กาฬพฤกษ์

กาฬพฤกษ์
กาฬพฤกษ์

กาฬพฤกษ์ เป็นไม้ต้นผลัดใบขนาดกลาง โคนต้นมักเป็นพูพอน เหมาะปลูกในพื้นที่กว้าง เช่น สวนสาธารณะ ให้ร่มเงาได้ดี แต่ไม่เหมาะกับที่จอดรถ เพราะฝักมีชนาดใหญ่ อาจสร้างความเสียหายได้ ทนแล้งได้ดี

กาฬพฤกษ์

กาฬพฤกษ์ / Apple-blossom Cassia / Carao / Coral Shower / Horse Cassia / Liquorice Tree / Pink Cassia / Pink Shower Tree /  Stinking Toe

ชื่อวิทยาศาสตร์: Cassia grandis L.

วงศ์ : Fabaceae

ประเภท : ไม้ต้นผลัดใบขนาดกลาง สูง 10-20 เมตร โคนต้นมักเป็นพูพอน เรือนยอดรูปร่ม

ลำต้น : เปลือกต้นสีน้ำตาลเข้ม แตกเป็นร่อง

ใบ : ใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ เรียงสลับ มีใบย่อย 10-20 คู่ รูปรีแกมรูปขอบขนาน ปลายใบมนมีติ่งหรือเว้าเล็กน้อย โคนใบเบี้ยว ใต้ใบมีขนนุ่ม  ยอดอ่อนสีแดงเรื่อ ทั้งยอดและช่อดอกมีขนนุ่มปกคลุม

ดอก : ช่อดอกแบบช่อกระจะ ออกพร้อมไปอ่อนตามกิ่ง ช่อยาว 10-20 เซนติเมตร ใบประดับรูปไข่ปลายแหลม หลุดร่วงง่าย ดอกย่อยมีกลีบเลี้ยงและกลีบดอกอย่างละ 5 กลีบ รูปไข่กลับหรือกลม บานวันแรกสีแดงอมชมพู หนึ่งกลีบมีแต้มสีเหลืองเรื่อ ต่อมาเปลี่ยนเป็นสีชมพูอมส้ม ออกดอกช่วงต้นฤดูร้อน

ผล : เป็นฝักทรงกระบอก เส้นผ่านศูนย์กลาง 3-4 เซนติเมตร ยาว 20-40 เซนติเมตร สีน้ำตาลคล้ำถึงดำ ผิวมีสันทั้งสองด้าน ในผลมีเนื้อเละและน้ำเหนียวสีน้ำตาลคล้ายกากน้ำตาล มีเมล็ดอยู่ในแนวขวาง   เมล็ด รูปรีถึงรูปไข่ มี 20-40 เมล็ด สีน้ำตาล

อัตราการเจริญเติบโต :  โตเร็ว

ดิน : ดินร่วน

แสงแดด : ตลอดวัน

น้ำ : ปานกลาง

การขยายพันธุ์ : เพาะเมล็ด

การใช้งานและอื่น ๆ : เป็นพรรณไม้ประจำจังหวัดบุรีรัมย์  เหมาะปลูกในพื้นที่กว้าง เช่น สวนสาธารณะ ให้ร่มเงาได้ดี ระยะปลูกที่เหมาะสม 5-8 เมตร แต่ไม่เหมาะกับที่จอดรถ เพราะฝักมีชนาดใหญ่ อาจสร้างความเสียหายได้ ทนแล้งได้ดี

เกร็ดน่ารู้ : มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของทวีปอเมริกา มีผู้นำเข้ามาปลูกในเมืองไทยนานแล้ว  เนื้อไม้และเปลือกมีสารแทนนิน ใช้ฟอกหนัง  มีบันทึกว่าน้ำเหนียวในฝักมีรสหวาน ใช้ทำอาหารและยา

ติดตามหนังสือใหม่ได้ทาง : สำนักพิมพ์บ้านและสวน