บ้านชั้นเดียว เปลือยผิวด้วยอิฐโชว์แนว

บ้านชั้นเดียว ที่เด่นด้วยผนังอิฐโชว์แนวสีน้ำตาลแดงในแพตเทิร์นใหม่ๆ ดูแปลกตาตัดกับปูนเปลือยขัดมันทาบทับในแนวเฉียงแทรกด้วยงานไม้ไผ่ในแนวตั้ง

สวนสวย เหมือนอยู่กลางป่า ในเมืองกรุง

รูปแบบของสวนทรอปิคัลที่ให้ความรู้สึกสดชื่น ดูชุ่มชื่นสบายตา และได้บรรยากาศของป่าเขาในเขตอากาศร้อนชื้นอย่างเป็นธรรมชาติ นับเป็นสไตล์การจัด สวนสวย ที่หลายคนชื่นชอบ สวนสวยแห่งนี้ มีลักษณะของพรรณไม้และการปลูกเลี้ยงที่ดูแลง่าย เจริญเติบโตเร็ว เหมาะกับสภาพอากาศของบ้านเราเป็นอย่างดี จึงเป็นเหตุผลให้ครอบครัวของ คุณฮับเซาะห์ – นภาพร สาดและ และ คุณสุรชัย – คุณทัศนัย มะแก้ว ทั้งสามคนพี่น้องเลือกจัดสวนสวยสไตล์นี้ คุณฮับเซาะห์น้องสาวคนกลางของบ้านเล่าถึงที่มาของสวนแห่งนี้ให้ฟังว่า “ครอบครัวเราเป็นครอบครัวใหญ่ มีบ้านพักอาศัยของเราสามคนพี่น้องปลูกติดกันสามหลังอยู่ในบริเวณรั้วเดียวกัน ซึ่งอยู่มานานกว่า 20 ปีแล้ว เดิมพื้นที่ย่านพัฒนาการตรงส่วนนี้เป็นสวนมะม่วง ตอนเข้าอยู่ก็ต่อเติมเรื่อยมา จนรอบบ้านกลายเป็นพื้นที่สวนสำหรับพักผ่อนของครอบครัว แต่หนึ่งปีที่ผ่านมามีเหตุให้ต้องจัดสวนกันใหม่ เนื่องจากการก่อสร้างขยายคลองข้างบ้านกระทบถึงสวนโดยตรง จึงต้องรื้อและปรับเปลี่ยนขนาดสวนให้เล็กลง ตอนนั้นรู้สึกเสียดายมากค่ะ เพราะสวนที่จัดไว้ต้นไม้เติบโตดีแล้ว ก็ต้องทำใจ และเริ่มสร้างสิ่งที่เรารักกันอีกครั้ง”   คุณฮับเซาะห์อาศัยจากสิ่งที่เรียนรู้ด้วยตัวเอง ร่างแบบบนกระดาษคร่าวๆกำหนดฟังก์ชันใช้งาน ทำแนวทางเดินบนพื้นสวนโดยปูแผ่นหินธรรมชาติ ไม้หมอนรถไฟ และสร้างสะพานไม้ขนาดเล็กข้ามลำธารไปยังส่วนต่างๆ ของสวนที่มีพื้นที่ขนาบข้างอยู่รอบบ้าน จากนั้นทำมุมนั่งเล่นจากท่อนไม้เก่า ตั้งวางชิงช้าไม้จริงและมีชุดม้านั่งโต๊ะหินรูปฟอร์มอิสระให้สามารถนั่งเล่นพักผ่อนกันได้ทุกจุด อีกทั้งมีน้ำตก ลำธารขนาดเล็กไหลผ่าน สร้างเสียงและความชุ่มชื้น รวมถึงเคลื่อนย้ายศาลาน็อกดาวน์จากบริเวณสวนด้านข้างไปตั้งไว้ด้านหน้า ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน โดยจ้างช่างมาสร้างงานฮาร์ดสเคป ลงต้นไม้ใหญ่ และวางก้อนหินธรรมชาติที่มีน้ำหนักมากตามแบบที่เจ้าของสวนได้ออกแบบไว้ อ่านต่อหน้า2 

Humble Home อบอุ่นและอ่อนน้อม

ครั้งนี้เราขอพาไปชมบ้านสวยกันไกลถึงบุรีรัมย์ จังหวัดเล็กๆ ในภูมิภาคอีสานใต้ บ้านชั้นเดียวสไตล์โมเดิร์นหลังนี้โดดเด่นด้วยตัวบ้านสีเทาขรึมตัดกับสีเขียวของสนามหญ้า เดิมเป็นบ้านที่ผ่านการออกแบบมาก่อนแล้ว โดยมีการลงเสาเข็มไปบางส่วน แต่ด้วยเซ้นส์ของ คุณอ้อ – ผณิภุช ชาญเลขา มัณฑนากร ซึ่งได้ปรึกษาและตัดสินใจร่วมกับสถาปนิกเพื่อขอปรับแก้ไขโครงสร้าง โดยขยายพื้นที่อยู่อาศัยให้กว้างขวางมากขึ้นสำหรับสมาชิก 5 คน ประกอบด้วยพ่อ แม่ และลูกๆอีก 3 คน ซึ่งแต่ละคนก็มีช่วงวัยและความชอบแตกต่างกัน หลังการปรับโครงสร้าง บ้านหลังนี้จึงมีพื้นที่ 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ พื้นที่สำหรับรับรองแขกที่เป็นทางการ ห้องนั่งเล่นของครอบครัวที่เชื่อมต่อกับฟิตเนสและซาวน่า และห้องนอนส่วนตัวของสมาชิกแต่ละคน ภายในบ้านออกแบบให้มีบรรยากาศโปร่งโล่ง โดยทำระเบียงทางเดินภายในบ้านให้เหมือนเดินรอบคอร์ตยาร์ดซึ่งจัดเป็นสวนแนวญี่ปุ่น สมาชิกในบ้านจึงมองเห็นกันและกันได้ มีการปรับระยะความสูงของฝ้าเพดานทั้งหมดให้สูงขึ้น เพื่อเปิดรับแสงสว่างจากธรรมชาติ ไม่เกิดมุมอับและอากาศถ่ายเทได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังนำองค์ประกอบแบบสมมาตรมาช่วยเน้นให้งานตกแต่งดูมีมิติและน่าสนใจ เช่น พื้น กรอบประตู และฝ้าเพดาน ที่ออกแบบเป็นกรอบรูปเรขาคณิตบางส่วนก็เล่นระดับหลายๆ ชั้น เป็นการสร้างกรอบนำแนวสายตา อีกทั้งเสริมให้พื้นที่นั้นๆ ดูเป็นสัดส่วนชัดเจนยิ่งขึ้น พระเอกอีกคนของบ้านหลังนี้ก็คือไม้มะค่า ซึ่งเป็นของสะสมของเจ้าของบ้านที่ทั้งสวยงามและมีคุณค่าทางจิตใจ จึงเลือกนำมาปูพื้น นอกจากให้ความรู้สึกอบอุ่นแล้ว ผู้ออกแบบยังได้นำมาเป็นแนวคิดหลักในการสรรหาวัสดุปิดผิวชนิดอื่นๆ เพื่อเลือกโทนสีที่ช่วยทำให้บรรยากาศในบ้านเกิดความกลมกลืนอย่างเป็นธรรมชาติ ที่น่าสังเกตอีกประการก็คือการเลือกใช้โทนสีแบบสุภาพ แม้จะดูเรียบ ทว่าก็ให้ความรู้สึกสวยคลาสสิกแบบไร้กาลเวลา ดูสงบแต่ก็เปี่ยมด้วยความภูมิฐาน […]

อบอุ่น ละมุน ร่วมสมัย

ประตูไม้บานเล็กเปิดออกให้เห็นสวนหินสไตล์ญี่ปุ่นที่ดูเรียบง่ายสบายตาช่วยเพิ่มความรู้สึกสงบนิ่งเหมือนเช่นตัวบ้านที่ออกแบบให้มีรูปทรงแบบเรขาคณิตดูไม่หวือหวา ทว่าก็มีเสน่ห์บางอย่างที่ทำให้เจ้าของบ้านตัดสินใจเลือกบ้านหลังนี้ “เดิมทีผมมีบ้านอยู่อีกที่หนึ่ง หลังนั้นค่อนข้างเล็ก ก็เลยอยากได้บ้านที่มีสนามหญ้าหน้าบ้าน มีบ่อปลาคาร์พ มีมุมปาร์ตี้สังสรรค์กันเล็กๆ ภายในครอบครัว และผมก็มาเจอที่นี่ ชอบที่ตำแหน่งของบ้านมีลมพัดผ่านตลอดเวลา บรรยากาศในบ้านจึงเย็นสบาย” เจ้าของบ้านเกริ่นถึงที่มาของบ้านหลังนี้ให้ฟัง บนพื้นที่ประมาณ 360 ตารางเมตรที่มาพร้อมกับตัวบ้านของโครงการ เจ้าของบ้านต้องการแบ่งสัดส่วนและต่อเติมบ้านใหม่ทั้งหมด จึงค้นหาทีมสถาปนิกและนักออกแบบตกแต่งภายในจากอินเทอร์เน็ต จนได้มาพบกับ คุณดาวุค – นิรัติศัย สลาม จากบริษัทพาย จำกัด ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการของเขาได้อย่างครบถ้วน “เจ้าของบ้านอยากได้บ้านที่ดูอุ่นๆ ไม่โมเดิร์นจนเกินไป มีบรรยากาศอบอุ่นแบบโฮมมี่ ผมจึงตีโจทย์เป็นบ้านสไตล์โมเดิร์นผสมกับคอนเทมโพรารีที่มีความร่วมสมัยครับ” คุณดาวุคเล่าถึงแนวทางออกแบบว่า เน้นความเรียบหรูภายใต้โทนสีขาวที่ดูสว่าง เริ่มที่ส่วนรับแขกออกแบบให้เชื่อมต่อไปถึงส่วนรับประทานอาหารและส่วนเตรียมอาหาร วัสดุส่วนใหญ่ที่บ้านหลังนี้เลือกใช้ก็เป็นวัสดุธรรมชาติอย่างหินอ่อนและไม้ “เจ้าของบ้านชื่นชอบหินและไม้อยู่แล้ว อยากให้บ้านทั้งหลังดูอบอุ่นด้วยโทนสีครีมและขาว ผมและทีมงานจึงออกแบบให้ที่นี่มีบรรยากาศที่ดูกลมกลืนกันทั้งหลังซึ่งกลมกลืนในที่นี้หมายถึงเข้ากันได้ดี ไม่ขัดแย้งกันระหว่างไม้กับหินครับ” ถัดจากส่วนรับแขกก็เป็นโต๊ะรับประทานอาหารสีขาวที่จัดวางอย่างโดดเด่น อีกทั้งเพิ่มความน่าสนใจให้พื้นที่โดยรอบด้วยตู้ปลาขนาดใหญ่ที่เจ้าของบ้านรักและชื่นชอบ โดยติดตั้งอยู่ในผนัง ทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ถัดมาคือห้องนั่งเล่นที่เจ้าของบ้านและครอบครัวมักใช้เวลาในช่วงหัวค่ำมารวมตัวพูดคุยกัน จัดวางโซฟาสีส้มบนพื้นพรมเนื้อนุ่มสีเทา – ดำ เข้ากันได้ดีกับฝ้าเพดานที่ออกแบบเป็นระแนงไม้ เพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายและเป็นกันเอง นอกจากนี้เมื่อมองทะลุประตูบานเลื่อนกระจกออกไปด้านนอกจะเห็นบ่อปลาคาร์พที่ทำหน้าที่เพิ่มความเป็นธรรมชาติและสร้างบรรยากาศน่าสบายให้บ้าน “ในห้องนั่งเล่นนี้ยังมีมุมสำหรับปาร์ตี้กันเล็กๆ ออกแบบให้มีมินิบาร์เพื่อรับรองแขกที่มาเยือน ด้านหลังเป็นตู้บิลท์อินสำหรับเก็บของและโชว์ถ้วยรางวัลที่เจ้าของบ้านได้มาจากการแข่งขันดริฟต์รถแข่ง”   เมื่อขึ้นไปยังชั้นบนจะเห็นมุมนั่งเล่นที่เชื่อมไปยังห้องนอนใหญ่ ห้องนอนลูกสาว และห้องนอนลูกชาย […]

Chiang Mai City วิถีชน (ใน) เมือง

แฟน “บ้านและสวน” หลายท่านน่าจะคุ้นชื่อของ คุณขวัญชัย สุธรรมซาว กันดี สถาปนิกรุ่นใหม่แห่งบริษัทแผลงฤทธิ์ จำกัด คนนี้เป็นหนึ่งในผู้เปิดแนวทางการออกแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ในจังหวัดเชียงใหม่ มีประสบการณ์ออกแบบบ้านและอาคารต่างๆ มานานนับ 10 ปี DESIGNER DIRECTORY ออกแบบ: Plankrich เมื่อต้องมาออกแบบบ้านของตัวเอง หลายคนอาจคิดว่าเขาจะออกแบบให้มหัศจรรย์พันลึกด้วยเทคนิคพิเศษอย่างไรก็ได้ แต่เอาเข้าจริงบ้านของคุณขวัญชัยกลับดูเรียบง่าย เพราะสิ่งที่เขาเน้นก็คือทำเล ซึ่งสะดวกสำหรับการใช้ชีวิตในเขตเมืองที่ต้องการความคล่องตัว ทว่าปัจจุบันที่ดินในเขตเมืองเชียงใหม่นั้นกลายเป็นพื้นที่ทางธุรกิจหรือคอนโดมิเนียมไปหมด การหาที่ดินสำหรับสร้างบ้านสักหลังนั้นยากเต็มทน “การสร้างบ้านในเมืองเชียงใหม่เป็นเรื่องยากแล้วครับ เพราะที่ดินมีราคาแพงมาก ไม่อย่างนั้นก็ต้องออกไปอยู่นอกเมือง แต่เมื่อผมเลือกอยู่ในเมืองบ้านเป็นหลังๆ นั้นตัดออกไปได้เลย ทางเดียวที่จะได้ที่อยู่อาศัยที่ใกล้เคียงกับบ้านก็คือตึกแถว ผมตระเวนหาจนมาเจอที่ตรงนี้ ขนาดกำลังพอดีคือ 3 คูหา ไม่ใหญ่เกินไป แล้วจึงปรับปรุงใหม่ทั้งหมดเลยครับ” การปรับปรุงในที่นี้คือการทุบรื้อทุกส่วนออกทั้งหมด ไม่เหลือแม้กระทั่งบันได คงไว้แค่เพียงเสากับคานเท่านั้น มีการจัดแปลนใหม่ สร้างพื้นที่ใช้สอยใหม่ แม้ทั้ง 3 คูหาจะออกแบบไม่เหมือนกันเสียทีเดียว แต่โครงสร้างเดิมที่บังคับอยู่ก็ทำให้ดูไม่แตกต่างกันเท่าไร คุณขวัญชัยเลือกห้องริมขวาสุด (หากหันหน้าเข้าตัวอาคาร) เพราะมีพื้นที่ว่างข้างอาคารก่อนสุดแนวรั้วกับบ้านข้างเคียง ส่วนที่เหลืออีก 2 คูหาทำเพื่อขาย ตึกแถวสามชั้นนี้อาจมีหน้ากว้างไม่ต่างจากตึกแถวทั่วไป แต่มีความลึกน้อยกว่า เมื่อปรับปรุงแล้วจะไม่มีชั้นลอยเหมือนที่เราคุ้นตากัน หากมองขึ้นเพดานจะเห็นว่าคุณขวัญชัยวางตงและพื้นไม้ […]

สวนลอยฟ้า จากแนวคิด อวตาร

ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก ราวกับสรวงสวรรค์อวตารมาปรากฏอยู่เบื้องหน้า นั่นเป็นสิ่งที่ผมคิดหลังจากลิฟต์มาถึงยังชั้นดาดฟ้าของอาคารกรมดิษฐ์บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ และได้พบสวนสวยแห่งนี้ของ คุณวิกรม กรมดิษฐ์ นักธุรกิจและนักเขียนผู้มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของเมืองไทย รวมถึงเป็นผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัทอมตะคอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) ทางเดินพื้นคอนกรีตตกแต่งด้วยกรวดแม่น้ำสลับสีอย่างเป็นธรรมชาติทอดยาวผ่านพรรณไม้ไทยโบราณ อาทิ อินจัน จำปี ชงโค จันทน์กะพ้อและหมากเม่า แทรกไปกับไม้พุ่มทรงสูงอย่างมะเขือต้น แก้วเจ้าจอม และพุดชนิดต่างๆ ซึ่งแผ่กิ่งก้านแตกแขนงออกเป็นทรงพุ่มดูสวยงาม บางต้นยังออกดอกสะพรั่งส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ไปทั่ว โดยมีไม้ระดับล่างอย่างเฟิน คล้า บุก บอน กล้วยไม้ดิน สับปะรดสี และมอสส์ขึ้นเขียวชอุ่มอยู่รอบโคนต้นจนไม่น่าเชื่อว่าสวนนี้จะอยู่เหนือพื้นดาดฟ้าคอนกรีตของอาคารใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งถมพื้นดินหนาเพียงแค่ประมาณ 15 เซนติเมตรเท่านั้น ทำให้ผมต้องถามถึงเคล็ดลับการดูแลสวนให้ดูอุดมสมบูรณ์ได้นานกว่า 8 – 9 ปีเช่นนี้ คุณวิกรมให้คำตอบว่า “การทำสวนไม่ใช่ทำครั้งเดียวแล้วจบ สวนเป็นสิ่งที่มีชีวิต เราจึงต้องแบ่งเป็นเฟสๆ สวนนี้ไม่ได้มีแปลน ทำไปเรื่อยๆ เฟสแรกคือทดลองปลูกเมื่อก่อนมีมอสส์และเฟินเติบโตได้ดี ถัดมาเราก็ดูว่าอะไรที่ควรจะปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลา พอมันลงตัวแล้วจะได้รู้และดูแลรักษาให้ดีได้ เฟสสุดท้ายคือเฟสที่ลงตัว ถ้าเราแบ่งการจัดสวนเป็นเฟสจะดูยั่งยืนกว่าการจัดสวนครั้งเดียว เพราะแรกๆ ก็ดูดีแต่หลังๆ อาจเปลี่ยนไปตามกาลเวลา” สวนแห่งนี้จึงไม่ใช่แค่ปลูกต้นไม้เพื่อความสวยงามชั่วครั้งชั่วคราว สิ่งสำคัญคือการดูแลเอาใจใส่พืชพรรณต่างๆ […]

French Cottage Garden กลิ่นอายสวนฝรั่งเศส

สวนในแถบตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศสนั้นเต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นอวลด้วยกลิ่นอายธรรมชาติในโทนสีละมุนตา ภายในแปลงปลูกไม้ดอกผสมผสานไม้ตัดฟอร์มวางแปลงลักษณะกึ่งฟอร์มัล ดูไม่เป็นทางการ ทั้งหมดคือภาพเริ่มต้นก่อนจะแปรเปลี่ยนให้กลายมาเป็นสวนสวยริมแม่น้ำกกภายในร้าน Melt in Your Mouth คาเฟ่บรรยากาศดีเจือกลิ่นอายแบบชนบทฝรั่งเศส จากจุดเริ่มต้นของที่ดินผืนงามริมแม่น้ำกกซึ่งเป็นที่ดินของคุณพ่อ เมื่อ คุณสมบูรณ์ และ คุณพูนสุข รักมนุษย์ สองพี่น้องเจ้าของร้าน คิดจะใช้ประโยชน์จากที่ดินผืนนี้ หลายตัวเลือกก็ตามมา ในที่สุดก็ตัดสินใจว่าจะทำเป็นร้านกาแฟบรรยากาศสบายๆ เพราะทั้งสองเป็นคอกาแฟตัวยง “แต่เดิมเวลามาเชียงรายก็ต้องนั่งดื่มกาแฟแบรนด์ตามร้าน แล้วที่นี่ก็เป็นแหล่งปลูกกาแฟด้วย จึงมีความคิดว่าถ้าจะเปิดร้านจะมีความเป็นไปได้ไหม” นั่นคือเรื่องราวเริ่มต้นที่ คุณเปิ้ล – กุลนรี สุรเลิศรังสรรค์ ภรรยาคุณสมบูรณ์ และเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของร้านนี้เล่าให้เราฟัง “เราให้โจทย์สถาปนิกว่าอยากใช้ประโยชน์จากที่ดินให้ได้เต็มที่ ตัวอาคารต้องเปิดมุมมองให้เห็นแม่น้ำเยอะๆเดิมทีดีไซน์เป็นไม้ ดูดิบๆ เพื่อขายกาแฟกับอาหารเหนือไม่กี่เมนู แต่ผู้ออกแบบทักว่าร้านมันใหญ่มากนะสำหรับกาแฟกับอาหารนิดหน่อย ประจวบกับได้รับคำแนะนำจากพี่คนหนึ่งที่เปิดร้านอาหารให้ส่งคนไปเรียนกับเขา ซึ่งเปิ้ลก็ได้เมนูอาหารฝรั่งมาระดับหนึ่งและมีเค้กด้วย จึงมาปรับดีไซน์ร้านใหม่ให้เบาลง เราเปิดหนังสือดูแบบที่ชอบรวมๆ กว่า 10 เล่ม ปรากฏว่าพอชอบรูปไหนก็จะไปในอารมณ์เฟรนช์วินเทจ เป็นแนวฝรั่งเศส ไม่ใช่อังกฤษหรืออเมริกัน “สำหรับสวนเป็นอะไรที่เราไม่มีความรู้เลย บังเอิญมีคนจัดสวนที่เคยร่วมงานกันแนะนำ บี (คุณสุธาทิพย์ ไพบูลย์นันทพงศ์) ซึ่งตอนแรกเราไม่รู้ว่างานบีเป็นอย่างไรแล้วบีก็ชวน นุ่น (คุณอิศรา แพงสี) ซึ่งเขาทำงานเข้าขากันได้ดี […]

บ้านซ่อนตัว

สบาย ปลอดภัย และเป็นส่วนตัว คือปัจจัยหลักที่เรานึกถึงก่อนจะสร้างบ้านหรือเลือกพื้นที่ส่วนตัว แบบบ้านโมเดิร์น หลังใหญ่ที่ดูน่าค้นหาหลังนี้สะดุดตาตั้งแต่ไกลด้วยที่ตั้งซึ่งอยู่ในเขตชุมชนของอำเภอเมืองนครปฐม แต่กลับมีความเป็นส่วนตัวอย่างมากด้วยรั้วปูนเว้นร่องเล็กๆ ที่ดูเท่และไม่ทึบจนเกินไป DESIGNER DIRECTORY ออกแบบ : Backyard Architect เมื่อเข้ามาด้านในก็ยิ่งตื่นเต้น เพราะเราไม่อาจมองเห็นตัว แบบบ้านโมเดิร์น ทั้งหมดได้ จากมุมนี้สร้างความสงสัยว่าถ้าจะเข้าไปในตัวบ้านจริงๆ ต้องเข้าทางไหนกันแน่ คุณมีชัย เจริญพร สถาปนิกจากบริษัท Backyard Architect จำกัด เล่าให้ฟังว่า “เจ้าของบ้านต้องการความเป็นส่วนตัวสูงมาก บนที่ดินผืนนี้ประกอบด้วยบ้านจำนวน 3 หลัง โดยมีคอร์ตกลางเป็นตัวเชื่อมพื้นที่ทั้งหมด” นอกจากบ้านหลักของเจ้าของบ้านแล้ว บ้านหลังที่สองเป็นบ้านของพี่และน้อง ส่วนหลังสุดท้ายเป็นบ้านคุณพ่อคุณแม่ ตามความต้องการที่จะอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีความเป็นส่วนตัวด้วย สถาปนิกเสนอให้บีบพื้นที่ของบ้านให้กะทัดรัด และออกแบบให้มีสวนเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ใช้งานร่วมกัน ซึ่งทำให้บ้านดูอบอุ่นขึ้นด้วย คุณมีชัยเล่าต่อไปว่า “เจ้าของบ้านอยากให้แต่ละพื้นที่ของบ้านมีการเล่นระดับและสเต็ปไม่เท่ากัน ผมได้นำโจทย์นี้มาพัฒนาต่อ โดยใช้บันไดเป็นตัวเชื่อม วัสดุหลักเป็นไม้ เพราะดูเรียบง่ายและอบอุ่น” การออกแบบโดยใช้บันไดเป็นตัวเชื่อมอาคารทั้งสามหลังจึงทำให้เกิดพื้นที่ที่ลดหลั่นเป็นสเต็ป ซึ่งช่วยแยกความเป็นส่วนตัวของแต่ละครอบครัว อีกทั้งเป็นตัวบอกพื้นที่การใช้งานได้ดี เช่น บันไดด้านหน้าที่ใช้โครงเหล็กและไม้จริงเป็นระแนงบังสายตาจากภายนอก สร้างความเป็นส่วนตัว และใช้กับบ้านหลังแรกเท่านั้น

บ้านทรงสี่เหลี่ยมหลังคาจั่ว จุดเริ่มต้นของความพอดี

บ้านชั้นเดียว สีขาว หลังนี้ตั้งอยู่ในละแวกเส้นทางแม่ริม – โป่งแยง จังหวัดเชียงใหม่ ในอดีตเคยเป็นหมู่บ้านจัดสรรเก่า แต่ปัจจุบันมีต้นไม้ขึ้นครึ้มจนปิดบังภาพเดิมของหมู่บ้านนี้ไปเกือบหมด คุณทองมา – จำเนียร ทองมา ศิลปินและประติมากรฝีมือเยี่ยม ผู้เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ เล่าถึงที่มาของบ้านให้ฟังว่า “ผมเจอที่ดินตรงนี้ ก็เพราะเพื่อนชวนให้มาตกแต่งห้องของเขา ซึ่งก็อยู่ข้างบ้านผมนี่เอง ผมเห็นที่ดินแล้วชอบ เพื่อนก็ชวนให้มาอยู่เป็นเพื่อนบ้านกัน ผมใช้เวลาตัดสินใจไม่นาน เพราะที่นี่มีสิ่งที่ผมชอบหลายอย่าง เช่น เป็นที่ที่อยู่กลางธรรมชาติ มีป่าและลำธารที่ได้ยินเสียงน้ำไหลรินตลอดเวลา อาจเป็นเพราะว่าผมทำงานที่ค่อนข้างดิบ ๆ จึงอยากอยู่แบบธรรมชาติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานของผมได้ดี  ” บ้านชั้นเดียว สีขาว ไม่เกิน 4 เดือน บ้านชั้นเดียว หลังนี้ก็สร้างเสร็จ จากเดิมที่ที่ดินผืนนี้เต็มไปด้วยหญ้าสูงท่วมศีรษะ มีต้นไม้ขึ้นรกชัฏ ก็เปลี่ยนสภาพเป็นที่ดินพร้อมปลูกที่อยู่อาศัยเหมือนเมื่อครั้งเป็นที่ดินจัดสรรตอนแรกเริ่มโครงการ บนพื้นที่ 1 ไร่ คุณทองมาได้วางแผนล่วงหน้าแล้วว่า จะทำเป็นสตูดิโอทำงานศิลปะและส่วนพักอาศัย ซึ่งทั้งสองส่วนนี้กินพื้นที่ประมาณเท่ากัน ด้านริมถนนเป็นส่วนสตูดิโอ ส่วนด้านหลังติดลำธารเล็กๆเป็นบ้านพัก โดยทุกหลังสร้างเป็นอาคารชั้นเดียวสีขาว หลังคาจั่ว ดูสงบและสบายส่วนที่เป็นบ้านพัก วางแปลนเป็นรูปตัวแอล ( L ) […]

The Neverland of Andra Matin ระหว่างพื้นที่กับการเดินทาง

  เมื่อเดินผ่านประตูรั้วด้านหน้าบ้านเข้าไปเราจะพบทางเดินไม้ลอยอยู่เหนือสระน้ำ ขนาบด้วยกำแพงดินที่มีมอสส์และเฟินแทรกอยู่เป็นระยะ ร่องไม้ที่ชั้นบนเว้นที่ว่างให้แสงสว่างลอดผ่านลงมาสะท้อนกับผืนน้ำดูระยิบระยับไปทั่วบริเวณ  ปลาคาร์พตัวเขื่องว่ายน้ำลอดจากมุมหนึ่งไปสู่อีกมุมหนึ่ง แดดจัดจ้าของประเทศอินโดนีเซียช่วยเติมเต็มความสดใสให้บ้านหลังนี้ได้อย่างเหลือเฟือ Mr. Andra Matinเจ้าของและผู้ออกแบบบ้าน AM House หลังนี้ยิ้มต้อนรับและผายมือเชิญเราเข้าสู่ภายในบ้าน  เขาพาเราเดินขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านซึ่งจัดวางโต๊ะยาวขนาด 4 – 5 เมตร เพื่อใช้รับแขก จากตรงนี้เรามองเห็นอาคารคอนกรีตสมัยใหม่ที่เปิดโล่งและมีพื้นที่อเนกประสงค์คล้ายบ้านใต้ถุนสูงอันเป็นเอกลักษณ์ของบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ตั้งอยู่บนเส้นศูนย์สูตร แล้วบทสนทนาระหว่างเรากับคุณอันดราก็เริ่มขึ้น “ผมเริ่มก่อสร้างบ้านหลังนี้ในปีค.ศ. 2008 เริ่มจากโครงสร้างหลักคือกล่องปูนเปลือยยกสูงอย่างที่เห็นเมื่อบ้านค่อยๆก่อร่างขึ้นก็ทำให้ผมเห็นรายละเอียดที่ควรใส่เพิ่มลงไปจึงใช้เวลาก่อสร้างนานกว่าบ้านทั่วไปแต่การค่อยๆคิดและถักทอพื้นที่ต่างๆเข้าด้วยกัน ทำให้ได้ผลลัพธ์เป็นบ้านที่ลงตัวกับผมและครอบครัวอย่างแท้จริงบ้านหลังนี้เสร็จสมบูรณ์ในปีค.ศ. 2013 ใช้เวลารวม 5 ปีพอดี” คุณอันดราเป็นเจ้าของสำนักงานออกแบบ Andramatin และถือเป็นสถาปนิกรุ่นบุกเบิกที่เปิดรับงานออกแบบสถาปัตยกรรมอย่างอิสระในประเทศอินโดนีเซีย สิ่งที่เขาใส่ใจที่สุดก็คืองานออกแบบที่สอดรับกับภูมิอากาศแบบร้อนชื้นของประเทศนี้ บริษัทของเขาจึงเป็นผู้นำด้านงานออกแบบสไตล์โมเดิร์นทรอปิคัล ดังจะเห็นได้ว่าบ้านหลังนี้แทบไม่ใช้เครื่องปรับอากาศเลย มีเพียงสองจุดเท่านั้นคือห้องน้ำที่ชั้นใต้ดินซึ่งต้องใช้เครื่องกำจัดความชื้นและในห้องนอนชั้นบน นอกเหนือจากนั้นล้วนพึ่งพาพลังจากธรรมชาติทั้งสิ้น และอีกเรื่องหนึ่งที่คุณอันดราสนใจก็คือการออกแบบพื้นที่ “ผมสนใจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่มากกว่ารูปทรง” คุณอันดราอธิบายหลักการออกแบบพื้นที่ซึ่งใช้กับทุกงานออกแบบของเขาแม้แต่กับบ้านหลังนี้ “ความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่ (Spatial Relationship) ต้องมองไปถึงกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นมากกว่าการมองแบบเป็นห้องสี่เหลี่ยม เพราะในความเป็นจริงกิจกรรมต่างๆไม่ว่าจะนั่งนอนเดินหรือยืนต่างก็มีพื้นที่ ‘ระหว่างกัน’ทั้งสิ้นเมื่อคิดได้ดังนี้รูปทรงก็จะออกมาต่างอย่างที่ควรจะเป็นสามารถออกแบบร่วมกับเรื่องภูมิอากาศและการอยู่อาศัยได้อย่างเหมาะสม” คำอธิบายข้างต้นพอทำให้เข้าใจได้ว่าทำไมบ้านหลังนี้จึงมีรูปทรงแปลกตาและชวนให้แปลกใจทุกครั้งที่ก้าวผ่านจากบริเวณหนึ่งไปสู่อีกบริเวณหนึ่ง “ผมชอบการเดินทางบ้านของผมก็เลยให้ความรู้สึกของการเดินทาง” การเปลี่ยนผ่านแต่ละพื้นที่ของบ้าน AM House เปรียบได้กับการผจญภัยย่อมๆ ทั้งทางเข้าที่เดินทะลุขึ้นมายังเนินดินก่อนเข้าสู่พื้นที่รับแขกที่ลัดขึ้นบันไดเวียนสู่สวนดาดฟ้าได้ หากเดินจากพื้นลาดอีกด้านหนึ่งก็จะแยกออกไปยังเรือนเล็กของคุณอันดรา แล้ววนกลับเข้ามาที่ห้องของลูกๆ ห้องทำงานชั้นล่างยังมีประตูซ่อนอยู่หลังชั้นหนังสือเพื่อออกไปยังห้องละหมาดและห้องน้ำได้อีกด้วย […]

โอบล้อมด้วยแสงใน บ้านไทย สไตล์มินิมัล

นับเป็นโชคดีของเราที่วันนี้อากาศดี ไม่ร้อนจัดและแสงแดดไม่แรงจนเกินไป เหมาะแก่การถ่ายภาพบ้านเป็นอย่างยิ่ง บ้านที่เรามาเยือนในครั้งนี้เป็นเรือนหอ บ้านไทย สไตล์มินิมัลของ คุณจุ๊บ – ศศธร ภาสภิญโญ และ คุณรินทร์ – ภัทรกานต์ เศรษฐชยั ตั้งอยู่ในย่านพัฒนาการ บนพื้นที่ 100 ตารางวา ซึ่งเป็นที่ดินเดิมของครอบครัวคุณจุ๊บ บ้านที่มีไอเดียในการจัดการกับแสงสว่างได้อย่างน่าสนใจ   “เริ่มแรกเราอยากได้บ้านไทยสไตล์มินิมัล กล่าวคือมีโถงทางเดินอยู่ตรงกลางบ้านเหมือนบ้านไทย แต่การตกแต่งต้องดูเรียบ มีแฝงอารมณ์แบบญี่ปุ่นนิดๆ และเปิดรับแสงธรรมชาติได้รอบบ้านโดยที่ต้องไม่เพิ่มความร้อนให้บ้านด้วย เราสองคนชื่นชอบการอ่านหนังสือและมักเก็บภาพสไตล์การตกแต่งบ้านไว้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างบ้านของเรา” คุณจุ๊บเกริ่นนำให้เราฟัง การหาไอเดียจากหนังสือประกอบกับเคยเรียนด้านสถาปัตยกรรม จึงสเก็ตช์ภาพบ้านแบบคร่าวๆ พร้อมบอกความต้องการหลักให้ คุณวิมลรัตน์ อิสระธรรมนูญ สถาปนิกนำไปออกแบบต่อ ใน บ้านไทย หลังนี้ จากที่จอดรถ ผู้ออกแบบทำทางเดินรอบบ่อปลาคาร์พ ก่อนจะนำเข้าไปสู่ตัวบ้าน การออกแบบดังกล่าวสร้างบรรยากาศแห่งการเชื้อเชิญ เปรียบเสมือนการต้อนรับจากเจ้าของบ้าน รอบบริเวณบ้านยังปลูกต้นไม้นานาพรรณดูร่มรื่น สร้างความรู้สึกสดชื่นได้ดีก่อนเข้าไปสู่ภายในบ้าน ซึ่งสิ่งแรกที่พบคือโถงนั่งเล่นแบบดับเบิลสเปซที่ตกแต่งอย่างเรียบง่าย สะท้อนบุคลิกของเจ้าของบ้านทั้งสองที่ชื่นชอบความสบายและเป็นกันเอง ผู้ออกแบบใช้โถงบันไดกลางบ้านเป็นจุดเชื่อมโยงทุกพื้นที่ใช้งานตามความต้องการของเจ้าของบ้าน ผนังที่ขนาบโถงนี้ทั้งสองด้านเป็นปูนเปลือย ดูเท่และทันสมัยแบบที่เจ้าของบ้านชื่นชอบผสมผสานกับการเลือกใช้ไม้และไม้วีเนียร์ เป็นการเพิ่มรายละเอียดที่ดูสะอาดตา โถงบันไดนี้ยังแบ่งบ้านเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ประกอบด้วยส่วนรับแขก ส่วนรับประทานอาหาร […]

ฤดูแห่งสวน

แม่น้ำบางนรา แม่น้ำสายสำคัญที่หล่อเลี้ยงชีวิตชาวนราธิวาสมายาวนาน สองฝั่งแม่น้ำยังคงบรรยากาศเรียบง่าย อุดมด้วยทรัพยากรธรรมชาติ มีน้ำใสสะอาดไหลมุ่งหน้าสู่ประตูกั้นเขื่อนลุ่มน้ำบางนรา โครงการในพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการพัฒนาแหล่งน้ำจืด เพื่อใช้ในการชลประทาน อุปโภคบริโภค ป้องกันน้ำเค็ม ระบายน้ำ ควบคุมน้ำในลุ่มน้ำบางนราและพรุโต๊ะแดง เขื่อนกั้นน้ำที่ว่านั้นคืออีกหนึ่งวิวงดงามเมื่อมองจากบ้านหลังนี้ บ้านหลังงามบนพื้นที่ราว 4 ไร่ครึ่งของ คุณพงศ์ศักดิ์ ชุติเชาวน์กุล ไม่เพียงแต่จะอยู่ติดริมแม่น้ำบางนราซึ่งให้บรรยากาศดีอย่างที่สุด สวนรอบบ้านนี้ยังเต็มไปด้วยไอเดียการตกแต่งที่น่าประทับใจสร้างสรรค์ผลงานโดย คุณนนทชัย จันทร์เต็ม แห่ง GardenAAA สภาพพื้นที่เดิม “ที่นี่มีสวนอยู่แล้วในรูปแบบลำธารธรรมชาติ มีบ่อปลาและพื้นไม้ระแนง แต่ด้วยอากาศของภาคใต้จะมีฤดูฝนค่อนข้างยาวนาน มีช่วง 4 เดือนที่ฝนตกต่อเนื่องทั้งวันและสลับกับตกหนักทั้งวัน บางสัปดาห์มองไม่เห็นแสงแดดเลยก็มี หรือมีแดดก็นิดเดียว บางครั้งเราเห็นแดดออกแต่ฝนตกก็มี ส่วนในฤดูร้อนตอนกลางวันจะร้อนจัด ยิ่งเข้าเดือนเมษายนความร้อนจะสูงมากจนรู้สึกแสบผิวหนังเป็นสาเหตุให้บ่อปลาและลำธารเจออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ทำให้น้ำในบ่อเป็นสีเขียว อุณหภูมิน้ำไม่คงที่ ปลาจึงไม่สามารถอยู่ได้ และด้วยอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงมากในแต่ละฤดู กับความชื้นที่สูงมากในช่วงฤดูฝน ทำให้พื้นไม้ระแนงเดิมผุกร่อนเร็ว” คุณนนทชัยอธิบาย และทั้งหมดจึงเป็นที่มาของการออกแบบสวนเพื่อแก้ปัญหาให้สอดรับกับสภาพภูมิอากาศของที่นี่   อ่านต่อหน้า 2