- Page 2 of 10

โรคกล้ามเนื้อหัวใจชนิดห้องหัวใจขยายใหญ่ (dilated cardiomyopathy : DCM)

โรคกล้ามเนื้อหัวใจชนิดห้องหัวใจขยายใหญ่ หรือ dilated cardiomyopathy (DCM) เป็นโรคที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อหัวใจที่พบได้มากที่สุดในสุนัข และถือเป็นโรคหัวใจอันดับที่สองที่พบได้มากรองจากโรคลิ้นหัวใจเสื่อม หรือ degenerative mitral valve disease (DMVD) โรคกล้ามเนื้อหัวใจชนิดห้องหัวใจขยายใหญ่ เป็นโรคที่พบได้มากในสุนัขพันธุ์ใหญ่ เช่น บ๊อกเซอร์ โดเบอร์แมน เกรทเดน และอาจพบได้บ้างในสุนัขพันธุ์ขนาดกลาง เช่น ค๊อกเกอร์ สเเปเนียล โดยโรคนี้จะพบได้มากในสุนัขอายุมาก สาเหตุของการเกิดโรค อาจเกิดจากความผิดปกติของยีน ซึ่งส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานผิดปกติโดยตรง หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ โน้มนำ เช่น ภาวะหัวใจเต้นเร็วที่เกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลานาน ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากการติดเชื้อไวรัส หรือโปรโตซัว ความเป็นพิษจากยาบางชนิดที่มีผลต่อกล้ามเนื้อหัวใจโดยตรง เช่น ยาดอกโซรูบิซิน ซึ่งเป็นยาที่ใช้ในการรักษามะเร็ง หรืออาจเกิดจากภาวะพร่องฮอร์โมนบางชนิด เช่น ภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ นอกจากนั้นอาจเกิดจากการขาดโปรตีนบางชนิด เช่น ทอรีน หรือ แอล คาร์นิทีน ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีความสำคัญต่อการทำงานของหัวใจ การขาดโปรตีนดังกล่าวอาจเกิดจากชนิดของอาหารที่กิน ที่อาจส่งผลต่อเมตาบอริซึมหรือการสร้างโปรตีน เมื่อระดับโปรตีน โดยเฉพาะ ทอรีน และ แอล […]

โรคลมชักในสุนัขและแมว (epilepsy)

โรคลมชักในสุนัขและแมว หรือ epilepsy เป็นโรคที่เกิดจากการที่มีคลื่นไฟฟ้าในสมองผิดปกติ หรืออาจเรียกได้ว่าเกิดไฟฟ้ารั่วในสมอง ทำให้เกิดอาการชัก (seizure) ให้เห็น โดยสามารถพบได้ทั้งในสุนัขและแมว ซึ่งอาการ หรือ โรคลมชักในสุนัขและแมว อาจจะพบเห็นได้หลายแบบ ได้แก่ พบเพียงครั้งเดียวแล้วหายไป (isolated seizure) เกิดการชักซ้ำภายใน 24 ชั่วโมง (cluster seizure) หรือเกิดการชักต่อเนื่องไม่หยุด (status epilepticus) ซึ่งการชักต่อเนื่องไม่หยุดนี้ ถือเป็นภาวะฉุกเฉินต้องรีบแก้ไขและรีบพาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน จุดกำเนิดของไฟฟ้ารั่วหรือจุดลมชัก เรียกว่า seizure focus ชนิดของอาการโรคลมชัก 1. การชักแบบเกร็งกระตุกทั้งตัว (Generalized epilepsy) เป็นการชักที่เกิดขึ้นจากการที่มีการกระจายตัวของกระแสไฟฟ้าที่รั่วไปทั่วทั้งสมอง ทำให้สุนัขแสดงอาการแบบชักเกร็งกระตุกทั้งตัว อาจพบอาการเหยียดเกร็งแหงนคอ (รูปที่ 1) ร่วมกับอาการตะกรุยขาทั้ง 4 ข้าง อาจพบอาการน้ำลายไหล ปัสสาวะหรืออุจจาระราด รวมทั้งสามารถพบอาการร้องครางขณะชักร่วมด้วย บางครั้งจะพบอาการกัดลิ้นได้บ้างเช่นเดียวกับการชักในคน พบอาการได้ตั้งแต่เพียงแค่ไม่กี่วินาทีจนถึงหลายนาทีได้ การชักแบบเกร็งกระตุกทั้งตัวจะพบการสูญเสียระดับความรู้สึกตัวร่วมด้วย บางครั้งสุนัขหรือแมวสามารถพบอาการก่อนจะมีอาการชักได้ เช่น เดินวน กระวนกระวาย ร้อง […]

ตามหาสัตว์เลี้ยง

7 เช็คลิสต์ที่ควรทำเพื่อตามหาสัตว์เลี้ยงเมื่อพลัดหลง

เป็นธรรมดาของสิ่งมีชีวิตที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างอิสระบ้างในบางครั้ง สัตว์เลี้ยงเองก็เช่นกัน มักจะออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน เดินเล่น หรือสำรวจสิ่งต่าง ๆ รอบตัว อย่างเพลิดเพลิน จนอาจจะเกิดการพลัดหลงกันได้ แต่ทั้งนี้ก็คงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับสัตว์เลี้ยงของตัวเอง เพราะเขาคือหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวที่ต้องดูแลกันและกัน ซึ่งเมื่อเขาหายไปเจ้าของก็คงกระวนกระวายใจไม่น้อย แต่จะทำอย่างไรหากสัตว์เลี้ยงเกิดพลัดหลง หรือไม่กลับมาถึงบ้านสักที บ้านและสวน Pets มีขั้นตอนมาแนะนำ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการ ตามหาสัตว์เลี้ยง กันค่ะ 1.ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก เมื่อกลับมาบ้านแล้วพบว่าสัตว์เลี้ยงของเรา ไม่ว่าจะเป็นหมา แมว นก ไม่อยู่ที่บ้าน หรือหายไปจากบ้าน อาการแรกที่มักเกิดขึ้นกับเจ้าของก็คือ อาการตกใจ ตามมาด้วยความกลัว รู้สึกหมดหวัง โกรธ สับสน และมีความกังวลต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย  ดังนั้น สิ่งแรกที่เจ้าของควรทำคือ การหายใจเข้าลึก ๆ ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก และไม่ควรตำหนิตนเอง หรือคนในบ้าน 2.คิดทบทวน เมื่อตั้งสติได้แล้ว ให้ลองคิดทบทวนดูว่าโดยปกติสัตว์เลี้ยงของคุณเคยหายออกจากบ้านบ้างรึเปล่า ? เคยหายออกจากบ้านนานสุดกี่วัน ? สามารถกลับมาเองได้หรือไม่ ? รวมถึงให้ลองคิดในมุมมองของสัตว์เลี้ยงว่า ปกติชอบไปเดินเที่ยว หรือหลบอยู่ตรงไหนบ้าง […]

รับเลี้ยงสุนัขและแมวจรจัด

เรื่องต้องรู้ก่อนจะ รับเลี้ยงสุนัขและแมวจรจัด

ปัญหาสุนัขและแมวจรจัดเป็นปัญหาที่สำคัญปัญหาหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งทุกภาคส่วนพยายามหาทางแก้ไขอย่างยั่งยืนร่วมกัน แน่นอนว่าทางแก้ปัญหาที่ง่ายทางหนึ่งคือการลดจำนวนสุนัขและแมวจรจัดเหล่านี้ การลดจำนวนประชากรทำได้หลายวิธีและหนึ่งในวิธีที่ดีก็คือการเปลี่ยนจากสุนัขและแมวที่ไม่มีเจ้าของให้มีเจ้าของ หรือพูดให้ง่ายก็คือการหาบ้านให้สัตว์เหล่านี้นั่นเองค่ะ หลายท่านที่อยากจะเลี้ยงสุนัขหรือแมวสักตัวคงมีตัวเลือกของการรับอุปการะสัตว์เหล่านี้อยู่ในใจ เพราะนอกจากเราจะได้เพื่อนซี้สี่ขาเพิ่ม หมาแมวเหล่านี้ได้บ้านใหม่แล้ว ยังมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาสุนัขและแมวจรจัดในสังคมอีกด้วย แต่การจะรับสุนัขหรือแมวสักตัวมาเลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นสัตว์จรจัดมาก่อนหรือไม่สิ่งที่เราควรจะคิดก่อนเป็นอันดับแรกคือ ตัวเรามีความพร้อมจะเลี้ยงพวกเขาเหล่านี้แล้วหรือยัง เพราะถ้าตัวเราไม่มีความพร้อมที่จะเลี้ยงไม่ว่าจะเป็นเหตุผลด้านสถานที่ เหตุผลของเวลา หรือเหตุผลจากปัจจัยที่สำคัญอย่างเงินก็ดีแล้วล่ะก็ เราอาจจะกำลังเป็นสาเหตุของปัญหาสุนัขและแมวจรจัดแทนที่จะเป็นคนช่วยแก้ปัญหานี้ก็ได้ ซึ่งการเตรียมความพร้อมก่อนจะ รับเลี้ยงสุนัขและแมวจรจัด ซึ่งจริงๆ ก็มีพื้นฐานเหมือนการเตรียมตัว เพื่อจะเลี้ยงสุนัขและแมวทั่วไป แต่อาจจะมีรายละเอียด ข้อจำกัด หรือเงื่อนไขบ้างอย่างที่เราควรต้องรู้ก่อนรับสัตว์เหล่านี้มาเลี้ยง เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นบ้านของสุนัขและแมวจรจัดเหล่านี้ได้อย่างถาวร   การเตรียมตัวรับสมาชิกใหม่    1.เตรียมความรู้และความเข้าใจ ความรู้และความเข้าใจเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญมากสำหรับการรับสัตว์สักตัวเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้าน ความเข้าใจนี้ครอบคลุมทั้งความเข้าใจ ”เขา” และความเข้าใจ ”เรา” ซึ่ง “เขา” ที่ว่าคือน้องหมาหรือน้องแมวที่เรากำลังจะรับมาเลี้ยง หากเป็นไปได้เราควรจะเล็งไว้บ้างว่าน้องหมาหรือน้องแมวตัวไหนที่เราจะรับเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ เพื่อจะได้รู้ข้อมูลพื้นฐานของเขา เช่น เป็นสุนัขหรือเป็นแมว สายพันธุ์อะไร ตัวใหญ่แค่ไหน ขนสั้นหรือขนยาว ตัวเมียหรือตัวผู้ อายุเท่าไหร่ มีประวัติมาอย่างไรบ้าง เพราะประวัติสามารถบอกนิสัยคร่าวๆ และเงื่อนไขของสัตว์แต่ละตัวได้ เช่น สุนัขหรือแมวบางตัวมีประวัติเรื่องการทำร้ายร่างกาย อาจทำให้สัตว์เหล่านั้นมีนิสัยหวาดระแวงคนแปลกหน้าหรือสัตว์ตัวอื่นมากกว่าปกติ บางตัวเป็นสัตว์เลี้ยงพิการที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เป็นต้น ข้อมูลเกี่ยวกับตัวสัตว์เหล่านี้จะทำให้เราสามารถนำมาเตรียมอุปกรณ์สถานที่ต่างๆ […]

โรคลิ้นหัวใจเสื่อมในสุนัข (Degenerative Valve Disease)

โรคลิ้นหัวใจเสื่อมในสุนัข (Degenerative Valve Disease)  หรือโรคลิ้นหัวใจรั่ว (Valve Regurgitation) เป็นโรคหัวใจที่พบได้มากที่สุดในสุนัข โดยพบได้มากในสุนัขพันธุ์เล็ก เช่น ชิวาวา ชิสุ พุดเดิ้ล ดัชชุน เนื่องจาก โรคลิ้นหัวใจเสื่อมในสุนัข เป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมของลิ้นหัวใจ จึงพบได้มากในสุนัขที่อายุมาก โดยมักพบในสุนัขที่อายุมากกว่า 7 ปี ขึ้นไป ยกเว้นในสุนัขบางพันธุ์ เช่น คาร์วาเลียร์​ คิงส์ ชาล์ส สเปเนียล อาจเป็นโรคนี้ได้ตั้งแต่อายุยังไม่มาก โดยอาจพบได้ตั้งแต่อายุ 4-5 ปี อุบัติการณ์การเกิดโรคจะพบในเพศผู้มากกว่าเพศเมีย และตัวผู้มักจะมีความรุนแรงของโรคมากกว่าเพศเมีย ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคที่แน่ชัด จึงยังไม่มีวิธีป้องกันหรือชะลอการเสื่อมของลิ้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าโรคลิ้นหัวใจเสื่อมเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ด้วยเหตุนี้พ่อแม่สุนัขที่เป็นโรคนี้จึงสามารถถ่ายทอดยีนที่ผิดปกติสู่ลูกและอาจส่งผลให้ลูกเป็นโรคนี้เมื่ออายุมากขึ้นได้ ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยลดอุบัติการณ์การเกิดโรคนี้ได้โดยการไม่นำสุนัขที่เป็นโรคนี้ไปเป็นพ่อแม่พันธุ์ โรคลิ้นหัวใจเสื่อม มักเกิดรอยโรคที่ลิ้นหัวใจไมทรัล ซึ่งเป็นลิ้นที่กั้นระหว่างหัวใจห้องบนซ้ายและล่างซ้าย ในภาวะปกติลิ้นไมทรัลจะทำหน้าที่ในการกั้นไม่ให้เลือดไหลย้อนกลับสู่หัวใจห้องบนซ้าย ในขณะที่หัวใจห้องล่างซ้ายบีบตัว เมื่อเกิดการเสื่อมของลิ้นไมทรัล อาจทำให้ลิ้นหนาตัว หรือโป่ง จึงทำให้ปลายลิ้นสบกันไม่สนิท และทำเกิดการรั่วขึ้น  เมื่อหัวใจห้องล่างซ้ายบีบตัวเพื่อไล่เลือดออกไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย จึงมีเลือดบางส่วนไหลย้อนกลับไปที่หัวใจห้องบนซ้าย เมื่อความรุนแรงของการเสื่อมเพิ่มมากขึ้น […]

ความสำคัญและความจำเป็นของชั้นเรียน Puppy Class

ผมเชื่อว่าหลายท่านที่เลี้ยงสุนัข มักไม่สนใจในเรื่องของการฝึก หรือศึกษาในแนวทางการเลี้ยงดูที่ถูกต้อง เพื่อเป็นการปูพื้นฐานที่ดีให้แก่ลูกสุนัข เพื่อให้โตขึ้นไปเป็นสุนัขโตที่ดี หรือมองว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งสำคัญ มักมองแค่ว่าสุนัขก็คือสุนัข เลี้ยง ๆ ไว้ในบ้านมีอาหารให้กิน มีที่นอน มีของเล่นให้เล่น ก็เพียงพอแล้ว หรือบางท่านก็เน้นแต่การตามใจโดยไม่ได้คำนึงถึงการฝึกหรือปูพื้นฐานที่ดีให้แก่ลูกสุนัข แต่เกือบทุกท่านจะกลับมาคำนึงหรือรู้สึกถึงความสำคัญของการฝึกหรือศึกษาวิธีการเลี้ยงดู เมื่อสุนัขของตัวเองเริ่มมีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นเช่น ขับถ่ายไม่เป็นที่เป็นทาง เห่าหอน ขี้กลัว ดุ ก้าวร้าว ฯลฯ บางตัวแสดงอาการตั้งแต่ยังเล็ก (ก่อน 4 เดือน) ก็ยังพอจะกลับมาปรับปรุงให้เข้ารูปเข้ารอยได้เร็ว แต่หลายตัวกว่าเจ้าของจะสังเกตเห็นก็คือตอนหลังจากเป็นวัยรุ่นแล้ว (ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป) แบบนี้ก็จะลำบากทั้งเจ้าของและคนฝึกครับ ทั้งที่เรื่องเหล่านี้สามารถป้องกันได้ถ้าเลี้ยงถูกวิธีหรือปูพื้นฐานที่ดีตั้งแต่ตอนเป็นลูกสุนัข ด้วยเหตุนี้ การฝึกและการสอนตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัขจึงเป็นวิ่งจำเป็นและสำคัญมากครับ ด้วยเหตุผลที่ว่า 1. ระบบการเรียนรู้ของสุนัข แม้จะเรียนรู้ไปได้เรื่อย ๆ ตลอดชีวิต แต่ช่วงสำคัญของสุนัขที่จะเปิดรับเพื่อดูดซับและปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม หรือเพื่อการปรับตัวให้มีพื้นฐานทางนิสัยที่ดี จะอยู่ในช่วงตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึง 3 เดือนครับ ช่วงนี้ลูกสุนัขจะเปิดรับและสร้างความคุ้นเคยกับสิ่งที่เราป้อนให้เขาได้อย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้นประตูที่เปิดบานนี้จะค่อย ๆ ปิด ซึ่งพอปิดแล้ว ปัญหาคือการภายหลังจากการปิดแล้ว การจะปูพื้นพฤติกรรมใหม่มันจะเริ่มอยู่ในเรื่องของการปรับพฤติกรรมใหม่ ซึ่งถ้ามาปรับแก้ไขหลังจากประตูปิดไม่นานเร็วก็จะยังแก้ไขได้เร็ว แต่ถ้าปล่อยไว้นาน […]

“สุนัขดมกลิ่นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ” โดยทีมวิจัยจุฬาฯ

สำเร็จแล้ว! ทีมวิจัยจุฬาฯ เผยผลงานวิจัย “สุนัขดมกลิ่นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ” ได้ผลถูกต้องแม่นยำ สำเร็จเป็นที่แรกในประเทศไทย พร้อมประจำการท่าอากาศยาน เสริมปฏิบัติการคัดกรอง การวิจัยดังกล่าวเป็นการนำศักยภาพของสุนัขที่มีความสามารถในการดมกลิ่นดีกว่าคนถึง 50 เท่ามาใช้ในงานวิจัย โดยจะซับเหงื่อบริเวณใต้รักแร้ด้วยสำลีและถุงเท้า เก็บไว้ในห้องปฏิบัติการที่มีความปลอดภัยทางชีวภาพ แล้วนำสำลีและถุงเท้าดังกล่าวมาใส่กระป๋องเพื่อให้สุนัขดมกลิ่น เมื่อสุนัขได้กลิ่นก็จะนั่งลงทันที เพื่อบอกว่าคน ๆ นี้ติดเชื้อแม้จะไม่แสดงอาการ โดยคณะวิจัยได้นำสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ทั้ง 6 ตัว ซึ่งเป็นสุนัขสายพันธุ์ที่มีโพรงจมูกยาว มีประสาทสัมผัสรับรู้กลิ่นที่ไวและดี อุปนิสัยเป็นมิตรและฝึกง่าย ซึ่งจากการทดสอบสุนัขฝูงนี้มีความแม่นยำในการพบผู้ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการสูงถึง 94.8% เทียบเคียงกับประเทศอื่น ๆ ที่มีการวิจัยใช้สุนัขตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อ อาทิ ฟินแลนด์ เยอรมัน ฝรั่งเศส และออสเตรเลีย โครงการนี้นับเป็นต้นแบบในการฝึกสุนัขเพื่องานทางการแพทย์ชุดแรกของประเทศไทย ในอนาคตจะมีการต่อยอดฝึกสุนัขเพื่อตรวจโรคอื่น ๆ เช่นโรคเบาหวาน ซึมเศร้า มาลาเรีย และโรคอัลไซเมอร์ ฯลฯ ซึ่งที่มาของโครงการวิจัย “การใช้สุนัขดมกลิ่นตรวจหาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ” นี้มาจากเหตุว่า การตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด-19 ด้วยอุปกรณ์วัดอุณหภูมิแบบต่าง ๆ เป็นวิธีการคัดกรองเบื้องต้นและได้ผลสำหรับผู้ที่ติดเชื้อและแสดงอาการแล้วเท่านั้น ส่วนผู้ที่ติดเชื้อแต่ยังไม่แสดงอาการ เครื่องมือเหล่านี้ยังไม่สามารถตรวจพบได้ แต่สุนัขที่ได้รับการฝึกมาแล้วสามารถทำสิ่งนี้ได้ […]

การสร้างคอกสุนัข

ข้อคำนึงในการสร้างคอกสุนัข

ท่านผู้อ่านอาจจะเคยเลี้ยง ฝึก ประกวด หรือแม้แต่เคยเพาะพันธุ์สุนัข แล้วคุณก็เริ่มรู้สึกว่างานอดิเรกนี้เริ่มจะเพิ่มปริมาณสุนัขขึ้นในบ้านมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงเริ่มถึงเวลาที่คิดถึง การสร้างคอกสุนัข แต่แม้ว่าความคิดนี้น่าสนใจ แต่ก็อย่ารีบเริ่มต้นจนกว่าคุณจะคิด วิเคราะห์แล้วว่าคุณพร้อมแล้วจริง ๆ ซึ่ง การสร้างคอกสุนัข ควรต้องคำนึงถึงเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ด้วยนะครับ 1.เรื่อง “โซนนิ่ง” สิ่งที่ควรต้องหาความรู้ก่อนเป็นอย่างแรกคือในท้องที่ที่คุณวางแผนที่จะสร้างคอกสุนัขนั้น มีข้อห้ามหรือข้อจำกัดทางกฎหมายในการสร้างคอกสุนัขหรือไม่ อย่าทำแค่โทรไปถามองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง แต่ควรทำหนังสือไปสอบถามและได้รับคำตอบเป็นลายลักษณ์อักษร หรือคุณควรไปสอบถามด้วยตนเองและได้อ่านข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (ถ่ายสำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้องมาเก็บไว้เป็นหลักฐานด้วยจะยิ่งดี)ถ้าคุณคิดจะซื้อที่ดินเพื่อสร้างคอกสุนัข ขอเน้นว่า “อย่า” เชื่อหรือฟังเพียงคำจากนายหน้าขายที่ดินในเรื่องนี้ เพราะการอยากขายที่ดินอาจทำให้เขาไม่บอกความจริงแก่คุณทั้งหมด แต่ให้เข้าไปสอบถามข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยตัวคุณเอง และในระหว่างที่อ่านข้อมูลนั้น อย่าลืมมองหาช่องโหว่ของกฎหรือระเบียบด้วย (เช่นในบางท้องที่ห้ามสร้างคอกหรือกรงถาวรบนพื้นดิน แต่ถ้าสร้างกรงบนรถบรรทุกหรือรถพ่วงก็สามารถทำได้เพราะตามตัวบทของระเบียบแล้วไม่ได้ห้าม เป็นต้น) การตรวจสอบทั้งหมดเหล่านี้ก่อนจะลงมือสร้างคอกสุนัขจะช่วยให้คุณประหยัดเวลา ค่าใช้จ่ายและปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นต่อไปได้บางคนอาจจะคิดว่าการย้ายไปทำคอกสุนัขที่ต่างจังหวัดอาจจะทำได้ง่ายกว่าและไม่เคร่งครัดในเรื่องกฎ ระเบียบมากมาย ตรงนี้ต้องตรวจสอบให้ดีก่อนนะครับ บางท้องที่คุณอาจจะเลี้ยงปศุสัตว์ ช้าง ม้า วัว ควาย ได้เป็นฝูงในท้องถิ่นนั้น แต่กฎหมายอาจจะจำกัดปริมาณสุนัขที่จะเลี้ยงก็ได้(ในกรณี “โซนนิ่ง” นี้ ในประเทศไทยเราน่าจะไม่ได้มีกฎหมายหรือข้อบัญญัติใด ๆ ห้ามไว้เหมือนในสหรัฐอเมริกา เพียงแต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือเรื่องของกฎหมายด้านสุขอนามัย เช่นเรื่องเสียง […]

7 วิธีเล่นกับสุนัข ทั้งสนุกและสร้างสรรค์

การเล่นกับสุนัขมีประโยชน์หลายอย่าง นอกจากความสนุกสนานเพลิดเพลินแล้ว หากเล่นได้ถูกต้องและสร้างสรรค์ยังช่วยฝึกฝน พัฒนาสมองและเสริมสร้างพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ให้กับสุนัขอีกด้วย ที่สำคัญที่สุดเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสุนัขและเจ้าของให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น วันนี้บ้านและสวน Pets จึงมีเคล็ดลับและ วิธีเล่นกับสุนัข แบบสร้างสรรค์มาฝากค่ะ การเล่นสนุกกับสุนัขมีหลายวิธี ที่ได้ทั้งความสนุกเพลิดเพลิน มีทั้งรูปแบบที่วางขายอยูู่ หรือจะ DIY จากของเหลือใช้หรือของใกล้ตัวก็เล่นได้ง่าย ๆ ลองเลือกดูจาก 7 วิธีเล่นกับสุนัข ที่ บ้านและสวน Pets นำมาฝากได้เลยค่ะ เล่นซ่อนแอบ – การเล่นแบบนี้คือให้สุนัขนั่งรอและคอย คุณไปแอบแล้วส่งเสียงให้สุนัขตามหาคุณให้เจอ หรือ เอาของเล่นหรือขนมไปซ่อน แล้วกระตุ้นให้สุนัขไปหา การเล่นแบบนี้เป็นเกมที่ดีมากในการฝึกประสาทสัมผัสเรื่องการดมกลิ่น เมื่อน้องเจอเราก็ให้ชมหรือให้ขนมเป็นรางวัล   อยู่มือไหนนะ? – การเล่นแบบนี้เป็นเกมลับสมองที่ง่ายมาก เพียงแค่คุณหยิบขนมสุนัขซ่อนไว้ในมือ ปล่อยให้สุนัขดมมือของคุณแล้วถามเขาว่าขนมอยู่มือไหนนะ? สุนัขจะใช้จมูกดมกลิ่น ตอนแรกอาจจะเป็นการเดา แต่เมื่อประสาทสัมผัสถึงกลิ่นขนมที่ชัดเจน เขาจะใช้จมูกดันมือที่มีขนมอยู่อย่างเต็มที่ เราก็ค่อยหงายมือออกและยื่นขนมให้เป็นรางวัล   ไปเก็บมาซิ! – คุณนำลูกบอลมาแล้วชักชวนให้สุนัขเล่น โดยเริ่มจากให้สุนัขทำตามลำดับคำสั่งคือ นั่ง-คอย-ไปเก็บมาและปล่อย โดยคุณเป็นผู้เก็บบอลไว้ จนกว่าจะเริ่มเกมต่อไป ซึ่งการเล่นแบบนี้สอนให้สุนัขรู้จักกติกาว่าเมื่อไรจะต้องทำอะไร […]

Pets Area at Home เตรียมบ้านสำหรับสัตว์เลี้ยง

เมื่อคิดจะเลี้ยงน้องแมวน้องหมานั่นหมายถึงการมีสมาชิกในบ้านเพิ่มมาอีกชีวิต นอกจากการให้ความรักและใส่ใจดูแลแล้ว ก็ควร เตรียมบ้านสำหรับสัตว์เลี้ยง และพื้นที่ของเขาให้เป็นสัดส่วน ถูกสุขลักษณะและสามารถอยู่อาศัยได้สบายทั้งคนและสัตว์เลี้ยง บ้านและสวน Pets จึงมีเรื่องที่ควรรู้และต้อง เตรียมบ้านสำหรับสัตว์เลี้ยง มาฝากดังนี้ 1. พื้นที่บ้านและขนาดสัตว์เลี้ยง ก่อนนำสัตว์มาเลี้ยงที่บ้านควรสำรวจลักษณะพื้นที่เลี้ยงและวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง ซึ่งมีผลต่อการเลือกขนาดและสายพันธุ์สัตว์เลี้ยง โดยมีข้อควรพิจารณาคือ วัตถุประสงค์ในการเลี้ยง• คลายเหงา เป็นเพื่อนเล่น เหมาะกับสัตว์ที่ชอบเข้าหาคน และอาจนำมาอยู่ร่วมกันในบ้านได้• เฝ้าบ้าน นิยมเลี้ยงสุนัขขนาดกลาง – ใหญ่ จึงเน้นการ เตรียมบ้านสำหรับสัตว์เลี้ยง บริเวณนอกบ้านเป็นหลัก• เพื่อความสวยงาม เช่น ประดับสวนตกแต่งบ้าน จะเป็นสัตว์ที่ไม่เน้นปฏิสัมพันธ์กับคนมากนัก เช่น ปลา นก ลักษณะพื้นที่เลี้ยง• ห้องเช่า ห้องคอนโดมิเนียม ซึ่งมีพื้นที่จำกัด เหมาะกับสัตว์ขนาดเล็ก พกพาได้ง่าย ไม่ส่งเสียงดังจนรบกวนห้องข้างเคียง ที่สำคัญคือ สถานที่นั้นอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้หรือไม่• ทาวน์เฮ้าส์ ตึกแถว เหมาะกับสัตว์ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ควรระวังการส่งเสียงดังและการจัดเก็บมูลสัตว์ไม่ให้เดือดร้อนเพื่อนบ้าน และหากไม่มีรั้วรอบขอบชิดเพียงพอ หลีกเลี่ยงสายพันธุ์ที่มีนิสัยดุร้ายเด็ดขาด• บ้านที่มีบริเวณ สามารถเลี้ยงสัตว์ขนาดใหญ่ ซึ่งต้องการพื้นที่ออกกำลังกาย และสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้สัตว์เลี้ยงได้ 2. […]

สุนัขกับการสำนึกผิด

การวิจัยจากหลากหลายแหล่งบ่งชี้ว่า แน่นอนว่าสุนัขมีความรู้สึกภายในจิตใจ แต่ก็ยังสรุปไม่ได้แน่ชัดว่า เวลาสุนัขกระทำความผิดแล้ว สุนัขรู้สึกสำนึกผิด หรือไม่ เพราะความรู้สึกสำนึกผิดน่าจะเป็นความรู้สึกที่ค่อนข้างซับซ้อนกว่าพวกความรู้สึกพื้นฐานทั่ว ๆ ไป แต่ที่แน่ชัดคือ ท่าทางที่สุนัขแสดงออกมาให้เจ้าของเห็นเสมือนว่า เขารู้สึกสำนึกในความผิดที่ได้ทำลงนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความรู้สึกสำนึกผิดภายในใจเขาเลยครับ เคยมีการทดลองจากนักวิจัยมากมายเรื่อง สุนัขรู้สึกสำนึกผิด ในทำนองคล้ายกัน และได้ผลลัพธ์อย่างเดียวกัน ตัวอย่างการทดลอง คือ เอาสุนัขที่พอจะเรียนรู้คำสั่งได้ มานั่งอยู่กับของกิน แล้วให้เจ้าของสั่งสุนัขว่าอย่ากิน จากนั้นเจ้าของเดินออกไปจากห้อง ซึ่งผลที่ออกมาจะมี 4 แบบคือ 1. สุนัขไม่กิน เจ้าของกลับมาเห็นว่าขนมยังอยู่ สุนัขได้รับคำชม 2. สุนัขกิน เจ้าของกลับมาไม่เห็นขนม สุนัขโดนดุ 3. สุนัขกิน แต่นักวิจัยคนอื่นเอาของกินชิ้นอื่นมาวางแทน เจ้าของกลับมาเห็นว่าขนมยังอยู่ สุนัขได้รับคำชม 4. สุนัขไม่กิน แต่นักวิจัยคนอื่นเก็บขนมไป เจ้าของกลับมาไม่เห็นขนม สุนัขโดนดุ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ไม่ว่าสุนัขจะกินของกินไปเอง หรือนักวิจัยจะแอบเก็บของกินไปทิ้ง แต่สุนัขก็จะแสดงอาการ “สำนึกผิด” ออกมาเหมือนกันทั้ง 2 กรณีครับ เช่น หลบสายตา ทำหูลู่ […]

น้ำมันตับปลา vs น้ำมันปลา เหมือนกันหรือไม่ ?

จากประสบการณ์การทำงานหลายปีของผู้เขียน พบว่ามีความสับสนของเจ้าของเกิดขึ้นบ่อยมาก ระหว่างน้ำมันปลา และ น้ำมันตับปลา บางครั้งบอกให้ไปซื้อน้ำมันปลากิน สุดท้ายได้น้ำมันตับปลามากินเฉยเลย ทั้งนี้อาจเป็นความคุ้นเคยแต่เด็กของเราด้วย เราอาจจะรู้สึกคุ้นเคยกับน้ำมันตับปลามากกว่า ทั้งที่จริง ๆ แล้ว น้ำมันตับปลา และ น้ำมันปลา แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ทั้งส่วนประกอบ สรรพคุณ และข้อบ่งใช้ วันนี้ บ้านและสวน Pets จะพามาทำความรู้จักน้ำมันทั้งสองชนิดนี้กันให้มากขึ้น เพื่อที่จะได้ซื้อให้สัตว์เลี้ยงของเรากินได้อย่างถูกต้องตามประโยชน์ที่เราต้องการค่ะ น้ำมันตับปลา (cod liver oil) มาเริ่มกันที่น้ำมันตับปลาก่อนนะคะ น้ำมันตับปลา คือน้ำมันที่สกัดมาจากตับของปลา ส่วนใหญ่เป็นปลาทะเล เช่น ปลาค็อด ภาษาอังกฤษจึงเรียกว่า cod liver oil น้ำมันตับปลาเต็มไปด้วยวิตามินเอ และดีสูง ซึ่งวิตามินเอจะช่วยสร้างเยื่อบุผิวหนัง และกระดูก สร้างภูมิต้านทานโรค และช่วยบำรุงสายตาให้สามารถมองเห็นได้ดีในที่มืด หรือในที่ที่มีแสงสลัว ส่วนวิตามินดีจะสำคัญในการดูดซึมแคลเซียม และฟอสฟอรัสจากอาหารค่ะ แต่ถึงแม้ว่าน้ำมันตับปลาจะอุดมไปด้วยวิตามินเอ และดีสูง แต่ตับก็เป็นแหล่งอาหารที่มีคลอเลสเตอรอลสูง ดังนั้นการทานน้ำมันตับปลามากเกินความจำเป็น ก็อาจทำให้ร่างกายประสบปัญหาคลอเลสเตอรอลสูงเกินตามไปด้วย นอกจากนี้วิตามินเอ และดีเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน หากทานน้ำมันตับปลามาก […]