แตรสวรรค์

ลำโพง/Salmon Angel’s Trumpet   ชื่อวิทยาศาสตร์: Brugmansia versicolor Lagerh. วงศ์: Solanaceae ประเภท: ไม้พุ่ม ลำต้น: สูง 2-3 เมตร แตกลำต้นใกล้ผิวดินเป็นหลายลำ เปลือกสีขาว ฉ่ำน้ำ กิ่งเปราะ ใบ: ใบรูปรี ใบบางและยาว 18-25 เซนติเมตร มีขนนุ่ม ดอก: ดอกออกที่ซอกใบใกล้ปลายยอด ดอกรูปแตรหรือรูปลำโพง โคนกลีบดอกเป็นหลอดยาว 15-20 เซนติเมตร ปลายแยกเป็น 5 กลีบ สีขาว ขาวอมชมพู หรือขาวอมเหลือง ดอกบานคว่ำลง ปลายกลีบโค้งงอนขึ้น เมื่อบานมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 12-15 เซนติเมตร ออกดอกตลอดปี แต่ดกมากในช่วงฤดูฝน บานได้นาน 2-3 วัน ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ บางพันธุ์ไม่หอมในช่วงกลางวัน แต่หอมแรงในช่วงใกล้พลบค่ำจนถึงเช้า อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง ดิน: ชอบดินร่วนระบายน้ำดี […]

ฮอลลี่ฮ็อค

Hollyhock ชื่อวิทยาศาสตร์: Alcea rosea L. วงศ์: Malvaceae ประเภท: ไม้ดอกอายุสั้นหรือ 2 ปี ลำต้น: พุ่มสูง 1-3 เมตร มีทั้งพันธุ์ต้นเตี้ยและต้นสูง ใบ: ใบรูปแฉกลึก เป็นพู 3-5 พู ขอบใบหยักเป็นคลื่น ใบสีเขียวเข้ม มีขนทั่วใบ ดอก: ดอกออกเป็นช่อยาว ออกตามปลายยอด มีทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน ดอกรูปถ้วย ขอบกลีบหยักเป็นคลื่น ขนาดดอก 5-10 เซนติเมตร มีสีขาว ชมพู เหลือง ส้ม แดง และม่วง โคนกลีบอาจมีสีแดงเข้ม อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง ดิน: ชอบดินร่วนปนทราย แสงแดด: แสงแดดจัด น้ำ: ปานกลาง การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด โดยกลบเมล็ดบางๆ การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นไม้ประดับแปลง พันธุ์ต้นสูงควรมีไม้ค้ำต้นไม่ให้ต้นโค่นล้มเมื่อถูกลมแรง เกร็ดน่ารู้: […]

ฮอลลี่ฮ็อค

Hollyhock ชื่อวิทยาศาสตร์: Alcea rosea L. วงศ์: Malvaceae ประเภท: ไม้ดอกอายุสั้นหรือ 2 ปี ลำต้น: พุ่มสูง 1-3 เมตร มีทั้งพันธุ์ต้นเตี้ยและต้นสูง ใบ: ใบรูปแฉกลึก เป็นพู 3-5 พู ขอบใบหยักเป็นคลื่น ใบสีเขียวเข้ม มีขนทั่วใบ ดอก: ดอกออกเป็นช่อยาว ออกตามปลายยอด มีทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน ดอกรูปถ้วย ขอบกลีบหยักเป็นคลื่น ขนาดดอก 5-10 เซนติเมตร มีสีขาว ชมพู เหลือง ส้ม แดง และม่วง โคนกลีบอาจมีสีแดงเข้ม อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง ดิน: ชอบดินร่วนปนทราย แสงแดด: แสงแดดจัด น้ำ: ปานกลาง การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด โดยกลบเมล็ดบางๆ การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นไม้ประดับแปลง พันธุ์ต้นสูงควรมีไม้ค้ำต้นไม่ให้ต้นโค่นล้มเมื่อถูกลมแรง เกร็ดน่ารู้: […]

มะลิพุทธชาด

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Jasminum  auriculatum  Vahl วงศ์: Oleaceae ประเภท: ไม้พุ่มรอเลื้อย อายุหลายปี ลำต้น: มียอดยืดยาวมาก ใบ: ใบเดี่ยว รูปรี โคนใบมน ปลายใบแหลม สีเขียวเข้มเป็นมัน ยอดอ่อนมีขนสั้น ดอก: ช่อดอกแบบช่อแยกแขนง ออกที่ปลายยอดของกิ่งข้าง ดอกสีขาว มีมากกว่า 50 ดอก เมื่อบานมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 เซนติเมตร ปลายแยกเป็น 6 กลีบ มีกลิ่นหอมแรง ทยอยออกดอกเกือบตลอดปี ผล: ต้นที่ปลูกในไทยไม่ติดผล อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง ดิน: ชอบดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดด: แสงแดดตลอดวัน น้ำ: ปานกลาง การขยายพันธุ์: ปักชำกิ่ง และตอนกิ่ง การใช้งานและอื่นๆ:  ปลูกเป็นไม้ประดับกระถาง และจัดแต่งกิ่งยอดให้เลื้อยพันซุ้มให้มีทรงพุ่มกลมสวยงามหรือมีรูปทรงต่างๆ หากปลูกกลางแจ้งห่างจากต้นไม้อื่นสามารถตั้งพุ่มอยู่ได้ด้วยตัวเอง เกร็ดน่ารู้: พบครั้งแรกในจีน หลังจากนั้นมีการนำไปปลูกในประเทศเขตร้อนและเขตอบอุ่นของทวีปเอเชีย สำหรับประเทศไทย นำเข้ามาปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับและไม้ดอกหอมกันมานาน

ว่านเถาวัลย์หลง

เครือเขาหลวง/เถาหมาหลง/มันฤาษี/ฮ้านผีป้าย ชื่อวิทยาศาสตร์: Argyreia  splendens (Hornem.) Sweet วงศ์: CONVOLVULACEAE   ประเภท: ไม้เลี้อย อายุหลายปี ใบ: ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปรี ปลายใบแหลม โคนใบมน ใต้ใบมีขนสีขาวปกคลุม ดอก: ช่อดอกออกจากซอกใบเป็นกระจุก มี 4-6 ดอก แต่ละดอกมีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปกรวย มี 5 กลีบ สีขาวและสีม่วง อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง ดิน: ชอบดินร่วนระบายน้ำดี  แสงแดด: แสงแดดครึ่งวัน น้ำ: ปานกลาง การขยายพันธุ์: ปักชำต้นแตกจากราก ปักชำเถา การใช้งานและอื่นๆ: มีสรรพคุณเป็นสมุนไพร ช่วยรักษาแผล โดยนำต้นมาตำให้ละเอียด ใช้พอกแผล ช่วยให้หายเร็ว ความเชื่อ: คนโบราณเกือบทุกภาคนิยมปลูกไว้หน้าบ้าน เพราะเชื่อว่าเป็นว่านเสน่ห์เมตตามหานิยม ทำให้ค้าขายดี โบราณว่า หากเดินป่าแล้วข้ามเถาต้นเถาวัลย์หลง […]

สร้อยระย้า

ชื่อวิทยาศาสตร์: Otochilus porrectus  Lindl. วงศ์: Orchidaceae ประเภท: กล้วยไม้อิงอาศัย ลำต้น: เป็นปล้องคล้ายไส้กรอกเรียงต่อกัน ปล้องใหม่เกิดข้างยอด ใบ: รูปรีหรือรูปรีแกมใบหอก โคนใบเรียวเป็นก้าน ใบหนาและเหนียว ผิวใบมัน ดอก: ออกเป็นช่อที่ปลายของปล้องใหม่ ช่อดอกห้อย ยาว 6-8 เซนติเมตร ดอกเรียงสลับซ้ายขวา แกนช่อหยักคดไปมา กลีบและกลีบปากเรียวยาว สีขาว ขอบกลีบกระดกงุ้มขึ้น  ออกดอกเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ดิน: วัสดุที่เก็บความชื้นได้ดี โปร่ง ระบายน้ำและอากาศดี เช่น ถ่านทุบ อิฐมอญทุบ กาบมะพร้าว รากเฟินชายผ้าสีดา เศษกระถางแตก หินภูเขาไฟ เป็นต้น น้ำ: ปานกลาง แสงแดด: รำไร หรือได้รับแสงในช่วงเช้า ขยายพันธุ์: แยกกอหรือเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การใช้งานและอื่นๆ: มีอีกชนิดคล้ายกันคือ Otochilus albus  Lindl.

นางตายน้อย

 นางตายตัวผู้ ชื่อวิทยาศาสตร์: Habenaria lindleyana Steud. วงศ์: Orchidaceae ประเภท: กล้วยไม้/ไม้ล้มลุกอายุหลายปี ลำต้น: สั้นมาก อยู่ที่ระดับดิน มี 3-5 ใบ มีหัวใต้ดิน ใบ: รูปรีกว้าง ค่อนข้างหนาและอวบน้ำ สีเขียวเข้ม ปลายมน เรียงตัวในแนวระนาบเวียนรอบต้นที่ระดับดิน ดอก: ออกเป็นช่อตั้ง ยาว 20-40 เซนติเมตร ดอกมักเกิดค่อนไปทางปลายช่อ ลักษณะเป็นพุ่ม สีขาว  กลีบปากเรียวยาว สีขาว ที่โคนมีเดือยยาวทั้งสองข้าง ติ่งที่อยู่กลางดอกคือเส้าเกสร   ออกดอกเดือนกันยายน-ตุลาคม ดิน: วัสดุที่เก็บความชื้นได้ดี โปร่ง ระบายน้ำและอากาศดี เช่น ถ่านทุบ อิฐมอญทุบ กาบมะพร้าว รากเฟินชายผ้าสีดา เศษกระถางแตก หินภูเขาไฟ เป็นต้น น้ำ: ปานกลาง แสงแดด: รำไร หรือได้รับแสงในช่วงเช้า ขยายพันธุ์: แยกกอหรือเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การใช้งานและอื่นๆ: […]

นางอั้วน้อย

ว่านข้าวเหนียว/เอื้องข้าวตอก ชื่อวิทยาศาสตร์: Habenaria dentata (Sw.) Schltr. วงศ์: Orchidaceae ประเภท: กล้วยไม้/ไม้ล้มลุก อายุหลายปี ลำต้น: มีหัวใต้ดิน ต้นเหนือดินสูง 10-20 เซนติเมตร ใบ: รูปรี ปลายมนหรือแหลม ดอก: ออกเป็นช่อตั้ง ยาว 12-20 เซนติเมตร ดอกมักเกิดค่อนไปทางปลายช่อ ช่อดอกค่อนข้างแน่น กลีบดอกสีขาว กลีบปากเป็น 3 แฉก แฉกกลางเป็นแถบแคบเรียว สองแฉกข้างแผ่เป็นแผ่นกว้าง ขอบเป็นครุย บางครั้งก็ลดรูปเป็นติ่งเล็กๆ ออกดอกเดือนสิงหาคม-ตุลาคม ดิน: วัสดุที่เก็บความชื้นได้ดี โปร่ง ระบายน้ำและอากาศดี เช่น ถ่านทุบ อิฐมอญทุบ กาบมะพร้าว รากเฟินชายผ้าสีดา เศษกระถางแตก หินภูเขาไฟ เป็นต้น น้ำ: ปานกลาง แสงแดด: รำไร หรือได้รับแสงในช่วงเช้า ขยายพันธุ์: แยกกอหรือเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การใช้งานและอื่นๆ: […]

เอื้องตาเหิน

ชื่อวิทยาศาสตร์: Dendrobium infundibulum Lindl. วงศ์: Orchidaceae ประเภท: กล้วยไม้อิงอาศัย ลำต้น: เป็นลำผอม ยาว 25-40 เซนติเมตร ผิวเป็นสันและร่องตื้นๆ ตามยาว ต้นอ่อนมีขนสั้นละเอียดสีดำ ขึ้นเป็นกอ ใบ: รูปรีแกมขอบขนาน  แผ่นใบบาง แต่เหนียว ต้นแก่ทิ้งใบ ดอก: เกิดใกล้ยอด ช่อละ 1-3 ดอก ดอกสีขาว กลีบดอกใหญ่เกือบกลม ขอบย้วยเป็นคลื่นเล็กน้อย กลีบปาก ปลายหยักเว้าลึก ขอบย้วยเป็นคลื่น กลางกลีบปากมีสีเหลืองสด ทยายบานนานเป็นเดือน ออกดอกเดือนสิงหาคม-มิถุนายน ดิน: วัสดุที่เก็บความชื้นได้ดี โปร่ง ระบายน้ำและอากาศดี เช่น ถ่านทุบ อิฐมอญทุบ กาบมะพร้าว รากเฟินชายผ้าสีดา เศษกระถางแตก หินภูเขาไฟ เป็นต้น น้ำ: ปานกลาง แสงแดด: รำไร หรือได้รับแสงในช่วงเช้า ขยายพันธุ์: แยกกอหรือเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ […]

หวายตะมอย

นกกระยาง/แส้พระอินทร์/เอื้องมะลิ ชื่อวิทยาศาสตร์: Dendrobium crumenatum  Sw. วงศ์: Orchidaceae ประเภท: กล้วยไม้อิงอาศัย ลำต้น: เป็นลำที่มีโคนโป่งพองคล้ายหัว รูปรี เหนือขึ้นไปเรียวผอมเป็นเส้นกลมแข็ง และอาจแตกแขนงได้ ต้นขึ้นเป็นกลุ่มทอดเอนหรือห้อยลง ใบ: เกิดที่ลำต้นช่วงบน เรียงเป็นระยะ และลดรูปในช่วงหลาย รูปใบยาวรี แผ่นใบบางแต่เหนียว ปลายแหลมมน   ดอก: ออกเป็นช่อ 1-2 ดอก ตามข้อต้นที่ไม่มีใบ กลีบเลี้ยงและกลีบดอกลักษณะคล้ายกัน สีขาว ผายออก โคนกลีบปากเชื่อมติดกัน หูกลีบปากกระดกตั้งขึ้นทั้งสองข้าง ปลายแผ่ออก กลางกลีบมีสีเหลือง ดอกบานวันเดียว กลิ่นหอมฉุน ออกดอกไม่แน่นอน ส่วนใหญ่เป็นช่วงฤดูร้อนแล้วมีฝนตก หรือช่วงฤดูฝน ดิน: วัสดุที่เก็บความชื้นได้ดี โปร่ง ระบายน้ำและอากาศดี เช่น ถ่านทุบ อิฐมอญทุบ กาบมะพร้าว รากเฟินชายผ้าสีดา เศษกระถางแตก หินภูเขาไฟ เป็นต้น น้ำ: ปานกลาง แสงแดด: […]

กล้วยไม้มือนาง

เขาแพะ ชื่อวิทยาศาสตร์: Dendrobium acerosum Lindl. วงศ์: Orchidaceae ประเภท: กล้วยไม้อิงอาศัย ลำต้น: ผอมเล็ก โคนต้นชิดกันเป็นกระจุก ปลายเอนไปหลายทิศทาง ช่วงปลายต้นลดรูปเป็นแผ่นเยื่อบางๆ ที่ข้อ ใบ: เป็นเส้นเกือบกลม อวบน้ำ ปลายสอบแหลมโค้งเล็กน้อย เรียงสลับซ้ายขวา  ดอก: เดี่ยว เกิดตามข้อช่วงปลายต้นที่ไม่มีใบ กลีบดอกสีขาวห่องุ้มเข้าหากันเป็นรูปกรวย ปลายผายออก ดอกมักบานพร้อมกันทั้งกอ  ออกดอกปีละ 2-3 ครั้งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ตุลาคม และธันวาคม ดิน: วัสดุที่เก็บความชื้นได้ดี โปร่ง ระบายน้ำและอากาศดี เช่น ถ่านทุบ อิฐมอญทุบ กาบมะพร้าว รากเฟินชายผ้าสีดา เศษกระถางแตก หินภูเขาไฟ เป็นต้น น้ำ: ปานกลาง แสงแดด: รำไร หรือได้รับแสงในช่วงเช้า ขยายพันธุ์: แยกกอหรือเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นไม้แขวนประดับสวนหรือบ้านเรือนได้

เอื้องเทียนขาว

ชื่อวิทยาศาสตร์: Coelogyne nitida  (Wall. Mss.) Lindl. วงศ์: Orchidaceae ประเภท: กล้วยไม้อิงอาศัย ลำต้น: เป็นหัวสีเขียว รูปไข่แกมรี เรียงตัวบนเหง้าห่างกันเป็นระยะเท่ากัน ใบ: รูปขอบขนานแกมรี ใบหนา เหนียวและแข็ง   ดอก: ช่อดอกเกิดจากยอดใหม่ทางด้านข้างของโคนหัวเก่า  ช่อดอกโค้งเล็กน้อย ในช่อมี 3-6 ดอก กลีบดอกสีขาว กลีบดอกเป็นแถบแคบ โคนกลีบปากกระดกตั้งขึ้นทั้งสองข้าง ปลายแหลม กลางกลีบปากสีเหลืองอมน้ำตาล ขอบสีน้ำตาล  ออกดอกเดือนเมษายน-มิถุนายน ดิน: วัสดุที่เก็บความชื้นได้ดี โปร่ง ระบายน้ำและอากาศดี เช่น ถ่านทุบ อิฐมอญทุบ กาบมะพร้าว รากเฟินชายผ้าสีดา เศษกระถางแตก หินภูเขาไฟ เป็นต้น น้ำ: ปานกลาง แสงแดด: รำไร หรือได้รับแสงในช่วงเช้า ขยายพันธุ์: แยกกอหรือเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นไม้แขวนประดับสวนหรือบ้านเรือนได้

อั้วนวลจันทร์

ชื่อวิทยาศาสตร์: Calanthe vestita Lindl. วงศ์: Orchidaceae ประเภท: กล้วยไม้ดิน ลำต้น: เป็นหัวรูปรี ขอบเป็นสันมน สีเขียวอมเทา ใบ: คล้ายเอื้องชมพูไพร ทิ้งใบก่อนออกดอก ดอก: ออกเป็นช่อตั้ง ช่อดอกค่อนข้างแน่น ยาว15-30 เซนติเมตร ปลายโค้งลง ดอกมักออกค่อนไปทางปลายช่อ กลีบดอกสีขาว กลีบปากเว้า 3 แฉก กลางกลีบปากมีสีเหลือง ขนาดดอก 2 x 4 เซนติเมตร ออกดอกเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ดิน: วัสดุที่เก็บความชื้นได้ดี โปร่ง ระบายน้ำและอากาศดี เช่น ถ่านทุบ อิฐมอญทุบ กาบมะพร้าว รากเฟินชายผ้าสีดา เศษกระถางแตก หินภูเขาไฟ เป็นต้น น้ำ: ปานกลาง แสงแดด: รำไร หรือได้รับแสงในช่วงเช้า ขยายพันธุ์: แยกกอหรือเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ การใช้งานและอื่นๆ: เหมาะปลูกเป็นไม้กระถางประดับสวน หรือมุมบ้าน

เอื้องเงินหลวง

ชื่อวิทยาศาสตร์: Dendrobium formosum Roxb. ex Lindl. วงศ์: Orchidaceae ประเภท: กล้วยไม้อิงอาศัย ลำต้น: เป็นลำอวบ ยาว 20-40 เซนติเมตร ปลายเรียวเล็กน้อย เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5-2.5 เซนติเมตร ผิวต้นมีขนสั้นละเอียดสีดำประปราย ใบ: รูปของขนานแกมรูปใบหอก ขนาด 7-10 x 2.5-3.5 เซนติเมตร แผ่นใบเหนียวคล้ายแผ่นหนัง ปลายหยักเว้าตื้น เรียงตัวถี่ใกล้ยอด ดอก: ช่อดอกสั้นเกิดใกล้ยอด ช่อละ 1-5 ดอก กลีบดอกสีขาว ปลายกลีบปากหยักเว้า กลางและโคนกลีบสีเหลือง กลีบดอกคู่ด้านข้างกว้าง ปลายแหลมมน ออกดอกเดือนตุลาคม-ธันวาคม วัสดุปลูก: ไม่ต้องใช้วัสดุปลูก เพียงหาขอน กิ่งไม้ หรือใช้แผ่นไม้หนาๆ ให้ต้นยึดเกาะ หรือใส่กระเช้าไม้ น้ำ: ปานกลาง แสงแดด: รำไร หรือได้รับแสงในช่วงเช้า การใช้งานและอื่นๆ: ดอกบานทน […]

เอื้องสายวิสูตร

เอื้องหญ้าแพด ชื่อวิทยาศาสตร์: Dendrobium falconeri Hook. วงศ์: Orchidaceae ประเภท: กล้วยไม้อิงอาศัย ลำต้น: ห้อยลงเป็นสายผอม มีปุ่มปมถี่บ้าง ห่างบ้างตลอดสาย ต้นยาวได้ถึง 2 เมตรหรือมากกว่า และมีแขนงแยก ผิวต้นสีม่วงคล้ำและย่น ใบ: รูปรีแกมรูปใบหอก ขนาด 4-6 x 0.6-0.8 เซนติเมตร แผ่นใบบาง ดอก: ออกเป็นช่อตามข้อที่ต้นทิ้งใบแล้ว ช่อหนึ่งมากกว่า 20 ดอก กลีบดอกสีขาว โคนกลีบปากกระดกขึ้น ปลายผายออกเป็นทรงกลมขนาดใหญ่ คล้ายรูปกรวย กลีบปากด้านบนมีขนละเอียดนุ่ม กลางโคนกลีบเป็นวงสีม่วงเข้ม หูปากสีเหลือง ปลายทุกกลีบมีสีม่วงอ่อน ขนาดดอก 4 เซนติเมตร ออกดอกเดือนกุมภาพันธ์ วัสดุปลูก: ไม่ต้องใช้วัสดุปลูก เพียงหาขอน กิ่งไม้ หรือใช้แผ่นไม้หนาๆ ให้ต้นยึดเกาะ น้ำ: ปานกลาง แสงแดด: รำไร หรือได้รับแสงในช่วงเช้า การใช้งานและอื่นๆ: […]

ชิงชี่

จิงโจ้/ชายชู้/หนวดแมวแดง ชื่อวิทยาศาสตร์: Capparis micracantha DC. วงศ์: Capparidaceae ประเภท: ไม้พุ่มกึ่งเลื้อย ลำต้น: สีเทา คดไปมา มีหนามโค้งทั่วลำต้น ใบ: รูปไข่แกมขอบขนาน ปลายมน มีติ่งแหลมเล็กน้อย โคนมนหรือสอบ แผ่นใบหนา เส้นใบเป็นร่องชัด ดอก: ออกเป็นช่อกระจะ 1-6 ดอกเรียงตามซอกใบ กลีบเลี้ยงสีเขียวรูปท้องเรือ 4 กลีบ กลีบดอกสีขาวรูปขอบขนาน 4 กลีบ ร่วงง่าย โคนกลีบมีต่อมน้ำหวานสีเหลืองและเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลแดง เกสรเพศผู้เป็นเส้นยาว 25-30 อัน ออกดอกเดือนสิงหาคม-เมษายน ผล: สดรูปกลมหรือรี มี 4 พู ผลอ่อนสีเหลือง เมื่อแก่สีส้มหรือแดง เนื้อหวานกินได้ เมล็ดสีแดงหรือดำเป็นมัน อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง ดิน: ทั่วไป แต่ชอบดินแห้งหรือดินผสมหินปูน น้ำ: ปานกลาง แสงแดด: ตลอดวัน ขยายพันธุ์: […]

หนามแน่ดงขาว

จิงจ้อน้อย/จุกโรหินี ชื่อวิทยาศาสตร์: Thunbergia simillis Craib วงศ์: Acanthaceae ประเภท: ไม้เลื้อยเนื้ออ่อน ลำต้น: มักเลื้อยพันไม้ระดับต่ำ ใบ: รูปรีแคบ ปลายเรียวแหลม เส้นใบออกจากโคน 3 เส้น แผ่นใบบาง บางชนิดมีขนสากมือทั้งสองด้าน ดอก: สีขาว ออกเดี่ยวหรือออกเป็นคู่ตามซอกใบ โคนกลีบเชื่อมเป็นหลอดตื้นปลายแยก 5 กลีบ ขนาดดอก 3 เซนติเมตร ขนาดดอก 2-3 เซนติเมตร ออกดอกเดือนกันยายน-มากราคม ผล: กลม มีจะงอยที่ปลาย 1 คู่ มี 4 เมล็ด ออกดอกเดือนกันยายน-ธันวาคม อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง ดิน: ทั่วไป น้ำ: ปานกลาง แสงแดด: ตลอดวัน ขยายพันธุ์: เพาะเมล็ดหรือปักชำ การใช้งานและอื่นๆ: ยังมีอีกชนิดหนึ่งมีลักษณะดอกคล้ายกันคือ หูปากกา (T. […]

มะลิ

มะลิลา/ข้าวตอก/มะลิป้อม/Arabian Jasmine ชื่อวิทยาศาสตร์: Jasminum sambac (L.) Ait. วงศ์: Oleaceae ประเภท: ไม้พุ่มกึ่งเลื้อย ความสูง: 1-2 เมตร ลำต้น: ตั้งขึ้นและทอดเอน แตกกิ่งก้านมาก ใบ: ใบเดี่ยว อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม 2-3 ใบ ใบรูปไข่ รูปไข่กลับ หรือแกมรูปรี สีเขียวเป็นมัน ดอก: ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงมีลักษณะเป็นเส้นสีเขียว โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยก 5 กลีบ สีขาว ดอกทยอยบาน โดยเริ่มจากดอกที่อยู่ตรงกลางช่อ ดอกเริ่มบานแล้วส่งกลิ่นหอมแรงในตอนกลางคืน แล้วโรยในบ่ายวันถัดไป ออกดอกตลอดปี แต่จะดกในช่วงฤดูร้อนและฤดูฝน อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง ดิน: ดินที่มีธาตุอาหารสมบูรณ์ ระบายน้ำดี น้ำ: ปานกลาง-มาก แต่ไม่ทนน้ำท่วมขัง แสงแดด: ตลอดวัน ขยายพันธุ์: ปักชำและตอนกิ่ง การใช้งานและอื่นๆ: มีสรรพคุณทางยาที่เป็นประโยชน์ เช่น […]