน BANGKOK DESIGN WEEK 2020 ที่ โกดังใน warehouse 30

โฮมสเตย์เวียดนาม สไตล์โมเดิร์นลอฟต์ ปลูกสร้างท่ามกลางธรรมชาติในรูปแบบห้องนอนรวม (Dormitory) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากแม่น้ำหอม (Huong River) แม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านใจกลางเมืองเว้ เมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางประเทศเวียดนาม ในฐานะเมืองมรดกโลก ซึ่งอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของเวียดนามกว่าร้อยปี

“ร้านเรามีคำว่า Normal อยากทำให้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่เราจะใช้ชีวิตแบบ Zero Waste การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ฟังดูยากใช่ไหมแต่มันง่ายนะ เพราะเรามองคำว่า “สิ่งแวดล้อม” นั้นหมายถึง “คน” คนเป็นสิ่งแวดล้อมที่สำคัญที่สุด เพราะฉะนั้นการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมก็คือการเป็นมิตรกับคน” Normal Shop Normal Shop : zero waste community ไลฟ์สไตล์ช้อปที่เป็นเหมือนกับ one stop service ของคนสายเขียว สไตล์แบบไร้ขยะบนถนนนางลิ้นจี่ ถนนสองเลนบรรยากาศเย็น ๆ ที่ยังถูกเงาต้นไม้ใหญ่ปกคลุมอยู่เป็นระยะ คุณต้อง-กรวรรณ คันโธ ตัดสินใจเปิดร้านที่เน้นเรื่อง Zero Waste เป็นสาขาที่ 2 หลังเปิดสาขาแรกที่เชียงใหม่    “ทำตัวให้กลมกลืน” ตึกแถวหน้ากว้าง 3 เมตร ดูสว่างด้วยการเลือกใช้สีขาวทากรอบประตู กรอบหน้าต่าง กระจกใสบานโตทำให้บรรยากาศด้านในและด้านนอกเชื่อมต่อกันได้แบบไม่สะดุด ช่วงสายจนถึงบ่ายแก่ ๆ ของวัน แสงแดดที่รอดผ่านต้นไม้ริมทางพาดผ่านลงมาเป็นดวงกลม ๆ วิ่งไป วิ่งมาอย่างอิสระอยู่ในร้าน เกิดเป็นการแสดงชุดเล็กของธรรมชาติ “ ตอนแรกที่เปิดร้าน ตรงนี้คนก็ยังงง ๆ สรุปร้านนี้ขายอะไร […]

สำรวจโปรแกรม “ทองเอก” ที่นำชื่อขึ้นต้นของสองย่านเพื่อนบ้านอย่าง ทองหล่อ (ซอยสุขุมวิท 55) และ เอกมัย (ซอยสุขุมวิท 63) เขตวัฒนา มารวมกันให้กลายเป็นชื่อเฉพาะกิจสำหรับกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในงาน Bangkok Design Week 2020

บ้านโมเดิร์นทรอปิคัล เน้นการออกแบบสเปซเเบบบ้านเรือนไทย โดยแยกเป็นอาคารใช้สอยหลัก ๆ หนึ่งอาคาร กับอาคารต้อนรับที่มีสตูดิโอทำงานอดิเรกของเจ้าของบ้าน พร้อมชานพักผ่อนล้อมรอบสระน้ำในบรรยากาศที่เย็นสบาย ทุกครั้งที่ได้อยู่บ้านจึงเหมือนได้ปลีกตัวออกจากบริบทเมืองที่เเสนวุ่นวาย

ปฎิเสธไม่ได้ว่าความเขียวชอุ่มของต้นไม้ มักเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย สบายตา สบายใจ เพียงแค่ได้มอง หลาย ๆ คนจึงเลือกที่จะสร้างพื้นที่สีเขียวไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ไว้ใกล้ ๆ ตัว เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการพักผ่อนความเหนื่อยล้าจากชีวิตประจำวัน ยิ่งในขณะนี้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่าง PM 2.5 ยังคอยมากวนใจและยังคงอยู่ในสภาวะที่ต้องเฝ้าระวัง แต่สำหรับใครที่มีแพลนอยากเดินทางหรือหนีไปพักผ่อนใน ที่พักสวย เรามี 7 โรงแรมสีเขียวที่สอดแทรกต้นไม้น้อยใหญ่ไว้ในพื้นที่ให้เเขกผู้เข้าพักได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุด  ซึ่งนี่อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้คุณได้ไปพบกับอากาศบริสุทธิ์ สดชื่น ไปพร้อม ๆ กับการพักหย่อนใจ   01 |PX122 DBEST HOTEL เปลี่ยนโกดังเก็บใบยาสูบเป็นที่พักสไตล์อินดัสเทรียล โรงแรมในจังหวัดน่านที่เกิดจากการรีโนเวตโกดังเก็บใบยาสูบเก่าให้กลายเป็นโรงแรมสไตล์อินดัสเทรียล ตัวโรงแรมได้รับการปรับปรุงจากโครงสร้างเหล็กเดิมให้กลายเป็นอาคารสองชั้น โดยใช้อิฐจากโรงบ่มใบยาสูบเก่าทิ้งร้างที่บ้านฝาง จังหวัดน่าน มาออกแบบให้เปลือยผิวทั้งวัสดุและโครงสร้าง เพื่อสะท้อนถึงลักษณะของโกดังแบบดั้งเดิม จากทางเข้าด้านหนึ่งคือพื้นที่ต้อนรับพร้อมโถงบันไดนำขึ้นไปสู่ชั้น 2 บริเวณล็อบบี้ยังมีบ่อน้ำโบราณที่เก็บไว้ตามความเชื่อของชาวน่าน ส่วนอีกด้านคือพื้นที่ส่วนกลางโปร่งโล่งภายใต้หลังคาสกายไลท์ เขียวชอุ่มด้วยสวนไม้ใบทรอปิคัล มีเฟินต้นใหญ่ห้อยระย้าลงมากลายเป็นวิวสวย ๆ สำหรับทุกห้อง อ่านต่อฉบับเต็มคลิก ออกแบบ : คุณพรเทพ พรฉัตรรวี 02 | THE SLOW BALI กรุ่นกลิ่นงานศิลปะในโรงแรมสไตล์ […]

เมื่อนึกถึงสุราษฎร์ธานี หลายคนคงนึกไปถึงวิวสวยน้ำทะเลใส แต่สำหรับ COMET Hotel โรงแรมดีไซน์โมเดิร์นที่ตั้งอยู่ทำเลเยี่ยมใจกลางตัวเมือง แม้ไม่มีวิวทะเลของจริง แต่แนวคิดการออกแบบที่โดดเด่นก็สะท้อนอัตลักษณ์ของจังหวัดได้อย่างน่าสนใจไม่แพ้กัน โจทย์ตั้งต้นของ COMET Hotel คือการเป็นทั้งโรงแรมสำหรับการพักผ่อน และเป็นพื้นที่รองรับการสัมมนา การออกแบบจึงจำเป็นต้องสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ทันสมัย ตอบโจทย์การใช้งาน พร้อมทั้งสร้างทัศนียภาพแห่งการพักผ่อนเพื่อทดแทนบริบทภายนอก                ผู้ออกแบบตีความแรงบันดาลใจมาจากองค์ประกอบธรรมชาติของเมืองร้อนให้กลายเป็นแนวคิดหลัก “TROPICAL REALITY”โดยจำลองโรงแรมเสมือนเป็นสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ก้อนหนึ่งและนำภาพองค์ประกอบธรรมชาติเหล่านั้นมาใส่ลงไปในแต่ละด้านของลูกบาศก์ให้เป็นพื้นที่ส่วนต่าง ๆของโรงแรมทำให้เกิดสเปซที่ร้อยเรียงเรื่องราวต่อเนื่องกันไป รูปด้านหน้า (Front View) ของลูกบาศก์เป็นตัวแทนของทางเข้าโรงแรมใช้เส้นเฉียงสีเขียวพาดผ่านตัวสถาปัตยกรรมเพื่อสื่อถึงต้นมะพร้าวที่โอนไหว  ตัดกับผนังผืนดำกรุหินภูเขาไฟ ซึ่งเป็นวัสดุที่หาได้ทั่วไปในพื้นที่ภาคใต้ ขยับเข้ามาด้านในจะพบกับพื้นที่ล็อบบี้ตกแต่งตามคำขวัญประจำจังหวัดที่กล่าวถึง “เมืองร้อยเกาะ”  โดยนำมาถ่ายทอดผ่านมุมมองด้านบนของลูกบาศก์ (Top View) ด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาในลักษณะโมดูลาร์หลากสีสันดูสนุกสนาน สามารถขยับปรับเปลี่ยนตำแหน่งได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะแยกเป็นที่นั่งเล็ก ๆหรือรวมกันเป็นที่นั่งขนาดใหญ่ เปรียบเหมือนขนาดของหมู่เกาะในท้องทะเลเป็นไอเดียสนุก ๆ ก่อนขึ้นไปยังด้านบน ยังมีอีกหนึ่งมุมมองจากด้านล่าง (Under View) กับเส้นสายของราวบันไดที่พุ่งทะลุขึ้นไปจรดชั้น 5 ของโรงแรมองค์ประกอบนี้เป็นเสมือนตัวแทนของสายฝนที่ตกกระหน่ำไม่หยุดยั้งเพื่อพาคุณไปสู่ห้องอาหาร All day dining นามว่า “Cobalt” ที่ชวนให้คุณลองมองมุมกลับ   จากมุมมองด้านหลัง (Back View) […]

จากประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวของครอบครัว ที่ชื่นชอบการพักผ่อนในรูปแบบของเซอร์วิสต์อพาร์ตเมนต์ หรือที่พักแบบ Airbnb ซึ่งแขกผู้เข้าพักสามารถเรียนรู้วิถีชีวิต และซึมซับบรรยากาศของพื้นที่นั้น ๆ แบบใกล้ชิด ไม่ว่าจะข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว ลายแทงร้านอาหารเด็ด ๆ หรือเเม้กระทั่งการใช้ชีวิตของผู้คนในท้องถิ่น จนเป็นแรงบันดาลใจให้เจ้าของทั้งคู่ตัดสินใจเปิด ที่พักภูเก็ต เป็นของตัวเอง ในนาม ” POTTERY HOMESTAY “ ที่พักภูเก็ต แห่งนี้ตั้งเป็นตึกแถว 2 คูหา ขนาด 4 ชั้น ที่รีโนเวตและตกแต่งใหม่ในสไตล์มิกซ์แอนด์แมทช์ได้อย่างลงตัว โดยนำความหลงใหลในงานเซรามิกและศิลปะบนถ้วยชามาเป็นกิมมิก สร้างบรรยากาศให้ที่นี่มีกลิ่นอายสไตล์จีน อันเป็นเอกลักษณ์ที่แทรกซึมอยู่เกือบทุกอณูทั่วเมืองภูเก็ต บริเวณชั้น 1 เปิดเป็นพื้นที่คาเฟ่ Neighbor Good Café คอยต้อนรับเหล่านักชิมที่มักแวะเวียนมานั่งดื่มเครื่องดื่มร้อน-เย็นแบบชิล ๆ กับเบเกอรี่หอมหวานที่ทางร้านอบใหม่วันต่อวัน สำหรับพื้นที่ชั้น 2-4 เป็นส่วนของห้องพักซึ่งมีทั้งหมด 9 ห้อง โดยแต่ละห้องจะได้รับการตกแต่งแบบไม่ซ้ำกัน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและบริบทของห้องนั้น ๆ อย่างห้องที่อยู่ด้านหลังตึก เนื่องจากมีระยะร่นของระเบียงมาก จึงได้ประดับตกแต่งด้วยสวนกระถางขนาดย่อมไว้สำหรับออกมานั่งเล่นสูดอากาศแบบเป็นส่วนตัว  ในขณะที่ห้องอื่น ๆ ได้นำตำนานเรื่องเล่าของจีนมาดัดแปลงเป็นภาพวาดช่วยสร้างกิมมิกที่น่าสนใจภายในแต่ละมุมของห้องพัก ร่วมด้วยของตกแต่งสะสมสไตล์วินเทจที่บางชิ้นหาชมยาก […]

ท่ามกลางฉากหลังของความสงบสุข เนิบช้า ในตัวเมืองน่าน อาคารสไตล์อินดัสเทรียลของโรงแรม PX122 ที่พักน่าน ที่ร่มรื่นด้วยสวนเขียวชอุ่ม และอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของอดีต ได้สร้างประสบการณ์การพักผ่อนใหม่ที่แตกต่างให้ผู้มาเยือน เมื่อประมาณ 50 ปีก่อน ที่นี่เคยเป็นที่ตั้งของโกดังเก็บใบยาสูบที่ผ่านการบ่มแล้ว เพื่อเตรียมส่งต่อไปยังเมืองแพร่ โดยโกดังใหญ่นั้นสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2514 ส่วนโกดังโครงสร้างเหล็กด้านหลังได้รับการต่อเติมขึ้นใหม่ภายหลังในปี พ.ศ. 2524 สำหรับใบยาสูบทุกห่อที่ส่งขายจากที่นี่จะต้องติดรหัส แหล่งผลิต และรหัสของผู้บ่มใบยาสูบ ซึ่งรหัสที่ใช้นั้นคือ PX122 ที่มาของชื่อโรงแรม ต่อมาเมื่อกิจการยาสูบซบเซาไปตามกาลเวลา โกดังใหญ่ด้านหน้าจึงผ่านการปรับปรุงให้กลายเป็นหลากหลายพื้นที่ธุรกิจตลอดช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ จนมาถึงศูนย์จำหน่ายของที่ระลึก และผลิตภัณฑ์ OTOP ส่วนอาคารโครงสร้างเหล็กที่ต่อเติมขึ้นด้านหลัง ได้รับการรีโนเวตให้กลายเป็นโรงแรมแห่งนี้นั่นเอง ตัวโรงแรมได้รับการปรับปรุงจากโครงสร้างเหล็กเดิมให้กลายเป็นอาคารสองชั้น โดยใช้อิฐจากโรงบ่มใบยาสูบเก่าทิ้งร้างที่บ้านฝาง จังหวัดน่าน มาออกแบบให้เปลือยผิวทั้งวัสดุและโครงสร้าง เพื่อสะท้อนถึงลักษณะของโกดังแบบดั้งเดิม จากทางเข้าด้านหนึ่งคือพื้นที่ต้อนรับพร้อมโถงบันไดนำขึ้นไปสู่ชั้น 2 บริเวณล็อบบี้ยังมีบ่อน้ำโบราณที่เก็บไว้ตามความเชื่อของชาวน่าน ส่วนอีกด้านคือพื้นที่ส่วนกลางโปร่งโล่งภายใต้หลังคาสกายไลท์ เขียวชอุ่มด้วยสวนไม้ใบทรอปิคัล มีเฟินต้นใหญ่ห้อยระย้าลงมากลายเป็นวิวสวย ๆ สำหรับทุกห้อง ภายในห้องพักยังคงกลิ่นอายอินดัสเทรียล ไม่ว่าจะเป็นพื้นปูนเปลือย หรือผนังอิฐโชว์แนว ผสมผสานกับการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์เก่าหลากหลายรูปแบบ ทั้งเก้าอี้หวาย โต๊ะไม้สไตล์วินเทจ ผ้าทอพื้นเมือง ฯลฯ ส่งเสริมบรรยากาศให้ดูย้อนยุค ลึกลับ และน่าค้นหา แต่ทว่าก็ยังเข้ากับวิถีสมัยใหม่ และดูอบอุ่นชวนให้ผ่อนคลาย เจ้าของ : คุณทรงยศ-คุณสิรินทร รามสูต ออกแบบ คุณพรเทพ พรฉัตรรวี   ที่ตั้ง 42/5 ถนนสุริยพงษ์ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองฯ จังหวัดน่าน โทร. 0-5471-8727, 09-5925-4365 FB PX122 ดีBest Hotel Website  www.px122hotel.com ภาพ : ศุภกร PX122 DBEST HOTEL เป็นส่วนหนึ่งในหนังสือ “100 Best Design Small Hotels & Hostels” หนังสือ 100 Best Design Series เล่มที่ 2 ต่อจาก “100 […]

ชวนคุณไปใช้ชีวิตให้ช้าลง กับโรงแรมที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของงานศิลปะ ซึ่งเป็นความชื่นชอบของสองสามีภรรยาผู้เป็นเจ้าของ โดยคุณ George Gorrow  คร่ำหวอดอยู่ในวงการแฟชั่นมากว่า 20 ปี ในนามผู้ก่อตั้ง Ksubi แบรนด์สตรีทแฟชั่นจากออสเตรเลีย ส่วนคุณ Cisco Tschurtschenthaler คือนักออกแบบเซรามิก แบรนด์ Cisco & the sun โดยทั้งคู่ต่างหลงรักในเสน่ห์ของบาหลี จึงเลือกที่จะเปิด โรงแรมบาหลี บรรยากาศสบาย ๆ อันเป็นธุรกิจใหม่ของพวกเขาขึ้นที่นี่ ตัวอาคารเป็นรูปกล่องคอนกรีตดีไซน์เรียบง่าย ซึ่งมีอิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมสไตล์ Brutalism ผสานกับวัสดุและการตกแต่งสไตล์ทรอปิคัลเพื่อให้เข้ากับภูมิอากาศของสถานที่ตั้ง ชั้นล่างของโรงแรมนอกจากจะเป็นส่วนต้อนรับ บาร์ และร้านอาหารแล้ว ยังแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งสำหรับเป็นแกลเลอรี่แสดงงานศิลปะจากทั่วโลก ส่วนห้องพักมีทั้งหมด 12 ห้อง ชั้นล่างเป็นห้องพักพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว ชั้น 2 และ 3 มีการตกแต่งคล้ายกัน แตกต่างกันเล็กน้อยด้วยการตกแต่งงานศิลปะที่ไม่ซ้ำกันเลย ความพิเศษของที่นี่ไม่เพียงแต่ทำให้แขกผู้เข้าพักรู้สึกเสมือนอยู่ในแกลเลอรี่งานศิลปะ แต่ยังเด่นในเรื่องการเลือกใช้วัสดุของตกแต่งที่ให้ความรู้สึกขัดแย้งแต่ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นผิวสัมผัสของอาคารที่เป็นคอนกรีตจับคู่กับไม้ พื้นหินขัดสีเทาเข้มกับพื้นผิวของผนังอิฐ ฝ้าเพดานที่เป็นแผ่นไม้ดิบ ๆ รวมไปจนถึงงานหัตถกรรมต่าง ๆ ที่ใช้ตกแต่งห้อง ทำให้ได้เห็นถึงความใส่ใจในการคัดสรรรายละเอียดต่าง […]