จีน – บ้านและสวน
วันสารทจีน 2566

รวมผลไม้มงคลของไหว้ วันสารทจีน และข้อห้ามต่างๆ ทั้งในและนอกบ้าน

วันสารทจีน 2566 ตรงกับวันพุธที่ 30 สิงหาคม เป็นวันไหว้ ซึ่งวันจ่ายหรือวันที่ต้องออกไปซื้ออาหาร ผลไม้ และเครื่องดื่มสำหรับไหว้บรรพบุรุษคือ

8 ต้นไม้มงคลของจีนที่น่าปลูกในบ้านและที่ทำงานเพื่อเสริมสิริมงคลและโชคลาภ

ผู้คนที่สืบเชื้อสายชาวจีนทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ สิงคโปร์ ไต้หวันหรือฮ่องกงยุคใหม่ยังมีความเชื่อเรื่องการหา ไม้มงคลของจีน มาปลูกเพื่อส่งเสริมโชคลาภและนำพาความร่ำรวยมารับปีใหม่กันอีกด้วย โดยจะวางต้นไม้สำคัญเหล่านี้ตามมุมต่างๆในบ้านอย่างห้องนอนและห้องรับแขกรวมไปถึงห้องทำงาน นอกจากเพิ่มความสบายใจแล้วยังช่วยฟอกอากาศและสร้างความมีชีวิตชีวาให้กับเราได้ในทันทีที่ได้เห็น ส้มจี๊ด (金桔 หรือ 金橘) ศุภโชค (摇钱树) ไพเลีย หรือ เหรียญเงินจีน (镜面草) ตาไก่ใบกว้าง (朱砂根) กล้วยไม้ (蘭科) หน้าวัว (火鶴花) ไผ่กวนอิม (富贵竹) คลาสซูล่า (玉树) 1.ส้มจี๊ด (金桔 หรือ 金橘) ชื่อวิทยาศาสตร์ Citrus Japonica Thunb. ไม้มงคลของจีน ที่สืบทอดกันมายาวนานของจีนและนิยมวางประดับในบ้านมาแต่โบราณ มีถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของจีน ด้วยความเชื่อที่ว่าต้นส้มจี๊ดเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีและความอุดมสมบูรณ์ มาจากคำว่า ‘ส้ม’ มีเสียงคล้ายกับคำว่า ‘ความมั่งคั่ง’ ในภาษาจีน หลายบ้านนิยมมอบส้มจี๊ดปลูกใส่กระถางแทนของขวัญในเทศกาลสำคัญเพื่อช่วยดึงดูด เงินทอง โชคลาภ และความเจริญรุ่งเรืองเข้ามาในบ้าน ซึ่งปลูกไม่ยากเพียงรดน้ำสม่ำเสมอ ตั้งไว้ในบริเวณที่รับแสงแดดโดยตรงอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมงทุกวัน เพื่อให้มันออกผลอยู่ตลอดเวลา 2.ศุภโชค (摇钱树) ชื่อวิทยาศาสตร์ […]

1933 Old Millfun

1933 Old Millfun เซี่ยงไฮ้ใต้แสงเงาสลัวในอาคารคอนกรีตโบราณ

ในบรรดาแหล่งท่องเที่ยวที่มีมากมายและหลากหลายในเซี่ยงไฮ้นั้นคงไม่มีอาคารไหนจะแปลกและฮิปได้เท่ากับ 1933 Old Millfun หรือ Shanghai Slaughterhouse ได้อีกแล้ว ไม่ใช่แค่เพราะรูปทรงอาคารคอนกรีตสี่เหลี่ยมหน้าตาแปลกๆ ของ 1933 Old Millfun เท่านั้น ที่น่าสนใจก็คืออาคารแห่งนี้เคยเป็นหนึ่งในโรงฆ่าสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย แต่ปัจจุบันกลายเป็นอาคารเท่ๆ ที่มีมุมถ่ายภาพแปลกๆ ภายใต้แสงสลัวและชวนให้ค้นหายิ่งนัก   สถาปัตยกรรมแปลกประหลาด อาคารแห่งนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1933 โดยได้รับทุนจากกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่ง Balfours นักออกแบบชื่อดังชาวอังกฤษออกแบบไว้เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 4 ชั้นสไตล์อาร์ตเดโคที่ผสมผสานระหว่างความเป็นตะวันตกและตะวันออกไว้ด้วยกันในพื้นที่ประมาณ 31,700 ตารางเมตร และใช้งบประมาณในการสร้างสูงถึง 33 ล้านกว่าตำลึง (สกุลเงินจีนสมัยนั้น) เพราะต้องขนวัตถุดิบหลักสำหรับทำคอนกรีตจากประเทศอังกฤษ มาก่อให้เป็นผนังหนาราว 50 เซนติเมตร เพื่อคงรักษาอุณหภูมิความเย็นภายในอาคารไว้ มีเพียงหน้าต่างด้านนอกและสกายไลท์เท่านั้นที่เป็นช่องทางให้แสงผ่านเข้ามาได้ รูปทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสภายนอกอาคารมีเสาทรงกลมที่มาจากความเชื่อของชาวจีนที่ว่า ‘โลกเป็นทรงจตุรัสและท้องฟ้าเป็นทรงกลม’ และภายในอาคารใช้เสาโกธิคขนาดใหญ่กว่า 300 ต้นกระจายอยู่ทั่วอาคารทรงจตุรัสซึ่งมีเพดานเป็นเหมือนหมวกทรงแปดเหลี่ยม และใช้เทคโนโลยีการทำพื้นแบบไร้รอยต่อซึ่งทันสมัยที่สุดในยุคนั้น โดยมีรายละเอียดอันโดดเด่นอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสะพานทางเดินเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ซึ่งมีอยู่ถึง 26 จุดด้วยความกว้างแตกต่างกันไปตามขนาดของสัตว์และเพื่อใช้ควบคุมความเร็วของการลำเลียงสัตว์ด้วย ทางลาดเอียงบางจุดก็ทำเทคเจอร์ไว้บนพื้นเพื่อป้องกันการลื่นไถล มีมุมหักเลี้ยวแปลกๆ เพื่อให้ผู้คุมสามารถเหวี่ยงตัวหลบได้ทันหากสัตว์เกิดหงุดหงิดและต่อสู้ขึ้นมา มีบันไดทั้งแบบแนวตรงและบันไดวนสไตล์ฝรั่งเศสซึ่งแทรกซ่อนอยู่ตามมุมต่างๆ ทำให้เส้นทางของที่นี่ดูลดเลี้ยวคดเคี้ยวเหมือนเดินอยู่ในเขาวงกตที่ชวนให้หลงทางกันได้ง่ายๆ […]

อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของ “จีนประยุกต์”

บ้านหลังนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเป็น "จีนประยุกต์" ประดับตกแต่งด้วยของสะสมสไตล์จีน รวมไปถึงงานศิลปะจีน ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้อง หรือเฟอร์นิเจอร์ ...