Open Plan - Page 8 of 97 - ค้นหาโดย บ้านและสวน

SHARED HOME | OFFICE 3 สไตล์แบ่งบ้านของฉันเป็นออฟฟิศของเรา

การจัดสรรพื้นที่ในบ้านให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศ 3 รูปแบบ เหมาะสำหรับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น...

มอง…อย่างเข้าใจ

 “ผมมองว่าความเจริญรุ่งเรืองซึ่งเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจของกรุงเทพฯ ไม่ได้ชี้วัดจากตึกระฟ้าอันทันสมัยในย่านธุรกิจใหญ่

BLISSFUL BREEZE สายลมแห่งความสุขล้น

บ้านอยู่สบาย หลบจากความวุ่นวายกลางกรุง ราวกับอยู่ในรีสอร์ตส่วนตัวของ คุณมาร์ติน โจลี่

ปฏิทิน 2568 พร้อมกับพืชเครื่องเทศและพืชสมุนไพร

ปฏิทิน 2568 โดยบ้านและสวน พร้อมภาพวาดทางพฤกษศาสตร์ของพืชเครื่องเทศและพืชสมุนไพร จากเหล่าศิลปินชาวไทย และความร่วมมือจากเครือข่ายวิทย์สานศิลป์

ดอกนางพญาเสือโคร่ง ซากุระเมืองไทย

พิกัดชม ดอกนางพญาเสือโคร่ง ซากุระเมืองไทย ที่มีให้ชมเพียงหนึ่งครั้งต่อปี 1 ปี มีครั้งเดียว สำหรับ ดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือที่คนไทยเรียกกันว่า ซากุระเมืองไทย ซึ่งสถานที่ชมดอกนางพญาเสือโคร่งในประเทศไทยมีหลากหลายที่ ตามไปดูกันว่าที่ไหนเป็นสถานที่ยอดฮิตบ้าง โดยดอกนางพญาเสือโคร่งจะออกดอกช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี สามารถพบทั่วไปบนภูเขาตั้งแต่ความสูง 1,200-2,400 เมตรจากระดับน้ำทะเล ถูกนิยมเรียกกันว่า “ซากุระเมืองไทย” เพราะมีลักษณะคล้ายซากุระในประเทศญี่ปุ่น แม้จะเป็นคนละชนิดกันก็ตาม 1.ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ “ดอยอินทนนท์” อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เขาที่มียอดสูงที่สุดในประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในแหล่งเที่ยวชม “ดอกนางพญาเสือโคร่ง” ที่สวยงามแห่งหนึ่งของไทย ซึ่งมีสถานที่ให้ชมอยู่หลายจุด โดยเฉพาะเส้นทาง “ขุนวาง-ดอยอินทนนท์” ที่ได้ชื่อว่าเป็น “ถนนสีชมพู” 2.ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) จ.เชียงใหม่ ขุนวาง ตั้งอยู่บนดอยอินทนนท์ ที่บ้านขุนวาง ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ สามารถเข้าชมฟรี มีจุดไฮไลท์อยู่บริเวณริมทางเดินในโครงการที่มีระยะทางราว 2-3 กม. จนถูกยกให้เป็น “อุโมงค์ซากุระขุนวาง” นอกจากนี้ที่ขุนวางยังมีต้นนางพญาเสือโคร่งดอกสีขาวให้ชมกันอีกด้วย 3.สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จ.เชียงใหม่ อีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตในการเข้าชมดอกนางพญาเสือโคร่ง […]

ลดาวัลย์ ไม้เลื้อยดอกสีขาว นิยมปลูกทำซุ้ม

ลดาวัลย์ ดอกมีสีขาว มีบันทึกไว้ว่า ชาวอินโดนีเซียใช้ใบสดเป็นส่วนผสมในสมุนไพรพื้นบ้านที่ใช้เป็นยาชูกำลัง บ้างก็นำใบสดมาเคี้ยวเพื่อให้ปากสดชื่น

สวนป่าชื้นแนวแฟนตาซี ที่ซ่อนตัวอยู่ในอาคารคาเฟ่สไตล์กอทิก

นอกจากกาแฟกลิ่นหอมรสชาติดี และขนมอร่อย ๆ แล้ว สวนในคาเฟ่เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้เรียกลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ เราจึงมีโอกาสได้เห็นสวนในคาเฟ่เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งแต่ละร้านก็จะมีจุดเด่นที่ต่างกัน เช่นเดียวกับ สวนป่าชื้นแนวแฟนตาซี ที่ซ่อนตัวอยู่ภายในอาคารสถาปัตยกรรมกอทิกที่ตั้งสูงตะหง่านอยู่ริมถนนสุขุมวิทแถวนาจอมเทียนแห่งนี้ ที่เป็นที่พูดถึงและบอกต่อกันว่าไม่ควรพลาด ณิธาน พัทยา (NITAN Coffee’s Tale) และ สวนป่าชื้นแนวแฟนตาซี จะเป็นอย่างไร มีดีอะไร ตาม บ้านและสวน ไปดูกันครับ “สวนนี้เป็นของ คุณอู๊ด – วิชญ์พล ศรีสุริยะชัย ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันครับ เราออกแบบแลนด์สเคปตามสถาปัตย์ของอาคารที่เป็นสไตล์กอทิก เลยคุยกันว่าสวนน่าจะออกแนวแฟนตาซีสักหน่อย เพื่อให้เกี่ยวเนื่องกับคอนเซ็ปต์ร้าน ด้านหน้าเราเล่าเรื่องสวนแนวยุโรปเพื่อให้เข้ากับอาคาร ส่วนด้านในเจ้าของร้านยืนยันว่าชอบความร่มรื่น ร่มเย็น ก็ต้องตามใจเพื่อน โดยออกแบบเป็นสวนป่าชื้น (Tropical Rain Forest) ครับ” คุณวุฒิ – วรวุฒิ แก้วสุก พาเดินชมสวนพร้อมเล่าให้ฟัง “สวนยุโรปส่วนใหญ่ต้องมีการดูแลค่อนข้างสูง ถ้าดูแลไม่ดีพอ ต้นไม้เสียหาย สวนก็จะไม่สวยงาม ยิ่งเป็นพื้นที่เซอร์วิสอย่างร้านกาแฟ การดูแลก็จะยิ่งยาก สำคัญที่สุดคือต้องออกแบบให้ดูแลง่าย ไม่ต้องไปแตะต้องเขาเยอะ ให้เขาสวยได้ด้วยตัวเขาเอง […]

สกุลทิลแอนด์เซีย (Tillandsia)

สกุลทิลแอนด์เซีย (Tillandsia)

สกุลทิลแอนด์เซีย (Tillandsia) ชื่อสกุลตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ Dr. Elias Eric Tillandz นายแพทย์และนักพฤกษศาสตร์ชาวสวีเดน เป็นสกุลที่มีจำนวนมากถึง 676 ชนิด กระจายพันธ์ทางตอนล่างของทวีปอเมริกาเหนือครอบคลุมทวีปอเมริกาใต้ ที่ความสูงระดับทะเลไปจนถึงความสูง 5,000 เมตรเหนือระดับทะเล ลักษณะเด่น สกุลนี้มักเรียกกันว่า ไม้รากอากาศ หรือ air plant เพราะแผ่นใบมีไทรโคมส์ที่ทำหน้าที่ดูดซับน้ำและธาตุอาหารแทนราก ซึ่งมีหน้าที่หลักแค่พยุงต้นไว้เท่านั้น ทำให้ใบมีสีเทาเงิน ดูสวยงาม ส่วนรูปใบมีทั้งใบสั้น ใบยาว รูปแถบ รูปเส้น เมื่อออกดอกยอดจะเปลี่ยนสีเป็นสีม่วงแดง ช่อดอกออกที่ซอกใบ มีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ดอกย่อยสีขาวหรือม่วง บางชนิดสามารถแตกออฟเซ็ตเกิดเป็นหน่อใหม่นำไปขยายพันธุ์ได้ การปลูกเลี้ยง เป็นพืชที่ปลูกเลี้ยงด้วยการแขวนได้ใต้ร่มไม้ที่ได้รับแสงแดดช่วงเช้าหรือตลอดวัน มีความชื้นสัมพัทธ์ที่พอเหมาะ หลายชนิดสามารถเติบโตในพื้นที่เขตร้อนได้ดี แต่บางชนิดชอบอากาศหนาวเย็น ปัจจุบันมีลูกผสมเกิดขึ้นมากมายทั้งในต่างประเทศและในเมืองไทย ที่ปลูกเลี้ยงง่ายขึ้น ติดตามหนังสือใหม่ได้ทาง : สำนักพิมพ์บ้านและสวน

วงศ์บรอมีเลียซีอี (Bromeliaceae)

วงศ์บรอมีเลียซีอี (Bromeliaceae)

วงศ์บรอมีเลียซีอี (Bromeliaceae) เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ส่วนใหญ่เป็นไม้อวบน้ำทนแล้ง กระจายพันธุ์ในทวีปอเมริกาใต้ มีอยู่ด้วยกันไม่ต่ำกว่า 3,300 ชนิด มีความหลากหลายด้านการเจริญเติบโตและรูปทรง หลายชนิดนิยมปลูกเป็นไม้ประดับที่เรียกกันว่า สับปะรดสี ลักษณะเด่น เป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี มีลำต้นใต้ดินเป็นเหง้าสั้นๆ แตกกอแน่น มีทั้งที่เติบโตบนดิน อิงอาศัยตามไม้ใหญ่  ใบออกเวียนรอบต้น มีทั้งใบแคบ ใบกว้าง มีลายและไม่มีลาย กาบใบมักขึ้นซ้อนทับกันเพื่อเก็บกักน้ำไว้ตรงกลางยอด ผิวใบมักมีไทรโคม (trichome) เป็นขนสีขาวเทาปกคลุม บางชนิดไม่มีขนแต่มีขี้ผึ้งเคลือบที่ผิว เมื่อออกดอกยอดจะเปลี่ยนสีเป็นอีกสีหนึ่ง ช่อดอกเป็นช่อกระจุกออกจากกึ่งกลางต้น ภายในมีดอกเล็ก ๆ จำนวนมากและเป็นดอกสมบูรณ์เพศ หนึ่งดอกมีกลีบดอก 3 กลีบ มีหลายสี เช่น ขาว เหลือง ชมพู ม่วง เป็นต้น ผลมีทั้งผลมีเนื้อนุ่มหุ้มเมล็ดและเป็นฝักแห้ง เมื่อแก่แตกออก ภายในมีเมล็ดนำไปขยายพันธุ์ต่อได้ หลังออกดอกติดผล ต้นเดิมจะค่อย ๆ ตายไป แต่จะแทงหน่อใหม่แล้วเติบโตต่อไป การปลูกเลี้ยง สำหรับชนิดที่เติบโตบนดิน ปลูกชอบวัสดุปลูกที่โปร่ง ระบายน้ำดี แต่เก็บความชื้นได้ดี แสงแดดเกือบตลอดวัน […]

สกุลโฮย่า (Hoya)

สกุลโฮย่า (Hoya)

สกุลโฮย่า (Hoya) เป็นพืชในวงศ์ Apocynaceae  ชื่อสกุลตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ Thomas Hoy ผู้ดูแลสวนของดยุคแห่ง Northumberland ในสหราชอาณาจักร มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชียถึงหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก และบางส่วนของทวีปออสเตรเลีย ที่ค้นพบแล้วมีมากกว่า 265 ชนิด ในเมืองไทยพบประมาณ 50 ชนิด ลักษณะเด่น ไม้เลื้อยอิงอาศัย ทุกส่วนมีน้ำยางสีขาวคล้ายน้ำนม  มีทั้งลำต้นเป็นพุ่มหรือทอดเลื้อย แตกรากตามลำต้น เพื่อยึดเกาะกับสิ่งเลื้อยพัน ใบออกตรงข้ามกันมีความหลากหลายทั้งรูปทรงและสีสัน ช่อดอกแบบช่อซี่ร่ม กึ่งกลางดอกมีเส้าเกสรที่เรียกว่า มงกุฎ กลีบดอกสีขาว แดง เหลือง กลีบหนาอวบน้ำ บางชนิดกลีบเป็นมันวาว จึงมีชื่อสามัญว่า Wax Plant บางชนิดมีกลิ่นหอม ผลเป็นฝักเรียวยาว ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก ปลายเมล็ดมีขนที่ช่วยกระจายพันธุ์ การปลูกเลี้ยง นิยมปลูกเป็นไม้กระถางแขวน ใช้กาบมะพร้าวเป็นวัสดุปลูก หรือปลูกเกาะกับไม้ใหญ่ ชอบแสงแดดรำไร ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำหรือเพาะเมล็ด ส่วนใหญ่ปลูกเลี้ยงง่าย โตเร็ว และทนแล้งได้ ติดตามหนังสือใหม่ได้ทาง : สำนักพิมพ์บ้านและสวน

ต้นคริสต์มาส ต้นไม้ใบสีสด หลากสีสัน

ต้นคริสต์มาส กับการเฉลิมฉลอง วันคริสต์มาส เทศกาลสุดคลาสสิกในฤดูหนาวส่งท้ายปี เป็นพรรณไม้ที่ใบเปลี่ยนสีเมื่ออากาศเย็น บ้านและสวนขอเสนอ ต้นคริสต์มาส หรือ Poinsettia พรรณไม้ที่มีลักษณะโดดเด่นด้านสีใบ ที่จะเปลี่ยนสีเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ปัจจุบันกลายเป็นพรรณไม้ยอดนิยมในการจัดตกแต่งสถานที่เพื่อฉลองเทศการสุดฮิต อย่าง วันคริสต์มาส ด้วยชื่อของต้นไม้ชนิดนี้จึงกลายมาเป็นพรรณไม้ที่ต้องมี และโดดเด่นไม่น้อยกว่าต้นสนเลยทีเดียว ข้อมูลทางพฤกษศาสตร์ ต้นคริสต์มาสนี้มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Euphorbia pulcherrima Willd. ex Klotzsch จัดอยู่ในวงศ์ Euphorbiaceae เช่นเดียวกันกับ โป๊ยเซียนและโกสน ในเมืองไทยมีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น บานใบ, โพผัน หรือ สองระดู และชื่อสามัญมักจะเรียกกันว่า  Christmas Star, Christmas Flower, Lobster Plant, Mexican Flameleaf, Poinsettia จัดเป็นประเภทพรรณไม้พุ่ม ที่มีรูปทรงแผ่กว้าง ลำต้นขนาดเล็กสีเขียว เมื่อแก่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ทุกส่วนมีน้ำยางสีขาวขุ่น ใบเป็นใบเดี่ยวที่ปลายใบแหลม มีหลายสี เช่น สีขาว, เหลือง, แดง, และชมพู […]

วงศ์คล้า (Marantaceae)

วงศ์คล้า (Marantaceae)

วงศ์คล้า (Marantaceae) ในเมืองไทยรู้จักกันในชื่อ “คล้า” เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว พบกระจายพันธุ์ในเขตร้อนทั่วโลก ยกเว้นทวีปออสเตรเลีย มีชื่อสามัญว่า “Prayer Plant” ดังลักษณะใบที่หุบขึ้นในช่วงกลางคืนซึ่งดูคล้ายกับการพนมมือ ลักษณะเด่น เป็นไม้ล้มลุก อายุหลายปี มีลำต้นใต้ดินเป็นหัวหรือเหง้า เจริญเติบโตเป็นพุ่ม ใบเดี่ยว เรียงสลับ หรือออกเวียนรอบ มีลักษณะเด่นคือโคนใบเบี้ยวข้างหนึ่ง ระหว่างแผ่นใบและก้านใบมีรอยต่อโป่งพองออก หลายสกุลมีใบสวยงาม นิยมปลูกเลี้ยงเป็นไม้ประดับ ได้แก่ สกุล Ctenanthe, Geoppertia (หรือสกุล Calathea), Maranta และ Stromanthe เป็นต้น การปลูกเลี้ยง เป็นไม้ประดับที่ปลูกเลี้ยงง่าย ปลูกในดินระบายน้ำดี หรือดินร่วนปนทราย แสงแดดรำไรถึงปานกลางและค่อนข้างเย็น ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศสูง หากมีความชื้นสัมพัทธ์ต่ำ ควรหมั่นฉีดพ่นน้ำ เพื่อเพิ่มความชื้นและควบคุมอุณหภูมิโดยรอบไม่ให้สูงเกินไป จะช่วยให้ใบไม่ห่อ นิยมขยายพันธุ์ด้วยการแยกกอ สามารถปลูกในห้องทำงานได้ แต่ควรอยู่ร่วมกับพืชอื่นๆ เพื่อควบคุมความชื้นในอากาศให้เพียงพอ ใบจะแผ่กางออกสวยงาม ติดตามหนังสือใหม่ได้ทาง : สำนักพิมพ์บ้านและสวน