แก้วเจ้าจอม

แก้วเจ้าจอม เป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ เหมาะปลูกเป็นไม้ประดับให้ร่มเงา ดอกบานวันแรกสีฟ้าอมม่วง จากนั้นสีจะซีดลงเป็นสีขาว เกสรสีเหลืองเห็นเด่นชัด มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกดอกเดือนสิงหาคม – มกราคม

ต้นแก้วเจ้าจอม
ต้นแก้วเจ้าจอม

แก้วเจ้าจอม / Lignum Vitae

ชื่อวิทยาศาสตร์: Guaiacum officinale L.

วงศ์: Zygophyllaceae

ประเภท: ไม้ต้นขนาดใหญ่

ความสูง: 10 – 15 เมตร

ลำต้น: มีเนื้อไม้แข็ง

ใบ: ประกอบแบบขนนกปลายคู่ ออกตรงข้ามมี 2 พันธุ์ คือ ใบย่อย 2 คู่และ 3 คู่ ใบย่อยรูปไข่กลับหรือรูปรี ขนาดไม่เท่ากัน กว้าง 1- 2.5 เซนติเมตร ยาว 1.5 – 2.5 เซนติเมตร ปลายใบมน โคนใบสอบ

ดอก: ออกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบใกล้ปลายยอด กลีบดอก 5 กลีบ ดอกบานมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 – 2.5 เซนติเมตร บานวันแรกสีฟ้าอมม่วง จากนั้นสีจะซีดลงเป็นสีขาว เกสรสีเหลืองเห็นเด่นชัด มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกดอกเดือนสิงหาคม – มกราคม

ผล: กลมแบน ขนาดประมาณ 1.5 เซนติเมตร ปลายผลมีติ่งแหลม เปลือกแข็ง

ดิน: ดินร่วนระบายน้ำดี

แสงแดด: เต็มวัน

น้ำ: ปานกลาง

ขยายพันธุ์: ค่อนข้างยาก นิยมใช้วิธีตอนกิ่งและเพาะเมล็ด

เกร็ดน่ารู้: เหมาะปลูกเป็นไม้ประดับให้ร่มเงา ♦ มีถิ่นกำเนิดในหมู่เกาะเวสต์อินดีส ♦ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงนำต้นพันธ์มุาจากประเทศอินโดนีเซียเมื่อปี พ.ศ. 2451 และทรงปลูกไว้ที่พระราชอุทยานสวนสุนันทา เดิมชาววังเรียกว่า“ ต้นน้ำอบฝรั่ง ” ต่อมาพระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราช ปดิวรัดา ประทานชื่อใหม่ว่า “แก้วจุลจอม”  ในปี พ.ศ. 2501 ศาสตราจารย์เต็ม สมิตินันทน์ ได้ตั้งชื่อใหม่ว่า “แก้วเจ้าจอม” ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้เรียกอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน  เป็นพรรณไม้ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

Lignum Vitae1ติดตามพันธุ์ไม้อื่นๆ และหนังสือออกใหม่ ได้ทาง : สำนักพิมพ์บ้านและสวน
บทความที่เกี่ยวข้อง : นางพญาเสือโคร่ง