Ideas
กิจกรรมในสวน ที่สร้างการเรียนรู้แก่เด็กๆร่วมกับธรรมชาติรอบตัว
ช่วงเวลานี้คงเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของทุกคน โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กๆอยู่ในบ้าน เพราะนอกจากจะต้องเรียนที่บ้านแล้ว ยังไม่สามารถออกไปเที่ยวเล่นหรือทำกิจกรรมที่สร้างเสริมพัฒนาการได้ เราจึงขอพาทุกคนในครอบครัวเข้าไปในสวนเพื่อสํารวจหาเมล็ดพันธุ์ของดอกไม้แล้วเริ่มต้นปลูกดอกไม้ให้สวนของเราให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง อีกทั้งยังเสนอกิจกรรมในสวนง่ายๆที่ปลอดภัยเหมาะสมกับเด็กและทุกคนในครอบครัวจากดอกไม้ใบหญ้ารอบตัว หาเมล็ดจากต้น โดยทั่วไปแล้วต้นไม้สามารถขยายพันธุ์ได้หลายรูปแบบ แต่สําหรับดอกดาวเรืองหรือดอกไม้ชนิดอื่นในวงศ์ Asteraceae การขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุด เพราะใช้ระยะเวลาเพาะกล้าไม่นานมาก อีกทั้งในหนึ่งต้นก็มีเมล็ดเยอะ จึงสามารถขยายพันธุ์หลายต้นพร้อมกันได้ ต้นไม้ในวงศ์นี้ที่เรารู้จักกันดีก็ได้แก่ ทานตะวัน ดาวเรือง ดาวกระจาย รักเร่ บานชื่น สร้อยทอง ปืนนกไส้ นอกจากนี้ยังมีดอกไม้ในวงศ์บานไม่รู้โรยหรือ Amaranthaceaeได้แก่บานไม่รู้โรย หงอนไก่ ผักเป็ดแดง ที่ใช้วิธีเพาะปลูกด้วยเมล็ดได้ง่ายและโตเร็วเช่นกัน โดยเมล็ดจะอยู่บริเวณเกสรเดิมของดอกหรือบริเวณโคนของก้านดอกซึ่งสามารถสังเกตได้ไม่ยาก เริ่มเพาะปลูก ตามธรรมชาติแล้ว เมื่อเมล็ดต้นไม้เหล่านี้หล่นลงดินณที่ใด หากได้ปัจจัยที่พร้อมอย่างแสงแดดและความชื้นที่เหมาะสม ก็พร้อมจะงอกเป็นต้นใหม่ได้เสมอ แต่เราสามารถช่วยเพิ่มปัจจัยการเจริญเติบโตได้ โดยการเตรียมแปลงปลูกที่พรวนดินให้ร่วนเพื่อให้ระบายน้ําได้ดี เนื่องจากต้นไม้เหล่านี้ส่วนมากไม่ชอบที่แฉะ ยกเว้นหงอนไก่ไทยที่สามารถเจริญเติบโตได้ จากนั้นเติมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยเคมี สูตร16-16-16เพื่อเพิ่มแร่ธาตุลงในดิน แล้วโรยเมล็ดบนดินหรือฝังกลบในดินลึกประมาณ1เซนติเมตร รดน้ําอย่างสม่ําเสมอ วันละ1ครั้ง แต่ควรสังเกตไม่ให้ดินแฉะจนเกินไป ภายใน7–10วันก็จะเริ่มงอกเป็นต้นใหม่ได้ในที่สุด โดยเมล็ดส่วนใหญ่จะงอกภายใน5–7วัน จากนั้นจะใช้เวลา2–3เดือนจึงออกดอก ซึ่งหากชวนเด็กๆในครอบครัวมาร่วมปลูกด้วยก็จะช่วยให้พวกเขาเข้าใจถึงวิวัฒนาการการเจริญเติบโตขั้นพื้นฐานของต้นไม้ ตั้งแต่ระยะการเก็บเมล็ดปลูกจนโตเป็นต้นอ่อน ต้นกําลังโต ผลิดอก และได้เห็นขั้นตอนการผสมเกสรโดยผีเสื้อและผึ้ง จนนําไปสู่การติดเมล็ดอีกครั้ง ประดับในสวน นอกจากเราจะปลูกดอกไม้เหล่านี้รวมกันเป็นแปลงเดียวแล้ว ยังสามารถนําไปจัดวางเป็นองค์ประกอบต่างๆภายในสวนได้อีกด้วย […]
รวมวิธีดูแลสวน ทั้งเรื่องต้นไม้และงานฮาร์ดสเคป รวมถึงการว่าจ้างนักจัดสวน
เพราะการจัดสวนไม่ได้จบแค่ตอนที่จัดเสร็จแล้ว แต่เรื่องใหญ่ที่แท้จริงคือการดูแลสวนให้สวยงามอยู่เสมอ เราจึงขอรวบรวมไอเดียจัดสวนให้ดูแลง่าย รวมไปถึงการดูแลสวนและการว่าจ้างนักจัดสวน การคิดค่าแรงแบบต่างๆ ออกแบบสวนให้ดูแลง่าย สำหรับคนที่ไม่ชอบดูแลต้นไม้หรือมีเวลารดน้ำต้นไม้ไม่มากนัก อาจจำเป็นต้องเลือกต้นไม้ที่ทนต่อสภาวะแห้งแล้งและดูแลง่าย สามารถขาดน้ำได้ในระยะเวลาหนึ่ง ส่วนมากจะอยู่ในกลุ่มไม้อวบน้ำ เช่น อากาเว่ ลิ้นมังกร พญาไร้ใบ รวมไปถึงสับปะรดสี หากเป็นกลุ่มไม้ยืนต้นเองก็มีต้นไม้ทนแล้งหลายชนิด เช่น กระถินณรงค์ เหลืองปรีดียาธร พญาสัตบรรณ หางนกยูงฝรั่ง มะขามเทศ หรือต้นไม้ในตระกูลปาล์ม โดยเราสามารถใช้งานฮาร์ดสเคปหรือปูพื้นด้วยกรวดและหินเพื่อลดการดูแลได้ด้วย รดน้ำต้นไม้อย่างน้อยวันละครั้ง ต้นไม้ต้องการน้ำเพื่อละลายสารอาหารในดินและช่วยนำอาหารจากรากไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ทำให้เซลล์เต่งตึง ลดอุณหภูมิภายในต้นเมื่ออากาศร้อนจัด ถึงแม้ว่าต้นไม้แต่ละชนิดจะต้องการน้ำไม่เท่ากัน แต่โดยทั่วไปนิยมรดน้ำต้นไม้ในช่วงเช้ามากกว่าตอนเย็น และเพิ่มเป็น 2 ครั้งในช่วงฤดูร้อน หรือรดให้น้อยลงในฤดูฝน ควรรดน้ำให้ชุ่มทั้งต้นเพื่อชำระล้างคราบฝุ่นบนใบและเชื้อโรคออก และนานพอให้น้ำซึมลงดินไปถึงราก เพราะถ้าเปียกแค่ผิวดินก็อาจไปไม่ถึงรากไม้ กำจัดสิ่งไม่พึงประสงค์ วัชพืชและสัตว์บางชนิดเป็นอันตรายต่อต้นไม้ ซึ่งมักเกิดในบริเวณที่อับชื้น อากาศไม่ถ่ายเท แสงสว่างส่องลงมาน้อย ดังนั้นควรนำต้นไม้ออกมารับแสงแดดและผึ่งลดบ้าง นำวัสดุปลูกเก่ามาเปลี่ยน หากต้นไม้มีอาการรุนแรงควรเด็ดส่วนที่มีอาการทิ้งหรือขูดออกให้หมด อาจฉีดพ่นน้ำสมุนไพรหมักไล่แมลงร่วมด้วย วัชพืชมักติดมากับดินถมหรือปุ๋ยคอกที่ยังย่อยสลายไม่เต็มที่ เมื่อเห็นควรรีบถอนและกำจัดออก หรือใช้กระสอบคลุม จากนั้นจึงปลูกต้นไม้ทดแทนไป การให้ปุ๋ยต้นไม้ สำหรับสวนทั่วไปจะให้ปุ๋ยเคมีเป็นครั้งคราวเพื่อเพิ่มสารอาหารในดิน หรือปุ๋ยละลายช้าชนิด 3 เดือนหรือ […]
ออกแบบบ้านให้รู้สึกโปร่งสบาย ด้วยหลักวิทยาศาสตร์
ทุกคนอยากทำบ้านให้ ”โล่ง โปร่ง สบาย” แต่จะทำ ความสูงฝ้าเพดาน เท่าไรจึงรู้สึกว่าโปร่งโล่ง คนส่วนใหญ่ใช้ความรู้สึก แต่เรามีคำตอบที่มาจากหลักวิทยาศาสตร์ ซึ่งศึกษาโดย ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน Research & Innovation for Sustainability Center (RISC) หน่วยงานที่ใส่ใจเรื่องสุขภาวะในการอยู่อาศัย ได้พบคำตอบว่า ความสูงฝ้าเพดาน 2.70 เมตร ทำให้รู้สึกไม่อึดอัด และฝ้าเพดานสูง 3.40 เมตร ทำให้รู้สึก โล่ง โปร่ง สบาย มาดูที่มาของคำตอบนี้กัน การรับรู้ของมนุษย์ ก่อนจะเข้าใจว่าทำไมคนเราจึงรู้สึก “โล่ง โปร่ง สบาย” เพื่อมากำหนด ความสูงฝ้าเพดาน ต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่า มนุษย์จะเกิดความรู้สึกตามสิ่งเร้า เช่น แสง เสียง กลิ่น รส อุณหภูมิหรือการสัมผัส ถ้าไม่อยู่ใน “เขตการรับรู้” จะไม่เกิดความรู้สึก เขตการรับรู้จึงเป็นเสมือนเส้นแบ่งระหว่างความรู้สึกกับความไม่รู้สึก และจาก “กฎของเฟชเนอร์” (Fechner’s law) […]
มารู้จักหลังคารูปแบบต่างๆกัน
มาดูกันว่าหลังคามีกี่ประเภท แตกต่างกันอย่างไร เพื่อเลือกใช้ รูปแบบหลังคา ให้ถูกต้องและเหมาะสมกับความต้องการได้มากที่สุด หลังคาเพิงหมาแหงน (Lean-to or Pitched Roof) หลังคารูปแบบเรียบง่ายมีความลาดเอียงด้านเดียว เป็นแบบหลังคาที่เกิดจากการสร้างบ้านหรือที่พักชั่วคราวแบบง่ายๆ การใช้หลังคาเพิงหมาแหงนต้องออกแบบให้ด้านที่ลาดเอียงหันไปหาแสงแดดหรือทิศที่มีฝนสาด แต่อย่างไรก็ดี หลังคาประเภทนี้ไม่สามารถป้องกันแดดและฝนได้ดีเท่าไรนัก สำหรับบ้านที่ใช้หลังคาเพิงหมาแหงนอาจแก้ปัญหาเรื่องแดดด้วยการทำแผงกันแดดด้านข้างเพิ่ม รูปแบบหลังคา หลังคาจั่ว (Gable Roof) เป็นหลังคาที่เกิดจากการนำด้านสูงของหลังคาเพิงหมาแหงนมาชนกันให้เกิดสันหลังคา (Ridge) สามารถกันแดดกันฝนได้ดีในด้านที่มีชายคายื่น ส่วนหน้าจั่วหรือด้านสกัดมักมีปัญหาเรื่องการป้องกันแดดและฝน ซึ่งเราอาจทำชายคาเฉพาะจุดเพิ่มบริเวณเหนือหน้าต่างและประตูเพื่อป้องกันแดดและฝน หลังคาจั่วนิยมใช้กับบ้านในเมืองไทยและบ้านเมืองร้อนทั่วไป การสร้างหลังคาจั่วควรออกแบบให้มีความลาดชันที่พอเหมาะ เพื่อให้น้ำฝนไหลลงได้สะดวก และควรระวังรอยต่อบริเวณสันหลังคา เพราะเป็นจุดที่น้ำฝนรั่วซึมได้ง่าย หลังคาปั้นหยา (Hip Roof) เป็นหลังคาที่พัฒนามาจากหลังคาจั่ว แต่มีชายคาลาดเอียงทั้งสี่ด้าน สามารถกันแดดกันฝนได้รอบ เหมาะกับสภาพภูมิอากาศของเมืองไทยที่ร้อนและมีฝนตกชุก การก่อสร้างหลังคาปั้นหยาจะยุ่งยากกว่าหลังคาจั่ว เพราะมีรอยต่อของสันหลังคาหรือตะเข้สันมากกว่า หลังคามนิลา (Hip Gable Roof) คือหลังคาปั้นหยาที่ปรับให้ด้านสกัดมีหน้าจั่วทั้งสองด้านบริเวณช่วงบนของหลังคา เพื่อรูปทรงที่สวยงามและการระบายอากาศใต้หลังคาที่ดี หลังคาชนิดนี้เป็นแบบหลังคาของบ้านเรือนไทยภาคกลาง เนื่องจากเหมาะกับภูมิประเทศเขตร้อนที่มีฝนตกชุก หลังคามนิลา นอกจากจะมีชายคากันแดดกันฝนทั้งสี่ด้านแล้ว ยังสามารถระบายอากาศร้อนใต้หลังคาออกทางหน้าจั่วได้ด้วย หลังคาสวิส (Gable Hip Roof) หลังคาลูกผสมระหว่างหลังคาจั่วกับหลังคาปั้นหยา […]
รวมทุกเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับงานฮาร์ดสเคป หรือ งานก่อสร้างในสวน
นอกจากการปลูกต้นไม้ในสวนแล้ว งานฮาร์ดสเคป หรือการก่อสร้างองค์ประกอบภายในสวนที่ต้องใช้โครงสร้างถาวรหรือกึ่งถาวรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่หลายคนควรรู้ เพื่อนำไปใช้ในการลงมือก่อสร้างด้วยตัวเอง หรือนำไปคุยกับช่างก่อสร้าง เพื่อให้ก่อสร้างส่วนต่าง ๆ ในสวนได้อย่างถูกต้อง งานฮาร์ดสเคป หรืองานก่อสร้างในสวน ไม่ว่าจะเป็น ส่วนทางเดิน ศาลา บ่อปลา หรือระบบให้แสงสว่าง บ้านและสวน มีเรื่องที่ต้องรู้มาแนะนำดังนี้ การปรับระดับพื้นที่เป็นเรื่องสำคัญ การปรับระดับพื้นที่ควรเป็นสิ่งแรกที่ทำหลังจากการออกแบบสวนและเริ่มจัดสว นเพื่อให้ได้ระดับความสูงต่ำ เนินดิน ตลิ่งริมน้ำ หรือทางระบายน้ำ ไม่ควรออกแบบให้ทางลาดสูงชันมาก โดยเฉพาะพื้นที่แคบ ๆ เพราะ เสี่ยงต่อดินพังทลายจากการกัดเซาะของน้ำฝน และไม่สะดวกต่อการตัดแต่งดูแล สำหรับพื้นที่ที่อยู่ในบริเวณที่ต่ำมีน้ำท่วมถึง อาจไม่จำเป็นต้องเลือกแนวทางการถมดินให้มีระดับสูงกว่าระดับน้ำท่วมเสมอไป อาจใช้การปรับระดับโดยการขุดดินในบริเวณหนึ่งให้สามารถรับน้ำเพิ่มและรองรับน้ำที่ระบายไป แล้วนำดินที่ขุดได้ไปถมในบริเวณที่จำเป็นสำหรับใช้งาน โดยไม่ต้องเสียค่าดินในการถมและช่วยแก้ปัญหาในระยะยาวได้ หลีกเลี่ยงผลกระทบที่ไม่ดีต่อพื้นที่ใกล้เคียงและรบกวนสิ่งแวดล้อมเดิมให้มากที่สุด การกำหนดระยะงานฮาร์ดสเคป ต้องเหมาะสมกับลักษณะการใช้งานของมนุษย์ เช่น ทางเดินในสวนควรมีขนาดพื้นให้คนปกติและรถเข็นสามารถผ่านได้ โดยทั่วไปควรมีความกว้างไม่ต่ำกว่า 80 เซนติเมตร ถ้าเล็กกว่านี้คนจะเดินทางผ่านกันลำบาก และยังเบียดทำลายต้นไม้ข้างทางเดินได้ และควรมีระยะทางไม่ยาวเกินไป รวมถึงต้องมองเห็นได้ชัดเจน มุมที่นั่งบนขอบกระบะปลูกต้นไม้ควรออกแบบให้มีระยะความสูง 45-50 เซนติเมตร ลึก 40-60 เซนติเมตร หากต้องการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนที่เดินผ่านหรือให้คนที่อยู่ใกล้กันหันหน้าเข้าหากัน แต่หากต้องการความเป็นส่วนตัว เพียงเว้นที่นั่งไว้ในระยะคนนั่งหนึ่งคนและหันหน้ามองไปทางเดียวกันก็ทำให้รู้สึกแบ่งแยกออกจากกัน […]
Rapid Antigen Test Kit ตรวจโควิดใช้งานอย่างไร
เพื่อการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อย่างเร่งด่วนในสถานการณ์ปัจจุบัน เราจึงต้องเรียนรู้ว่า Rapid Antigen Test Kit ใช้งานอย่างไร เมื่อไรที่จะพบเชื้อ ยี่ห้อไหนที่อย.รับรอง และอ่านผลอย่างไรให้ถูกต้อง Rapid Antigen Test คือการตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อ โดยหาส่วนประกอบของเชื้อไวรัสที่มีอยู่ภายในโพรงจมูกหรือลำคอ ซึ่งการตรวจแบบนี้ใช้ได้กับทั้งผู้ที่ฉีดวัคซีนมาแล้วและผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน เป็นการตรวจที่ทราบผลอย่างรวดเร็วได้ด้วยตัวเอง มีความต่างจากการเจาะเลือดหา Antibody ซึ่งไม่สามารถแยกออกจากภูมิของผู้ที่ได้รับวัคซีนมาแล้วได้ การตรวจโดยใช้ชุดตรวจโควิดแบบรวดเร็วนี้ จะตรวจพบเชื้อไวรัส หลังจากรับเชื้อมาประมาณ 3-5 วัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยที่แสดงอาการหรือไม่แสดงอาการ (ดีที่สุดในช่วง 5-14 วัน จากนับจากวันรับเชื้อ) หากพ้นระยะ 14 วันและหายป่วยแล้วก็จะไม่สามารถตรวจหาเชื้อเจอ วิธีตรวจโควิด Rapid Antigen Test ด้วยตัวเอง ก่อนอื่นเตรียมพื้นที่ซึ่งไม่มีการปนเปื้อน ล้างมือให้สะอาด หากมีน้ำมูกควรเคลียร์จมูกก่อน ตรวจสอบวันหมดอายุของชุดตรวจ แกะบรรจุภัณฑ์ออก โดยปกติชุดตรวจจะประกอบด้วย ก้านสำลีสำหรับ Swab หลอดใส่น้ำยาตัวอย่าง ฝาหยด ตลับทดสอบ และเอกสารกำกับ ทำการอ่านเอกสารกำกับอย่างถี่ถ้วน แต่ละยี่ห้ออาจมีรายละเอียดแตกต่างกันบ้าง […]
วิธีไหนใช้ทำความสะอาดไม้ใบ ให้สะอาดและดีต่อสุขภาพพืช
หลายคนอยากให้เหล่าไม้ใบที่ปลูกอยู่มีใบเงามันสวยงามเหมือนตอนที่ซื้อจากร้านค้ามาในช่วงแรก ๆ เพราะ เวลาปลูกต้นไม้ไว้ที่บ้านนาน ๆ ก็มักจะมีคราบสกปรกจากฝุ่นเกาะอยู่ตามผิวใบ ทำให้ใบดูไม่เขียวสดใสเหมือนเดิม บ้านและสวน จึงมาหาคำตอบให้ดูว่า มีวิธีไหนที่จะช่วย ทำความสะอาดไม้ใบ ให้กลับมาเขียวสดใสขึ้นกันได้บ้าง สเปรย์สำหรับฉีดเพิ่มความเงาให้ใบ ใช้ง่ายเพียงแค่ฉีดพ่นในระยะห่างจากใบประมาณ 10 ซม. แต่ด้วยความที่น้ำยาสเปรย์ก็มีส่วนผสมของน้ำมันหรือแว็กซ์เพื่อสร้างความเงางาม จึงอาจมีการอุดตันต่อผิวใบ ทำให้ใบนั้นไม่สามารถสังเคราะห์แสงหรือคายน้ำได้ดีและอาจส่งผลให้ใบนั้นเหี่ยวแห้งตายในที่สุด ทำความสะอาดไม ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันพืช เมื่อนำมาเช็ดก็จะให้สัมผัสของใบเงางามวิบวับขึ้นมาทันที แต่ตัวน้ำมันสามารถเคลือบผิวของใบ ทำให้ใบไม่สามารถสังเคราะห์แสงหรือคายน้ำได้ ส่งผลให้ใบนั้นเหี่ยวแห้งตาย โดยเฉพาะผิวใบที่มีขน ๆ อย่าง ไทรใบสัก เมื่อถูกเคลือบด้วยน้ำมันจะทำให้ใบไหม้ได้ เราจึงไม่ค่อยอยากแนะนำให้ใช้ น้ำอัดลมก็สามารถช่วยให้เกิดความเงามันบนผิวใบได้ดี แม้จะไม่เงาวับเท่ากับน้ำมันก็ตาม แต่น้ำอัดลมจะทำให้ผิวใบเกิดความเหนียวที่เป็นเหมือนตัวเคลือบการคายน้ำและสังเคราะห์แสงของใบได้เช่นกัน อีกทั้งความเหนียวยังกลายเป็นตัวกักเก็บฝุ่นได้ง่ายขึ้นด้วย เราจึงไม่แนะนำให้ใช้ การหยดน้ำยาล้างจานเพียง 2-3 หยดลงในน้ำเปล่า 1 ลิตร เพื่อนำมาเช็ดที่ใบ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความเงางาม แต่ใช้เพื่อกำจัดล้างแมลงเล็ก ๆ หรือไข่แมลงที่เกาะอยู่ตามใบ ถ้าเป็นต้นที่มีใบเล็ก ๆ จำนวนมากก็สามารถยกมาล้างในห้องน้ำ หรืออ่างล้างหน้าได้ แต่ไม่ควรใช้แปรงขนมาทำความสะอาด เพราะ […]
BCG คืออะไร หรือคือทางออกเศรษฐกิจไทยในอนาคต
เศรษฐกิจประเทศไทยจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร BCG คืออะไร สำคัญอะไรกับเรามากน้อยแค่ไหน คำตอบอาจอยู่ในคำสามคำที่ว่าด้วย Bioeconomy, Circular Economy และ Green Economy
รวมทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการปลูกต้นไม้ทุกชนิดในสวน
จะจัดสวนต้องซื้อต้นไม้แบบไหนบ้าง? แล้วซื้อมาแล้วจะมาปลูกที่บ้านอย่างไรให้ไม่ตาย? สำหรับใครที่กำลังมองหาซื้อต้นไม้สำหรับจัดสวน หรือพึ่งเริ่มต้นจัดสวนเองที่บ้าน แต่ไม่เคยปลูกต้นไม้รอบมาก่อน เราได้รวบรวมเรื่องที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการปลูกต้นไม้ชนิดต่างๆ การเลือกพรรณไม้ในการจัดสวน รวมไปถึงการปลูกต้นไม้แต่ละแบบอย่างถูกต้อง แบบที่เมื่อคุณอ่านจบคุณจะกลายเป็นผู้มีความรู้แบบนักจัดสวนได้ในทันที ต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้ใหญ่ หมายถึง ต้นไม้ยืนต้นที่มีลำต้นตั้งตรง สูงได้มากกว่า 6 เมตร และแผ่ทรงพุ่มด้านบน จุดประสงค์หลักของการปลูกส่วนใหญ่เพื่อให้ร่มเงากับทั้งคนที่อยู่ด้านล่างใต้ต้นไม้ไปจนถึงตัวบ้านด้านข้าง นอกจากนั้นยังช่วยสร้างจุดเด่นในสวน ซึ่งต้นไม้ใหญ่แต่ละชนิดจะมีรูปทรงและลักษณะเด่นต่างกันไป สามารถเลือกไปใช้ตามความเหมาะสม ข้อควรระวังในการปลูกต้นไม้ใหญ่ – รากชอนไชแผ่ขยายจนดันพื้นคอนกรีต บ่อปลา หรือสิ่งก่อสร้างจนแตกร้าว ควรแก้ปัญหาด้วยการปลูกต้นไม้ลงในกระถางก่อน เมื่อต้นโตเต็มที่แล้วค่อยปลูกลงดิน อีกทั้งหมั่นตัดแต่งกิ่งไม่ให้แผ่ไปมาก หลีกเลี่ยงต้นไม้ที่มีระบบรากขนาดใหญ่หรือมีพูพอนอย่างไทร โพธิ์ จามจุรี พญาสัตบรรณ หรือหางนกยูงฝรั่ง -หมั่นตัดกิ่งที่เปราะหักง่ายจนหล่นมาเป็นอันตรายกับคนที่สัญจรไปมาหรือมีสิ่งก่อสร้างอยู่ใกล้ โดยเฉพาะต้นไม้ที่มีกิ่งเปราะอย่างชมพูพันธุ์ทิพย์ จามจุรี นนทรี เป็นต้น -หากปล่อยให้ต้นไม้ใหญ่สูงเกินไป ควรระวังเรื่องดินอ่อนทรุดตัว โดยเฉพาะบริเวณที่น้ำกัดเซาะหรือหลังจากฝนตกหนักใหม่ๆ อาจส่งผลให้ต้นล้มและเกิดความเสียหายได้ -ควรปลูกต้นไม้ให้เหมาะสมกับขนาดพื้นที่สวนว่ามีที่ว่างเพียงพอทั้งแนวราบและแนวตั้ง รวมไปถึงจำนวนที่เหมาะสมที่ทรงพุ่มไม่ชนกัน ดังนั้นก่อนปลูกจึงควรศึกษาข้อมูลพื้นฐานของต้นไม้ชนิดนั้นๆว่ามีรูปทรงเป็นอย่างไร ระดับความสูงเท่าไหร่ ทรงพุ่มแผ่กว้างได้แค่ไหน และโตเร็วหรือเปล่า เพื่อจะเตรียมพื้นที่ปลูกที่เหมาะสมและสามารถปลูกร่วมกับต้นไม้ชนิดอื่นในสวนได้ การปลูกต้นไม้ล้อมทำอย่างไร – แต่เดิมเราอาจเข้าใจผิดว่าควรขุดหลุมปลูกให้ลึกถึงจะดี เนื่องจากอาจคิดว่าดินจะช่วยพยุงโคนต้นให้ตั้งตรงได้เร็ว หรือเป็นความเข้าใจที่ผิดว่ารากจะสามารถลงไปแทงหาอาหารได้ลึก […]
สร้างบ้านชิดที่ดินด้านไหนดีที่สุด
การสร้างบ้าน สักหลังถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยเฉพาะเรื่องทิศทางการวางตำแหน่งในการสร้างบ้านนั้นมีความสำคัญมาก ครั้งนี้เรามาดูตัวอย่าง 6 ไอเดียในการสร้างบ้านชิดที่ดินด้านไหนจะได้ผลลัพธ์ที่ดี เพื่อให้ได้บ้านที่อยู่อาศัยได้อย่างสะดวกสบายที่สุดกัน การสร้างบ้าน 1. หากข้างบ้านเป็นตึกสูง มีความพลุกพล่าน ไม่น่ามอง แนะนำให้ทำบ้านชิดด้านนั้นและวางแปลนให้เป็นส่วนบริการ ที่จอดรถ หรือโถงบันได เพื่อบล็อกมุมมอง และสร้างความเป็นส่วนตัวให้ในบริเวณบ้าน 2. วางบ้านชิดที่ดินด้านที่โดนแดดแรง คือด้านทิศตะวันตกและทิศใต้ เพื่อให้เหลือที่ว่างด้านทิศตะวันออกและทิศเหนือซึ่งโดนแดดน้อย แล้ววางแปลนด้านนี้เป็นส่วนพักผ่อนที่ต้องการมุมมองที่ดี 3. สร้างบ้านชิดด้านหน้าบล็อกความวุ่นวายจากถนน สร้างพื้นที่เปิดโล่งและเป็นส่วนตัวไว้หลังบ้าน 4. สร้างบ้านชิดด้านหลังจะเห็นตัวบ้านชัดเจน เหมาะกับบ้านที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี แต่กรณีนี้จะต้องทำถนนตามเข้าไปด้วย ซึ่งต้องใช้งบประมาณและเสียพื้นที่จัดสวน 5. โดนล้อมด้วยตึกหรือต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ทำได้ด้วยการสร้างขอบเขตโดยรอบ จึงนิยมสร้างบ้านเกือบทุกด้านให้ชิดขอบเขตที่ดินมากที่สุด โดยทำผนังทึบรอบบ้าน เพื่อให้เหลือพื้นที่สำหรับเปิดคอร์ตในบ้านที่เป็นส่วนตัว 6. สร้างบ้านชิดด้านซ้ายหรือด้านขวา เพื่อเหลือที่ว่างอีกด้านที่เข้าถึงจากถนนหน้าบ้านได้ง่าย เหมาะกับการวางแผนต่อเติมในอนาคต การสร้างบ้าน ยังมีเนื้อหาเกี่ยวกับ การสร้างบ้าน ที่ควรรู้อีกมากมาย ซึ่งนำเสนอใน 100 เรื่องต้องรู้ในการสร้างบ้านและจัดสวน ตีพิมพ์ลงในนิตยสารบ้านและสวน ฉบับเดือนกรกฎาคม 2564 มีหลากหลายหมวด เช่น นักออกแบบและผู้รับเหมา งานโครงสร้าง การตรวจหน้างาน วัสดุก่อสร้าง พรรณไม้ในสวน การดูแลสวน เรียกได้ว่าจบครบในเล่มเดียวสำหรับคนรักบ้านตัวจริง […]
จัดสวนราคาประหยัด ของไม่ต้องซื้อ ใช้ขยะเหลือใช้ใกล้ตัวทำเอง ก็สวยได้
หนึ่งไอเดียจัดสวนราคาประหยัด ไม่ต้องออกไปซื้อของที่ไหน โดยใช้ของตกแต่งสวนจากของสะสมชิ้นเก่าที่เตรียมจะถูกทิ้ง คุณจักษ์ ลัดพลีเจ้าของสวนใช้ตู้เย็นเก่าที่สภาพใช้งานไม่ได้แล้วเปลี่ยนมาเป็นมุมปลูกต้นไม้กระถางในร่มบริเวณริมระเบียงบ้าน รวมไปกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆที่ไม่ได้ชั้งงานแล้ว ทำให้สวนมีกลิ่นอายย้อนไปยุคไปช่วงยุค 90s และลิ้นชักใส่เอกสารที่เปลี่ยนเป็นลิ้นชักปลูกต้นไม้เก๋าไก๋ เหมาะกับใช้เป็นมุมนั่งชมสวนและจิบกาแฟ ปลูกต้นไม้ในตู้เก็บเอกสาร 1.ถอดลิ้นชักแต่ละชั้นออกมา สำรวจว่าผุหรือมีรอยรั่วหรือไม่ หากมีก็ทำซ่อมแซมให้พอรับน้ำหนักได้ 2.หากไม่มีรอยใดๆ ให้เจาะรูเพิ่มเพื่อช่วยระบายน้ำ เมื่อรดน้ำต้นไม้จะได้ไม้ท่วมขัง 3.เลือกปลูกต้นไม้กระถางที่มีขนาดต้นเล็กและระบบรากตื่น จากนั้นจัดเรียงให้ต้นเตี้ยอยู่ด้านหน้า และต้นสูงอยู่ด้านหลัง 4.เติมวัสดุปลูกตามช่องว่างระหว่างตุ้มรากเพื่อช่วยล็อกตุ้มรากให้แน่น ไม่ขยับ ป้องกันรากกระทบกระเทือน เปลี่ยนตู้เย็นเก่า เป็นมุมสวน 1.กระถางสาระแหน่ประดับหรือต้นไม้ที่ต้องการมาตรวจสุขภาพ ต้นไม้ใบเหล่านี้มักมีโรคหรืออาการไม่พึ่งประสงค์อย่างใบเป็นเหลือง เป็นจุด หรือเน่า ควรรีบตัดทิ้งและนำไปทำล้างก่อนนำมาปลูกรวมกับต้นไม้ต้นอื่นๆ 2.ใส่ปุ๋ยละลายช้าเพื่อเพิ่มสารอาหารให้กับต้นไม้ ควรใส่ทุก 3 เดือน 3.รดน้ำจนน้ำซึมออกจากกระถางจนหมด จากนั้นวางทิ้งไว้จนน้ำหยุดไหล 4.เรียงกระถางต้นไม้ใส่ตู้เย็น โดยเอียงกระถางเล็กน้อย เพื่อให้ต้นไม้แต่ละต้นได้รับแสงแดดเพียงพอทั่วถึง ปลูกผักในกระถาง 1.นำเมล็ดผักที่ต้องการปลูกแช่น้ำไว้ก่อนประมาณ 1-2 ชั่วโมง 2.ผสมวัสดุปลูกในอัตราส่วน ดังนี้ ขุยมะพร้าว 1 ส่วน : ทราย 1/2 ส่วน : […]
บ้านผู้สูงอายุ ควรใช้พื้นไม้ ช่วยป้องกันเจ็บป่วยได้เพราะอะไร
ทำไมผู้สูงอายุจึงชอบอยู่บ้านที่ปูพื้นไม้ และรู้ไหม พื้นไม้ช่วยให้ผู้สูงอายุไม่ป่วยง่าย บ้านผู้สูงอายุ บางคนอาจมีประสบการณ์ตรงที่ตอนวัยรุ่นชอบพื้นกระเบื้อง พื้นหิน เพราะอากาศร้อนจึงชอบพื้นเย็นๆ แต่พออายุมากขึ้นกลับมาชอบพื้นไม้ นอกจากเรื่องสไตล์ส่วนตัวแล้ว ก็เป็นเพราะการรับความรู้สึกร้อน-หนาวของผู้สูงอายุมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดย ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน Research & Innovation for Sustainability Center (RISC) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ใส่ใจเรื่องสุขภาวะในการอยู่อาศัย ได้ศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจังและมีคำตอบมาไขข้อสงสัย เพื่อให้ลูกหลานเตรียมพื้นที่สำหรับผู้สูงอายุได้อย่างเหมาะสม บ้านผู้สูงอายุ ความรู้สึกร้อน-หนาวเกิดจากอะไร ความรู้สึกร้อนหรือหนาวนั้นเกิดจากประสาทสัมผัส โดยภายใต้ผิวหนังของเรามีเซลล์ประสาทหลายชนิด ทำหน้าที่ “รับสิ่งเร้า” และเซลล์ประสาทเหล่านี้ยังแบ่งออกเป็นกิ่งก้านย่อยๆจำนวนมาก เพื่อนำความรู้สึกที่ได้รับไปสู่สมองในการรับสัมผัสทางผิวหนังนั้น เชื่อกันว่าร่างกายมีจุดรับสัมผัสจำนวนมาก โดยมีปลายประสาท 4 ชนิดกระจายอยู่ทั่วไป และแต่ละจุดจะมีหน้าที่รับความรู้สึกเพียงอย่างเดียว ได้แก่ การรับสัมผัสทางผิวหนัง การรับความเจ็บ การรับอุณหภูมิร้อน การรับอุณหภูมิเย็น โดยอุณหภูมิปกติของร่างกายเราอยู่ที่ 36.4 – 37.7 องศาเซลเซียส และเปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมิของห้อง พื้นผิว และสภาพแวดล้อม โดยร่างกายจะพยายามรักษาอุณหภูมิภายในไว้ที่แกนร่างกาย แต่ผิวของร่างกายภายนอกจะเปลี่ยนแปลงเพื่อการปรับตัวมากน้อยต่างกันตามช่วงอายุ บ้านผู้สูงอายุ อุณหภูมิส่งผลกับร่างกายอย่างไร เมื่ออุณหภูมิรอบตัวมีการเปลี่ยนแปลง ร่างกายจะปรับตัวเพื่อรักษาสมดุล และเกิดการตอบสนองในแบบต่างๆกัน […]
ข้อปฏิบัติสำหรับการแยกรักษาตัวที่บ้านแบบ Home Isolation
Home Isolation คือ การแยกรักษาตัวที่บ้าน เป็นอีกแนวทางในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรง ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาแบบผู้ป่วยในของโรงพยาบาล หรืออยู่โรงพยาบาลเพียงระยะสั้น ๆ แล้วไปพักฟื้นต่อที่บ้านหรือสถานที่รัฐจัดให้ ซึ่งผู้ป่วยที่มีอาการน้อยส่วนใหญ่จะค่อยๆดีขึ้นจนหายสนิท มาดูเกณฑ์การพิจารณาและการปฏิบัติตัวเมื่อต้องแยกรักษาตัวที่บ้านกัน ระยะการแพร่เชื้อ Home isolation คือ การแยกรักษาตัวที่บ้าน ซึ่งผู้ป่วยโควิด-19 จะเริ่มแพร่เชื้อก่อนมีอาการประมาณ 2-3 วัน ไปจนถึงสิ้นสุดสัปดาห์แรกของการเจ็บป่วยนับจากวันที่เริ่มมีอาการ ผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการน้อยหรืออาการดีขึ้นแล้ว อาจจะยังมีเชื้อไวรัสที่ยังแพร่ไปสู่ผู้อื่นอยู่ในน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วยเป็นระยะเวลาประมาณ 10 วัน หลังจากเริ่มป่วย ดังนั้น ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ไม่ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล จึงจำเป็นต้องแยกตัวเองจากผู้อื่นขณะอยู่ที่บ้านเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน นับตั้งแต่วันที่เริ่มป่วย หากครบ 14 วัน แล้วยังมีอาการควรแยกตัวจนกว่าอาการจะหายไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง เพื่อลดการแพร่เชื้อให้ผู้อื่น ทั้งนี้สามารถปรึกษาแพทย์ได้หากไม่มั่นใจระยะเวลาที่เหมาะสมในการหยุดแยกตัว หลังจากนั้น แนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยและระมัดระวังสุขอนามัยส่วนบุคคลต่อไปตามมาตรฐานวิถีใหม่ (new normal) แต่ถ้าเป็นผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำหรือมีอาการหนักในช่วงแรก อาจจะแพร่เชื้อได้นานถึง 3 สัปดาห์ ผู้ป่วยกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล เมื่ออาการดีขึ้นจนกลับบ้านได้แล้วมักจะพ้นระยะแพร่เชื้อแล้วจึงไม่ต้องแยกตัว ผู้ที่อยู่ในช่วงระยะที่แพร่เชื้อได้ […]
5 วิธีปรับ บ้านเพื่อสุขภาพ แก้ปัญหาผู้สูงอายุนอนไม่หลับ
บ้านเพื่อสุขภาพ อาจแก้ปัญหาที่ว่า ทำไมเมื่ออายุมากขึ้น ยิ่งนอนหลับยาก ตื่นง่าย ซึ่งกำลังกลายเป็นปัญหาเพิ่มมากขึ้น
ข้อควรรู้การออกแบบคอร์ตในบ้าน
คอร์ต ภายในบ้าน ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับบ้านที่ตั้งอยู่ในเมืองและอาจต้องเจอปัญหาเพื่อนบ้านไม่น่ารัก ถนนเสียงดัง ไม่เป็นส่วนตัว หรือวิวรอบข้างไม่สวยงาม มาดูไอเดียออกแบบบ้านพร้อมคอร์ตกัน ที่มาของคอร์ตยาร์ต คอร์ตยาร์ด (Courtyard) หรือ คอร์ต (Court) คือ ลานหรือพื้นที่ไม่มีหลังคาคลุม และมีผนังหรืออาคารโอบล้อมทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งเริ่มมีความสำคัญมากขึ้นในการออกแบบบ้านสมัยใหม่ เนื่องจากไม่อาจพึ่งพาสภาพแวดล้อมรอบบ้านได้ เช่น ข้างบ้านไม่น่ารัก ติดทางด่วนมีเสียงดัง อยู่ใกล้ตึกสูงทำให้รู้สึกมีคนมองตลอดเวลา หรืออยากได้พื้นที่เปิดโล่งที่เป็นส่วนตัว มาดูวิธีการออกแบบและข้อพิจารณาของการทำคอร์ตในบ้านกัน เริ่มปรากฏการทำ คอร์ต สำหรับเป็นลานเลี้ยงสัตว์ในหมู่บ้านเมื่อหลายพันปีก่อนคริสต์ศักราช อยู่ในช่วงยุคหินใหม่ (Neolithic หรือ New Stone Age) ซึ่งอยู่ระหว่างยุคหินกลางกับยุคโลหะ เป็นยุคที่เปลี่ยนจากสังคมล่าสัตว์เป็นสังคมเกษตรกรรม โดยอาศัยรวมกันเป็นหมู่บ้าน เริ่มทำการเกษตรอย่างเป็นระบบ มีการตั้งถิ่นฐานเป็นหลักแหล่งและสร้างที่พักอาศัยถาวร ทั้งยังพบการทำคอร์ตในหลายประเทศทั่วโลก อย่างซากเมืองโบราณแถบเมโสโปเตเมีย ประเทศแถบตะวันออกกลาง และแอฟริกา รวมถึงหลายประเทศในเอเชียอย่างไทยและจีนก็มีการทำพื้นที่เปิดโล่งในบ้านเช่นกัน การทำที่ว่างในคอร์ตกับที่ว่างรอบบ้านต่างกันอย่างไร พื้นที่ คอร์ต เป็นการสร้างมุมมองและพื้นที่ใช้งานร่วมกัน จึงเหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการให้เกิดกิจกรรม และสร้างการรับรู้หรือให้มองเห็นกันได้ และเป็นวิธีเพิ่มพื้นผิวอาคารเพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติและเพิ่มการระบายอากาศ แต่เมื่อมีคอร์ตมาคั่นพื้นที่ใช้งานในบ้านแล้ว มักจะทำให้ระยะการเดินในบ้านไกลขึ้น การสร้างบ้านโดยเว้นพื้นที่ว่างไว้รอบบ้านจะทำให้แต่ละห้องได้ทัศนียภาพต่างกัน พื้นที่ภายในบ้านกระชับทำให้ระยะการเดินไม่ไกลกันและดูแลภายในบ้านได้ง่าย แต่ถ้าที่ดินมีขนาดเล็ก […]
ซื้อไม้ด่าง อย่างไรไม่ให้ถูกหลอก
บ้านและสวนมาคุยกับกับคุณจิ๋ว-ปราโมทย์ โรจน์เรืองแสง แห่งสวนอัญมณี ผู้สะสมไม้ด่างมากว่า 40 ปีด้วยใจรัก ถึงการเลือก ซื้อไม้ด่าง ที่เป็นไม้ใบอย่างฟิโลเดนดรอน มอสเตอร่า และลิ้นมังกร เพื่อใช้เป็นต้นพันธุ์ว่าเราเลือกซื้ออย่างไรกัน
10 จุดอ่อนบ้าน ทำร่างพัง จิตป่วยโดยไม่รู้ตัว
ใครซึมเศร้า เบื่ออาหาร หน้าหมอง แสบตา เวียนหัว โดยไม่รู้สาเหตุ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุและเด็ก ให้ลองสังเกต 10 จุดในบ้านต่อไปนี้ที่อาจเป็นต้นเหตุให้ป่วยแบบเรื้อรัง ซึ่งเป็นข้อมูลดีๆจาก ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน Research & Innovation for Sustainability Center (RISC) ที่ใส่ใจสุขภาวะของการอยู่อาศัย มาสำรวจตัวเองและบ้านไปพร้อมๆกันเลย 1.สีทาบ้าน ทำให้แสบตา แสบจมูก วิงเวียน ถ้าอยู่ในบ้านเฉยๆ ก็รู้สึกแสบตา แสบจมูก วิงเวียน บางทีอาจมีสาเหตุจากสีทาบ้านก็เป็นได้ เพราะส่วนประกอบของสีทาบ้านจะมีค่าสารอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatile Organic Compound) หรือ VOCs หากเข้าสู่ร่างกายจะทำให้ระบบภูมิคุ้มบกพร่อง ระบบประสาทถูกทำลาย เกิดอาการวิงเวียนศีรษะหน้ามืด แสบตา หายใจลำบาก และหากได้รับในปริมาณมากอาจทำให้หมดสติ แต่ถ้าสะสมในร่างกายเป็นเวลานานจะทำให้เยื่อหุ้มปอดถูกทำลายในที่สุด wellness การเลือกใช้สีที่ดีต่อสุขภาพ ต้องมีส่วนผสมที่ลดปริมาณสิ่งปนเปื้อนจากวัสดุประสาน (Adhesive) วัสดุยาแนว (Sealant) รองพื้น สี และวัสดุเคลือบผิวภายในอาคารที่มีกลิ่นแรง สร้างความรำคาญ และเป็นผลร้ายต่อสุขอนามัย ควรเลือกใช้วัสดุที่มีการปล่อยสารอินทรีย์ระเหยง่ายต่ำ […]
การจัดการกับต้นไม้ และพื้นที่สวนที่อยู่ติดกับบ้านหรือพื้นที่สวนคอร์ตยาร์ด
คอร์ตยาร์ดและบริเวณข้างบ้านไม่อาจดูสวยงามสมบูรณ์ได้เลยหากขาดสวนและต้นไม้ แต่ด้วยลักษณะพื้นที่ที่ถูกปิดล้อมจากหลายทางและติดกับโครงสร้างสถาปัตยกรรม ทำให้พื้นที่ต้นไม้และสวนที่อยู่ติดกับบ้าน รวมไปถึงพื้นที่สวนคอร์ตยาร์ด มีจุดเด่นและรายละเอียดต่างจากสวนที่จัดทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ภายนอกอาคาร หรือสเปซกว้าง ๆ ที่โอบล้อมอาคารเอาไว้ ตาม บ้านและสวน มาเรียนรู้วิธี การจัดสวนใกล้โครงสร้างอาคาร ไม่ว่าจะเป็น การเลือกใช้ต้นไม้และการจัดการพื้นที่ให้เหมาะสมกับพื้นที่ลักษณะนี้กันเถอะ การเลือกไม้ประธาน การเลือกไม้ยืนต้นเป็นตัวเลือกแรกที่หลายคนเลือกใช้ เพราะ ให้ความรู้สึกของสวนและธรรมชาติได้ในทันทีที่ปลูก ช่วยแก้ปัญหาเรื่องความร้อนจากแดดแก่คอร์ตยาร์ดและพื้นที่ภายในบ้าน โดยเฉพาะบริเวณที่มีช่องเปิดทางทิศตะวันตกและทิศใต้ อีกทั้งด้วยลักษณะทรงต้นที่ส่วนใหญ่จะสูงตรงและแผ่ออกด้านบน ทำให้บริเวณใต้ต้นไม้ยังสามารถใช้ประโยชน์ได้อีกมาก สิ่งสำคัญในการเลือกไม้ยืนต้นมีทั้งเรื่องของกิ่งที่อาจหักและระบบรากที่อาจไปทำอันตรายแก่โครงสร้างฐานรากของบ้านที่อยู่ใต้ดิน ซึ่งเรามองไม่เห็น จึงมีข้อควรระวัง ดังนี้ – พื้นคอร์ตยาร์ดควรมีระยะความกว้างที่มีแสงแดดส่องถึง อย่างน้อย 4 เมตร โดยต้นไม้ควรมีรูปทรงต้นแบบพีระมิด รูปทรงกระบอก หรือรูปทรงไข่ที่สูงชะลูดขึ้นด้านบน เนื่องจากต้นไม้ทุกชนิดโดยเฉพาะไม้ยืนต้นต้องการแสงแดดในการสังเคราะห์แสงสร้างอาหาร ระยะดังกล่าวเป็นระยะแคบที่สุดที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งพอจะเจริญเติบโตและแผ่กิ่งก้านได้ในพื้นที่ที่มีร่มเงาจากอาคารมาทาบเกือบทั้งวัน ซึ่งก็มีต้นไม้เพียงบางชนิดเท่านั้นที่สามารถเติบโตได้ในพื้นที่จำกัดขนาดนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นไม้ประเภทปาล์ม น้ำเต้าต้น ลั่นทม ไทรใบสัก ยางอินเดีย เป็นต้น ซึ่งหากมีพื้นที่กว้างขวางก็สามารถเลือกใช้ต้นไม้อื่นที่เหมาะสมกว่าได้ – ไม้ยืนต้นที่ปลูกควรจะมีกิ่งที่สูงโปร่งไม่แผ่ออกด้านข้างมากนัก เนื้อไม้โดยเฉพาะบริเวณกิ่งต้องแข็งแรง ไม่เปราะหรือหักง่าย นอกจากนั้นยังควรหมั่นตัดแต่งให้เรือนยอดไม่สูงเด่น แน่นทึบ หรือเทน้ำหนักไปทางใดทางหนึ่งมากจนเกินไป ให้มีขนาดทรงพุ่มเหมาะสมกับตัวกระบะปลูกหรือภาชนะปลูกที่มีรากอยู่ใต้ดิน – ระบบรากไม่แผ่ออกด้านข้างมากเกินไปและไม่ลอยเหนือดิน […]