กระปรอกว่าว
เฟินใบตำลึง
เฟินก้านดำใบองุ่น กระปรอกว่าว ชื่อวิทยาศาสตร์: Doryopteris ludens วงศ์: Adiantaceae ประเภท: ไม้ใบ/เฟินดิน ลำต้น: เป็นพุ่มขนาดเล็ก ความสูง: ประมาณ 20-30 เซนติเมตร ใบ: มีใบสองแบบ ใบไม่สร้างสปอร์รูปร่างคล้ายใบตำลึง ขอบใบหยัก 5 แฉกแหลม กว้างและยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร ส่วนใบสร้างสปอร์มีก้านใบยาวกว่า ใบใหญ่กว่า ขอบหยักลึก 5-7 แฉก รูปใบหอกแคบ ปลาบแฉกอาจแตกแขนงอีก ใบสีเขียวเป็นมัน อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง วัสดุปลูก: โปร่ง เก็บความชื้น ระบายน้ำและอากาศได้ดี อาจเป็นดินร่วนผสมทรายหยาบและอินทรียวัตถุหรือใบไม้ผุ หรือผสมวัสดุอื่นที่หาได้ เช่น อิฐมอญทุบ ถ่านทุบ เศษโฟมหัก น้ำ: ปานกลาง ชอบความชื้นสูง แสงแดด: ควรพรางแสงให้เหลือประมาณ 40-50 เปอร์เซนต์ ไม่ควรถูกแสงแดดโดยตรง ขยายพันธุ์: เพาะสปอร์ การใช้งานและอื่นๆ […]
กระแตไต่ไม้
กระปรอกว่าว/สไบนาง/สะโมง/หัวว่าว/Oak-leaf Fern ชื่อวิทยาศาสตร์: Drynaria quercifolia (L.) J.Sm. วงศ์: Polypodiaceae ประเภท: เฟินอิงอาศัย ลำต้น: เป็นเหง้าทอดเลื้อย มีเกล็ดสีน้ำตาลปกคลุม ใบ: ใบที่ไม่สร้างสปอร์ (sterile frond) เป็นใบกาบรูปไข่หรือรูปโล่ ขอบหยักเป็นคลื่น ทำหน้าที่เก็บสะสมเศษซากอินทรียวัตถุ และใบที่สร้างสปอร์ (fertile frond) ยาวได้ถึง 20 เซนติเมตร มีก้านใบยาว ขอบใบหยักเป็นพูลึก มีอับสปอร์สีน้ำตาล เรียงขนานกับแนวเส้นกลางใบเป็นแถวเดียวหรือสองแถว ในฤดูหนาวใบจะเหี่ยวแห้งเหลือแต่เหง้า และผลิใบใหม่อีกครั้งในช่วงปลายฤดูร้อน ดิน: ดินหรืออิฐผสมกาบมะพร้าวสับ น้ำ: ปานกลาง แสงแดด: รำไร ขยายพันธุ์: แยกเหง้าหรือเพาะสปอร์ การใช้งานและอื่นๆ : นิยมปลูกเป็นไม้แขวนหรือไม้กระถาง ♦ เป็นว่านทางเมตตามหานิยมที่ช่วยให้ค้าขายดี ♦ ชาวอีสานใช้เหง้าเป็นยาบำรุงเลือด ช่วยคุมธาตุ ขับปัสสาวะ ขับพยาธิ แก้ปัสสาวะกะปริบกะปรอย สีเหลืองเข้ม หรือมีเลือดปน ภาวะไตพิการ […]