กระดังงาไทย เป็นไม้ต้นผลัดใบขนาดกลาง สูง 5-12 เมตร ชอบแสงแดดตลอดวัน และน้ำปานกลาง นิยมนำมาสกัดน้ำมันหอมระเหยที่ใช้ปรุงแต่งกลิ่นเครื่องสำอาง และอาหาร
กระดังงาไทย / กระดังงา / กระดังงาใบใหญ่ / สะบันงา /สะบันงาต้น / Cananga Tree / Ylang-ylang Tree
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cananga odorata (Lam.) Hook.f. & Thomson
วงศ์ : Annonaceae
ประเภท : ไม้ต้นผลัดใบขนาดกลาง สูง 5-12 เมตร เรือนยอดรูปไข่ กิ่งก้านลู่ลง เปราะหักง่าย
ลำต้น : เปลือกต้นสีน้ำตาล
ใบ : ใบเดี่ยวเรียงสลับระนาบเดียว รูปรี ปลายใบเรียวแหลม โคนใบป้าน แผ่นใบบิดเป็นคลื่นเล็กน้อย ใบขนาดกลาง
ดอก : ช่อกระจุก ออกที่ซอกใบใกล้ปลายยอด กลีบดอก 6 กลีบเรียงเป็นสองชั้นๆ ละ 3 กลีบ กลีบบาง บิดเล็กน้อย เมื่อยังอ่อนสีเขียว พอบานเปลี่ยนเป็นสีเหลือง กลิ่นหอมโดยเฉพาะช่วงเย็นถึงช่วงเช้า ออกดอกตลอดปี
ผล : ผลกลุ่ม มี 4-15 ผล มีรอยหยักเว้าตามตำแหน่งเมล็ด เมื่อแก่เปลี่ยนเป็นสีดำ
เมล็ด : ทรงกลม สีน้ำตาลเข้ม
อัตราการเจริญเติบโต : โตเร็ว
ดิน : ดินร่วน
แสงแดด : ตลอดวัน
น้ำ : ปานกลาง
การขยายพันธุ์ : เพาะเมล็ด ตอนกิ่ง ต้นที่ได้จากการเพาะเมล็ดจะโตช้ากว่าต้นทีได้จากกิ่งตอน กิ่งตอนที่ได้จากกิ่งกระโดงจะออกดอกได้ภายใน 2-3 ปี ทนแล้ง ทนน้ำขังแฉะ เลี้ยงง่าย ผลัดใบน้อย เก็บกวาดง่าย
การใช้งานและอื่นๆ : ดอกใช้เป็นสมุนไพรแต่โบราณ แก้ลม ช่วยบำรุงเลือดและช่วยขับปัสสาวะ ปัจจุบันนำมาสกัดน้ำมันหอมระเหยที่ใช้ปรุงแต่งกลิ่นเครื่องสำอาง และอาหาร
เกร็ดน่ารู้ : พรรณไม้ประจำจังหวัดศรีสะเกษ และเป็นไม้มงคลที่ควรปลูกทางทิศตะวันออก จะเป็นสิริมงคล สร้างชื่อเสียง เงินทองให้กับครอบครัว และควรปลูกวันพุธ เพราะเชื่อว่าต้นกระดังงาไทยจะให้ดอกบานสะพรั่งทั้งต้น
ติดตามหนังสือใหม่ได้ทาง : สำนักพิมพ์บ้านและสวน