© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.
การสร้างความสวยงามให้ผนังในบ้านมีหลายรูปแบบด้วยกัน อย่างที่รู้จักกันทั่วไปคือการตกแต่งด้วยวอลล์เปเปอร์ ซึ่งเป็นวัสดุที่ทำมาจากกระดาษพิมพ์ลาย มีกาวเป็นตัวเชื่อมทำหน้าที่ยึดติดกับผนังคอนกรีต แต่วอลล์เปเปอร์ ก็มีข้อด้อยในเรื่องของความคงทนของวัสดุ อายุการใช้งานจึงสั้น บวกกับทำความสะอาดยาก ความนิยมก็ลดลงและมีวัสดุใหม่ ๆ ในการตกแต่งผนังเข้ามาเป็นตัวเลือกเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวีเนียร์ ลามิเนต หรือเทคนิคการสร้างลายใหม่ ๆ ให้ผนังมีสีสันในแบบที่แตกต่างออกไป เห็นได้ชัดว่าความนิยมในการตกแต่งผนังแต่ละยุคนั้นเกิดจากวัสดุที่แตกต่างกันออกไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่เป็นหัวใจสำคัญคือความหลากหลายของสีสันที่สร้างได้ไม่สิ้นสุด ซึ่งสีสันลวดลายที่เกิดขึ้นล้วนมีผลต่อความรู้สึกต่อผู้อยู่อาศัย เช่นเดียวกับผนังสไตล์โมรอคแคน ที่เต็มเปี่ยมด้วยความสดใส จัดจ้าน มีเท็กซ์เจอร์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงทำให้รู้สึกถึงความผ่อนคลาย ไม่ประดิษฐ์ปรุงแต่ง โรงแรม รีสอร์ทหรือบ้านตากอากาศในเมืองไทยจึงมักนิยมออกแบบให้บ้านเป็นสไตล์โมรอคแคน โดยมีเฉดสีอันโดดเด่นของบ้านเป็นเอกลักษณ์ รู้จักสีสไตล์ Moroccan บ้านสไตล์โมรอคแคน หรือ โมรอคคัน (Moroccan) เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการตกแต่งบ้านที่จำลองรูปแบบสถาปัตยกรรมของชาวโมรอคคันที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติจากวัฒนธรรมของชาวมุสลิม ฝรั่งเศส สเปน แอฟริกัน เปอร์เซียน บ้านสไตล์นี้จึงเต็มไปด้วยสีสัน เท็กซ์เจอร์ รายละเอียดยิบย่อยซึ่งสื่อถึงความหรูหราแต่มีความสนุกอยู่ในรายละเอียดเหล่านั้น การตกแต่งบ้านให้เป็นสไตล์โมรอคแคนมีหลายองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงสถาปัตยกรรมที่ออกแบบให้มี Arch หรือซุ้มโค้งตกแต่ง อาคารมีช่องลมพัดผ่านอาคาร (Wind Catcher) ตอบรับกับสภาพอากาศในเขตเมดิเตอร์เรเนียนที่ร้อนแห้ง มีน้ำพุประดับตกแต่งในคอร์ทกลางบ้าน พื้นเต็มไปด้วยลวดลายของกระเบื้องเขียนสี หรือจะเป็นรูปแบบของผนังบ้านที่ทำมาจากดินท้องถิ่นที่มีสีสันจัดจ้าน ซึ่งเท็กซ์เจอร์ที่ไม่เรียบเนียนของผนังกลับสื่อถึงรสนิยมที่มีสไตล์ […]
เพราะการทาสีบ้านเป็นอีกหนึ่งวิธีที่เพิ่มความสวยงาม สร้างโดดเด่นให้กับบ้านอย่างเห็นได้ชัด แค่เปลี่ยนเฉดสีใหม่ก็ทำให้เปลี่ยนอารมณ์ได้แล้ว ทั้งยังทำได้ง่าย รวดเร็ว แต่ปัญหาเรื่องการหา ช่างสี ยังเป็น topic ยอดฮิตที่เจ้าของบ้านต่างมีความกังวล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฝีมือช่างที่ขาดความชำนาญในเรื่องของสี ไม่เข้าใจปัญหาที่เกิดกับสีบนผนังทำให้ต้องแก้งานไม่จบไม่สิ้น ขาดความสุภาพในการพูดคุยเจรจา หรืออาจจะเกิดความกังวลในเรื่องความปลอดภัย รวมทั้งค่าแรงช่างที่เหมือนว่าจะถูกตั้งราคาแบบตามใจไม่เป็นธรรม และหนีงานกันง่ายๆ ทิ้งปัญหาไว้ให้เจ้าของบ้านตามเก็บกวาดอยู่เสมอ แต่ความกังวลเหล่านี้จะหมดไปและการทาสีจะเป็นเรื่องที่ง่ายเป็นเท่าตัวด้วย Smart Painter “บริการทาสี โดยช่างสีมืออาชีพ” ที่ผ่านการอบรมช่างสีโดยนิปปอนเพนต์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมาตรฐานการทำงาน ฝึกฝนทักษะจนเกิดความชำนาญ สามารถให้คำปรึกษาเรื่องสีแบบครบวงจร ซึ่งเจ้าของบ้านจะมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยเหตุผลทั้ง 8 ข้อที่ควรเลือกใช้บริการ Smart Painter คือ 1. จบงานได้ไว ระบบการทำงานของ Smart Painter จะทำให้การทาสีบ้านเสร็จเร็วจบงานได้ไวภายใน 1 วัน (ทีมช่างจะพิจารณาหน้างาน) ด้วยแผนการทำงานอย่างมืออาชีพที่มีขั้นตอนชัดเจน โดยเจ้าของบ้านจะทราบทุกกระบวนการทำงานผ่านเอกสารเช็คลิสต์ เริ่มตั้งแต่การเข้าสำรวจพื้นที่ ประเมินคุณภาพผนัง การเลือกสีที่เหมาะสม การประเมินราคา ขั้นตอนการลงมือทาสี และตรวจความเรียบร้อยเมื่อจบงาน 2. มั่นใจในผลงาน เพราะการทาสีผนังบ้านไม่ใช่แค่การทาสีรองพื้นแล้วจบด้วยสีทับหน้าเพียงเท่านั้น ทีมช่างสี Smart Painter […]
สิ่งหนึ่งที่เจ้าของบ้านไม่อยากพบเจอคือ ผนังเก่า สีเริ่มซีดจาง ลอกล่อนเป็นฝุ่นผง เกิดคราบเชื้อราและตะไคร่น้ำ ยิ่งถ้าหากผนังในบริเวณนั้นสัมผัสกับความชื้น น้ำ และแสงแดด ก็จะยิ่งแสดงผลให้เห็นชัดและเร็วขึ้น อาการเหล่านี้เป็นการส่งสัญญาณว่าสีทาบ้านเริ่มเสื่อมสภาพ ถึงเวลาต้องทาสีใหม่แล้ว ต้องทำความเข้าใจกันก่อนเลยว่า อายุการใช้งานของสีแต่ละเกรดนั้นยาวนานไม่เท่ากันเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ 5-15 ปี ยิ่งอยู่ในบริเวณที่มีสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงรุนแรงด้วยแล้ว ยิ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้สีเสื่อมสภาพเร็วขึ้นได้ ดังนั้นสำหรับผนังภายนอก การเลือกสีทาบ้านที่มีความทนทานต่อสภาวะอากาศ ทั้งแดด ทั้งฝน จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เจ้าของบ้านต้องพิจารณาร่วมด้วย ในขณะเดียวกัน ผนังภายในบ้านที่อาจจะไม่เห็นการเสื่อมสภาพด้วยตาเปล่า แต่เมื่อลองใช้มือถูหรือใช้ผ้าเช็ดจะมีฝุ่นผงหลุดล่อนติดมาด้วย นั่นก็เป็นตัวบ่งชี้ได้ว่าสมควรแก่การทาสีผนังใหม่แล้วเช่นกัน ซึ่งในกรณีทาสีบนผนังหนังเก่าเช่นนี้ ขั้นตอน “การเตรียมพื้นผิวก่อนการทาสี” มีความสำคัญมาก เพราะหากผนังไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมจะทาสีใหม่อีกรอบ ปัญหาฟิล์มสีลอกล่อนก็จะตามมาเช่นเดิม ฉะนั้นมาดูกันว่าการเตรียมพื้นผิวผนังให้พร้อมสำหรับการทาสีใหม่อีกรอบต้องตรวจสอบตรงไหนอย่างไรบ้าง 1. ให้สำรวจผนังและซ่อมแซม ในขั้นตอนของการฉาบปูนหากช่างไม่มีความชำนาญ บ่มปูนไม่ดี นอกจากจะเกิดปัญหารอยแตกลายงาตามมาแล้ว ยังอาจทำให้เกิดคราบเกลือบนผนัง ที่มีสาเหตุมาจากปูนสะสมความชื้นไว้แล้วค่อย ๆ คายออก หรือปัจจัยทางธรรมชาติอื่น ๆ เช่น เกิดคราบตะไคร่น้ำเนื่องจากบริเวณใกล้เคียงต้องสัมผัสกับความชื้น เกิดปัญหาสีหลุดร่อนเพราะความชื้นสะสมจากดิน หากผนังมีร่องรอยความเสียหายเหล่านี้ให้ทำการซ่อมแซมส่วนนี้ก่อนเป็นอันดับแรก 2. ตรวจสอบคุณภาพของผนังปูน ก่อนทาสีต้องมั่นใจว่าทั้งค่าด่างและค่าความชื้นอยู่ในระดับที่เหมาะสม ตามธรรมชาติของปูนเมื่อได้รับความชื้นจากสภาพอากาศจะเกิดความเป็นด่างทำให้ผนังเกิดคราบเกลือชัดเจน จึงควรเช็คสภาพค่าความป็นด่างของพื้นผิวโดยใช้กระดาษลิสมัต (Litmus Paper) […]
คำถามจากกระทู้พันทิป มือใหม่อยากทาสีบ้านเองแนะนำหน่อยจ้า เรื่องการ ทาสีบ้าน ยังคงเป็นงานช่างอีกประเภทที่เจ้าของบ้านส่วนใหญ่เลือกที่จะลงมือเอง ด้วยหลายปัจจัยที่เห็นว่าการทาสีบ้านเองนั้นเป็นเรื่องง่าย สามารถทำเองได้ บวกกับปัญหาเรื่องช่างฝีมือที่หาได้ยาก ซึ่งข้อคิดเห็นดังกล่าวไม่ผิดเสียทีเดียว แต่หากอยากทาสีบ้านให้ได้คุณภาพ สีเรียบเนียนสวยทนนาน เหมือนมีช่างมืออาชีพทาสีให้นั้นคงต้องเรียนรู้ขั้นตอนต่าง ๆ กันอย่างถูกต้อง การ ทาสีบ้าน นอกจากอุปกรณ์พื้นฐานที่ใช้สำหรับทาสีแล้ว สิ่งที่เจ้าของบ้านต้องรู้มี 3 ส่วนด้วยกันคือ 1. การเลือกชนิดของสีทาบ้าน 2. ขนาดพื้นที่ทาสี 3. ขั้นตอนการทาสีที่ถูกต้อง ซึ่งข้อนี้มีความสำคัญมาก ๆ ผนังบ้านจะสวยทนทาน ไม่ลอกล่อนขึ้นราหรือไม่ ขึ้นอยู่กับขั้นตอนนี้เป็นสำคัญ รู้จักสีทาบ้าน สีทาบ้านที่มีจำหน่ายในท้องตลาดทั้งสีทาภายในและสีทาภายนอก เป็นสีประเภทสีน้ำอะคริลิก (Acrylic Paint) หรือเรียกอีกชื่อว่าสีพลาสติก เนื่องด้วยส่วนผสมในเนื้อสีทำมาจากอะคริลิก ผสมกับผงสี น้ำ และเคมีอื่น ๆ จึงถูกเรียกขานในหมู่ช่างว่าสีน้ำพลาสติกด้วย เนื้อสีน้ำอะคริลิกเกิดจากโมเลกุลขนาดเล็กยึดเกาะกันแน่นเป็นเนื้อฟิล์มจึงมีความเนียนเรียบและยึดเกาะกับวัสดุอื่น ๆ ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นคอนกรีต อิฐก่อ หรือไฟเบอร์ซีเมนต์ ในท้องตลาดสีน้ำอะคริลิกแบ่งเกรดตามคุณภาพและราคาคือ เกรดธรรมดา ที่มีอายุใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ 3-5 ปี หลังจากนั้นสีจะเริ่มเสื่อมสภาพและหลุดล่อนเป็นฝุ่นผง […]
หลายคนมักสงสัยว่าอยากจะทาสีผนังเก่า จำเป็นต้องทาสีรองพื้นปูนเก่าหรือไม่? คำตอบคือ ให้ดูคุณภาพสีเก่า แล้วค่อยพิจารณาว่าควรทาหรือไม่ควรทาสีรองพื้น
คำถามจากกระทู้พันทิป สีทาภายในควรใช้รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี ขอแบบที่กลิ่นสีไม่แรง เพราะต้องรีบย้ายบ้าน ปัญหาเร่งด่วนอย่างหนึ่งของการทาสีภายในบ้าน คือความต้องการของเจ้าของบ้านหรือเจ้าของห้องเองที่อยากจะได้สีที่ทาภายในที่ทาแล้วเข้าอยู่ได้ทันที ไม่ต้องรอเป็นวันๆ แต่ครั้นจะหาสีที่ตอบสนองความเร่งรีบแบบนี้ก็มีหลายแบบให้เลือกมากมาย เกิดความสับสนในการเลือกใช้ แต่รู้หรือไม่ ว่าสีทาภายในที่ดี นอกจากคุณสมบัติที่คนส่วนใหญ่ร้องเรียกอยากให้มีอย่าง สีกลิ่นไม่ฉุนเมื่อทาเสร็จสามารถย้ายเข้าอยู่ในบ้านได้ทันที และยังต้องมีคุณสมบัติอื่น ๆ ประกอบด้วย โดยเฉพาะความปลอดภัยต่อสุขภาพผู้อยู่อาศัย ไปดูกันว่ามีส่วนใดบ้างที่ควรพิจาณาก่อนเลือกซื้อสีทาภายในบ้าน ปลอดภัยจากสารพิษอันตราย ปลอดสาร VOCs คือ สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatile Organic Compounds) หรือเรียกว่า สารระเหย เป็นสารที่เมื่อได้รับจะทำให้รู้สึกแสบตา แสบจมูกหายใจลำบาก เกิดอาการวิงเวียนศีรษะหน้ามืด และหากได้รับในปริมาณมากอาจทำให้หมดสติ แต่ถ้าสะสมในร่างกายเป็นเวลานานจะทำให้เยื่อหุ้มปอดถูกทำลายในที่สุด สาร VOCs ถูกใช้ในอุตสาหกรรมหลายชนิดรวมทั้งผลิตภัณฑ์สีทาบ้านด้วย ฉะนั้นหากเลือกสีทาภายในบ้านต้องพิจารณาค่า VOCs ที่ควรมีค่าเป็น Zero หรือ Low เพื่อให้คนในบ้านปลอดภัยมากที่สุด รวมทั้งคุณสมบัติที่ปราศจากสารปรอทและตะกั่ว ซึ่งเป็นโลหะหนักและเป็นอันตรายต่อร่างกายไม่แพ้ VOCs เลยทีเดียว ช่วยฟอกอากาศบริสุทธิ์ภายในบ้าน เป็นที่ทราบกันดีว่าข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านหลายชิ้น ไม่ได้ปลอดภัยไร้สารพิษ 100% เพราะส่วนประกอบในการผลิตล้วนแต่เป็นเคมีภัณฑ์ ซึ่งสารเคมีที่ปนเปื้อนมานั้นต่างแฝงตัวอยู่ในบ้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น […]
วิธีซ่อมแซม ผนังแตกลายงา ซึ่งเกิดขึ้นได้เสมอในงานก่อผนังที่ไม่มาตรฐาน และฝีมือช่างที่ยังขาดความชำนาญ มีทางแก้คือเลือกใช้สีป้องกัน ผนังแตกลายงา
ก่อนทาสีบ้าน ควรมีการคำนวณให้รู้ปริมาณสีที่ต้องซื้อ เพื่อไม่ให้เสียเวลาและควบคุมงบประมาณ ไปดูสูตร คำนวณสีทาบ้าน กันว่า พื้นที่เท่าไหนต้องใช้สีเท่าไร ขั้นตอนหนึ่งในการซ่อมแซมดูแลบ้านเมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนคือ การทาสีบ้าน ใหม่ หลังจากที่ผ่านพายุในหน้าฝนและเจอแสงแดดแรงๆในช่วงหน้าหนาว อาจจะทำให้สีบ้านซีดจางลงไป ซึ่งสามารถทาสีบ้านด้วยตนเอง หรือเรียกใช้บริการจากช่างที่มีความชำนาญก็ได้เช่นกัน แต่ไม่ว่าจะเลือกทาสีบ้านด้วยตนเอง หรือว่าจ้างช่างทาสี สิ่งหนึ่งที่ต้องรู้คือการ คำนวณสีทาบ้าน ให้รู้ปริมาณสีที่ต้องซื้ออย่างแน่ชัด เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาและป้องกันไม่ให้สิ้นเปลืองซื้อสีทาเกินโดยใช่เหตุ •ราคาค่าแรงช่างทาสีตามมาตรฐาน รู้จักปริมาณสีที่มีจำหน่ายในท้องตลาด ไม่ว่าจะซื้อสีผสมสำเร็จรูปในถังแกลอน หรือเลือกสีผสมจากเครื่องผสมสีที่มีจำหน่ายในศูนย์ผสมสีนั้น ต่างต้องมีขนาดบรรจุปริมาณของสีไว้ โดยหน่วยที่ใช้วัดคือ แกลอน (1 แกลอน = 3.785 ลิตร) แบ่งออกเป็น 4 ขนาดด้วยกันคือ 1 /4 แกลอน = 0.946 ลิตร 1 แกลอน = 3.785 ลิตร 2.5 แกลอน = 9.46 ลิตร 5 แกลอน =18.925 ลิตร เมื่อรู้ปริมาณสีที่มีจำหน่ายในท้องตลาดแล้ว […]
เราชื่อว่า ทุกคนมีสไตล์ และสีสันที่ชื่นชอบของตัวเองกันทั้งนั้น แต่ด้วยเงื่อนไขและปัจจัยต่างๆมากมาย
“เขียนสุข ลบเศร้า” เพราะบ้านคือจุดเริ่มต้นของความรู้สึกมากมายหลากหลาย...