กระถินหางกระรอก เป็นไม้ต้นไม่ผลัดใบ ชอบแสงแดดตลอดวัน และน้ำปานกลาง กลิ่นหอมของดอกเป็นที่โปรดปรานของแมลง ปัจจุบันมีการนำมาปลูกเป็นบอนไซ
กระถินหางกระรอก / นมเสือ / หางเสือ/ Bell Mimosa / Chinese Lantern Tree / Kalahari Christmas Tree / Sicklebush
ชื่อวิทยาศาสตร์: Dichrostachys cinerea (L.) Wight & Arn.
วงศ์: Fabaceae
ประเภท: ไม้ต้นไม่ผลัดใบ ขนาดกลาง สูง 5-7 เมตร เรือนยอดทรงกลม ทรงพุ่มโปร่ง
ลำต้น: ลำต้นและกิ่งก้านมีหนาม เปลือกต้นสีน้ำตาลแตกร่อนตามแนวยาว
ใบ: ใบประกอบแบบขนนกสองชั้น ออกตรงข้าม ยอดอ่อนมีขนปกคลุม ใบย่อยขนาดเล็ก มี 9-41 คู่ เรียงตรงข้าม รูปขอบขนาน ใบย่อยขนาดเล็ก
ดอก: ช่อดอกแบบเชิงลด ออกตามซอกใบ มี 2-3 ช่อ ห้อยลง ยาว 2-5 เซนติเมตร แต่ละช่อมีดอกเล็กๆจำนวนมาก โคนมีสีชมพูอมม่วง เป็นดอกที่เป็นหมัน ดอกสีเหลืองส่วนปลายคือดอกสมบูรณ์เพศ ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกดอกตลอดปี
ผล: ฝักรูปขอบขนาน บิดงอ เมื่อแก่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล
เมล็ด : กลมแบน สีน้ำตาลเป็นมัน
อัตราการเจริญเติบโต: ค่อนข้างโตช้า
ดิน: ดินร่วน
แสงแดด: ตลอดวัน
น้ำ: ปานกลาง
การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด, ตอนกิ่ง
การใช้งานและอื่นๆ: ระยะปลูก 5-8 เมตร อาจเติบโตคล้ายไม้พุ่ม เพราะแตกกิ่งกระโดงง่าย ลำต้นมีหนามไม่ควรปลูกในสนามเด็กเล่น
เกร็ดน่ารู้: มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกา เขตร้อนของทวีปเอเชีย และตอนเหนือของทวีปออสเตรเลีย ชื่อสกุลมาจากภาษากรีกว่า di แปลว่า สอง khroos แปลว่า สี และคำว่า stakhus แปลว่า รวงข้าว ซึ่งสื่อถึงลักษณะช่อดอกนั่นเอง ส่วนชื่อระบุชนิด cinerea สื่อถึงขนสีเทาที่ปกคลุมตามยอดอ่อน กลิ่นหอมของดอกเป็นที่โปรดปรานของแมลง ปัจจุบันมีการนำมาปลูกเป็นบอนไซ มีบันทึกว่าชาวพื้นเมืองในท้องถิ่นใช้เมล็ดเป็นอาหารสัตว์ และใช้เป็นพืชสมุนไพรแก้ปวด แก้อักเสบ แก้โรคผิวหนัง และเป็นยาถ่ายพยาธิ
ติดตามหนังสือใหม่ได้ทาง : สำนักพิมพ์บ้านและสวน