กระท่อม เป็นไม้ต้นไม่ผลัดใบขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีสารอัลคาลอยด์ซึ่งออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท นิยมใช้ในกลุ่มผู้ใช้แรงงาน เพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อย และช่วยให้ทำงานได้นานขึ้น ปัจจุบันได้รับอนุญาตให้เป็นพืชปลูกและใช้ประโยชน์ สามารปลูกเพื่อให้ร่มเงาในสวนได้
กระท่อม / ท่อม / อีถ่าง / Kratom
ชื่อวิทยาศาสตร์: Mitragyna speciosa Korth.
วงศ์ : Rubiaceae
ประเภท : ไม้ต้นไม่ผลัดใบขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 10-25 เมตร เรือนยอดทรงกลม
ลำต้น : ลำต้นตั้งตรง แตกกิ่งเป็นคู่ เปลือกต้น สีน้ำตาลปนเทา
ใบ : ใบเดี่ยวออกตรงข้ามสลับตั้งฉาก รูปรีแกมรูปไข่ ปลายใบเรียวแหลม โคนใบสอบหรือป้าน ก้านใบยาว โคนก้านใบสีแดงเรื่อง ด้านท้องใบเส้นใบนูนขึ้นชัดเจน ที่ข้อใบมีหูใบสีม่วงแดงเห็นเด่นชัด ยอดอ่อนมีสีแดงเรื่อ
ดอก : ช่อดอกแบบกระจุกแน่น ออกจากซอกใบใกล้ปลายยอด เส้นผ่านศูนย์กลางช่อ 2-3 เซนติเมตร ดอกย่อยเล็กๆ จำนวนมาก เริ่มบานสีขาว ต่อมาเปลี่ยนเป็นสีเหลือง
ผล : ผลกลุ่ม ทรงกลม มีผลย่อยเล็กๆ จำนวนมาก เมล็ด ขนาดเล็กมีจำนวนมาก มีปีกปลิวไปตามลมได้
อัตราการเจริญเติบโต : โตช้า
ดิน : ดินร่วน
แสงแดด : ครึ่งวัน
น้ำ : ปานกลาง
การขยายพันธุ์ : เพาะเมล็ด ตอนกิ่ง เสียบยอด
การใช้งานและอื่น ๆ : สามารปลูกเพื่อให้ร่มเงาในสวนได้ ระยะปลูก 5-8 เมตร เมื่อเริ่มปลูกควรให้น้ำสม่ำเสมอ และพรางแสง รอจนต้นแข็งแรง จึงให้รับแสงแดดเพิ่มขึ้น
เกร็ดน่ารู้ : มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทวีปแอฟริกา ในไทยพบทางภาคใต้ มาเลเซีย อินโดนีเซีย มีหลายชนิดบางชนิดอาจมีปลายใบหยัก เรียกกันว่า “กระท่อมหางกั้ง” หรือ “กระท่อมยักษ์” ทุกชนิดมีสารอัลคาลอยด์ซึ่งออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ในอดีตใช้ใบแก้อาการปวดกล้ามเนื้อ ลดไข้ แก้ไอ แก้ท้องร่วง และการติดเชื้อในลำไส้ โดยเคี้ยวใบสด สูบ หรือชงเป็นชา นิยมใช้ในกลุ่มผู้ใช้แรงงาน เพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อย และช่วยให้ทำงานได้นานขึ้น ปัจจุบันได้รับอนุญาตให้เป็นพืชปลูกและใช้ประโยชน์
ติดตามหนังสือใหม่ได้ทาง : สำนักพิมพ์บ้านและสวน