ส้มโอ
มะขุน/มะโอ/Pomelo/Shaddock
ชื่อวิทยาศาสตร์: Citrus maxima (Burm.f.) Merr.
วงศ์: Rutaceae
ประเภท: ไม้ต้นขนาดเล็ก
ลำต้น: สูงได้ถึง 10 เมตร เปลือกต้นสีน้ำตาล สามารถแตกกิ่งก้านสาขาได้มาก
ใบ: ใบรูปรี สีเขียวเข้มเป็นมัน เมื่อส่องแสงจะเห็นต่อมน้ำมันกระจายทั่วใบ ก้านใบที่ติดกับแผ่นใบจะแผ่ออกเป็นแผ่นคล้ายปีก ติดกับแผ่นใบ
ดอก: ช่อดอกออกที่ปลายยอด ดอกใหญ่ มีกลิ่นหอม มีกลีบดอก 5 กลีบไม่เชื่อมติดกัน เห็นเกสรสีเหลืองชัดเจนและมีกลิ่นหอมมากในช่วงเช้า กลีบดอกร่วงง่าย
ผล: ผลทรงกลมแป้น เมื่อผลแก่มีสีเขียวอ่อนอมเหลือง เส้นผ่านศูนย์กลาง 20-30 เซนติเมตร ภายในผลแบ่งเป็นกลีบขนาดใหญ่ ฉ่ำน้ำ รสหวานอมเปรี้ยว
อัตราการเจริญเติบโต: เร็ว
ดิน: ชอบดินร่วน ระบายน้ำดี ไม่ชอบดินแฉะ
แสงแดด: แสงแดดตลอดวัน
น้ำ: ปานกลาง ไม่ทนน้ำท่วมขังและดินเค็ม
การขยายพันธุ์: ตอนกิ่ง
การใช้งานและอื่นๆ: พื้นที่ปลูกควรกว้างกว่า 10 ตารางเมตร ถ้าพื้นที่มีระดับน้ำใต้ดินสูงควรปลูกพูนโคนต้นสูงๆ นิยมบริโภคเนื้อใน หรือนำเปลือกผลมาเชื่อมเป็นขนมหรือนำเนื้อที่มีรสเปรี้ยวมาทำเป็นส้มโอลอยแก้ว ชาวปักษ์ใต้มักแกะเนื้อมาผสมในข้าวยำช่วยเพิ่มความอร่อย ด้านสมุนไพร เป็นยาระบาย มีสารโมโนเทอร์ปีนที่ป้องกันมะเร็งช่วยขับลมในกระเพาะ ทำให้เจริญอาหาร แต่ผู้มีปัญหาระบบย่อยอาหารไม่ควรกินมาก เพราะอาจทำให้ท้องอืดเฟ้อหรือท้องเสียได้ นอกจากนี้ใบสดนำมาตำให้ละเอียด แล้วย่างไฟให้อุ่นใช้พอกบริเวณที่ปวดบวมหรือปวดศีรษะได้อย่างดี กลีบดอกและเปลือกผลแก้ปวดท้อง ช่วยขับเสมหะและขับลมในกระเพาะ
เกร็ดน่ารู้: มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หากมีส้มโอมากและกินไม่ทัน ควรวางผลในที่แห้ง โปร่ง ไม่ควรใส่ถุงพลาสติก เพราะจะทำให้เน่า เก็บได้นาน 1-2 เดือน