รู้จักความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพต่อความเป็นเมือง

พื้นที่สีเขียวกับความหลากหลายทางชีวภาพมีความสัมพันธ์กัน ถ้าเรามองง่ายๆ พื้นที่ประกอบด้วยต้นไม้ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ก็นับเป็นพื้นที่สีเขียวแล้ว และพื้นที่เหล่านั้นจะนำมาความหลากหลายทางชีวภาพ นั่นคือ เป็นพื้นที่สีเขียวที่มีพันธุ์พืชหลากชนิด พันธุ์สัตว์ที่หลากหลาย รวมไปถึงจุลินทรีย์ในดิน ในพืชและอากาศ บ้านและสวนมีโอกาสพูดคุยกับ คุณประเสริฐ ศิรินภาพร เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ชี้ให้เราเห็นอย่างหนักแน่นว่า พื้นที่สีเขียวที่มีความหลากหลายทางชีวภาพเป็น “โครงสร้างพื้นฐานของเมืองที่น่าอยู่”  “เมืองไม่ได้มีแค่ตึกรามบ้านช่อง ถ้ามีพื้นที่สีเขียวหรือพื้นที่นันทนาการ เมืองก็น่าอยู่ สิ่งแวดล้อมก็ดีขึ้นเพราะว่าต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่มช่วยกรองอากาศ กรองมลพิษได้ ยิ่งพื้นที่นั้นมีความหลากหลายทางชีวภาพมากขึ้น คนอาจมาใส่ใจเรียนรู้ว่านี่พืชอะไร ต้นอะไร บางทีอาจมีพืชสมุนไพร แล้วทำไมจึงมีแมลง นก ผีเสื้อเหล่านี้อยู่ และยังส่งผลกระทบโดยตรงกับสุขภาพของผู้คนด้วย ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะใกล้บ้านก็ตาม คนได้ออกมาพักผ่อน มาออกกำลังกาย อีกเรื่องคืออาหาร เพราะพื้นที่ที่มีความหลากหลายมีพันธุ์พืชจำนวนมาก รวมถึงพืชสมุนไพรและผักสวนครัวที่เราเก็บมารับประทานก็ถือว่าเป็นความหลากหลายทางชีวภาพอย่างหนึ่ง คุณอาจประหยัดเงินก้อนเล็กๆ จากการปลูกพืชและกินผักสวนครัวได้ซึ่งส่งต่อให้กลายเป็นประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ” ความหลากหลายไม่จำกัดขนาด ตามเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) พื้นที่สีเขียวในแต่ละเมืองควรมีอย่างน้อย 9 ตารางเมตรต่อคน ขณะที่กรุงเทพมหานคร มีเพียง 7.49 ตารางเมตรต่อคน นับว่ายังน้อยกว่าเกณฑ์ ภาครัฐจึงพยายามผลักดันผ่านนโยบายและส่งเสริมในเชิงกฎหมาย เช่น กทม.มีนโยบายกรุงเทพสีเขียวปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้น และนโยบายสวน […]