ขิง

 ขิงแกลง/ขิงแดง/ขิงเผือก/Ginger
ชื่อวิทยาศาสตร์: Zingiber officinale Roscoe
ginger2วงศ์: Zingiberaceae
ประเภท: ไม้ล้มลุก อายุหลายปี
ความสูง: 1 เมตร
ลำต้น: เป็นเหง้าอยู่ใต้ดิน เจริญเป็นพุ่ม
ใบ: เดี่ยวรูปแถบ ออกเวียนสลับระนาบเดียว ปลายใบเรียวแหลม โคนใบสอบแคบเป็นกาบหุ้มลำต้นเทียม มีขนอ่อนปกคลุมทุกส่วน
ดอก: ช่อดอกแทงจากดินชูตั้งขึ้น ผลิบานในฤดูฝน กาบรองช่อดอกสีเขียวอมแดงเรื่อ ดอกย่อยสีเหลืองอมเขียว ช่อดอกอยู่ได้นานเป็นเดือน
ผล: เป็นผลแห้ง มีกาบช่อดอกรองรับ เมื่อแก่แตกออก ภายในแบ่งเป็นสามพู มีเมล็ดยาวรีสีน้ำตาล
ดิน: ดินร่วนระบายน้ำดี ควรเริ่มปลูกในฤดูฝน จะช่วยให้ขิงแตกหน่อได้เร็ว
น้ำ: ปานกลาง
แสงแดด: ครึ่งวัน
ขยายพันธุ์: แยกเหง้า
การใช้งานและอื่นๆ: ยอดอ่อนกินเป็นผักสดกับอาหารรสจัดต่าง ๆ และใช้เป็นสารกันบูดกันหืนได้ดี มีมากในฤดูฝน เหง้าอ่อนใช้ปรุงอาหาร ช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์โดยเฉพาะเนื้อปลา เหง้าขิงและใบขิงมีรสเผ็ดร้อน ช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร แก้ท้องอืดท้องเฟ้อที่เกิดจากอาหารไม่ย่อย รวมถึงแก้อาการเมารถ ไมเกรน ลดคอเลสเตอรอล และอาการปวดตามข้อได้ด้วย หน่ออ่อนรสเผ็ดร้อนควรขุดขึ้นมาหลังจากต้นเริ่มแตกหน่อ 3 – 5 เดือน
ข้อควรระวัง หญิงมีครรภ์ที่มีประวัติแท้งง่ายและผู้ที่มีปัญหาถุงน้ำดีไม่ควรบริโภคน้ำขิงเข้มข้นเกินไป เพราะจะลดการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย