โมกหลวง เป็นไม้ต้นผลัดใบขนาดเล็กถึงขนาดกลาง เหมาะปลูกในสวนขนาดเล็ก ระยะปลูก 3-8 เมตร โดยเลือกขนาดต้นไม่ใหญ่มาก มีแสงแดดส่องถึงตลอดวัน ให้ร่มเงาได้ดี
โมกหลวง / มูกหลวง / มูกมันน้อย / มูกมันหลวง / โมกเขา / โมกใหญ่ / ส่าตึ
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Holarrhena pubescens (Buch. – Ham.) wall. ex G. Don
วงศ์ : Apocynaceae
ประเภท : ไม้ต้นผลัดใบขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูง 5-8 เมตร เรือนยอดทรงไข่
ลำต้น : สีน้ำตาลปนเทา ทุกส่วนของต้นมีน้ำยางสีขาว
ใบ : ใบเดี่ยว ออกตรงข้ามระนาบเดียว รูปรี ปลายใบเรียวแหลม โคนใบสอบ แผ่นใบสีเขียวเป็นมัน ใบอ่อนมีขนปกคลุม
ดอก : ช่อกระจุก ออกที่ซอกใบปลายยอด มีดอกย่อย 10-12 ดอก โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 กลีบ รูปขอบขนาน สีขาว ออกดอกช่วงฤดูร้อน ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ตลอดวัน บานได้นาน 2 สัปดาห์
ผล : ผลแห้ง ฝักรูปทรงกระบอกปลายแหลม เมื่อแก่สีน้ำตาลคล้ำ แล้วแตกออกภายในมีเมล็ดจำนวนมาก
เมล็ด : เมล็ดมีปีกบางช่วยในการกระจายพันธุ์
อัตราการเจริญเติบโต : โตเร็ว
ดิน : ดินร่วน ทนแล้ง
แสงแดด : ตลอดวัน
น้ำ : ปานกลาง
การขยายพันธุ์ : เพาะเมล็ด
การใช้งานและอื่นๆ : เหมาะปลูกในสวนขนาดเล็ก ระยะปลูก 3-8 เมตร โดยเลือกขนาดต้นไม่ใหญ่มาก มีแสงแดดส่องถึงตลอดวัน ให้ร่มเงาได้ดี
เกร็ดน่ารู้ : มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกา อินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในไทยพบทุกภาคตามป่าเบญจพรรณและป่าดิบแล้ง เนื้อไม้สีขาวใช้ทำเครื่องเรือนและอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ตะเกียบ พัด โต๊ะ ตู้ เปลือกต้นเป็นสมุนไพรพื้นบ้านรักษาโรคบิด ปัจจุบันมีโมกหลวงดอกชมพูที่ให้ดอกดกตลอดปี และมีกลิ่นหอมเช่นเดียวกัน
ติดตามหนังสือใหม่ได้ทาง : สำนักพิมพ์บ้านและสวน