ไม้ล้มลุก อายุหลายปี
บีโกเนีย
Begonia ชื่อวิทยาศาสตร์ : Begonia spp. & hybrid วงศ์ : Begoniaceae ประเภท : ไม้ล้มลุก อายุหลายปี ลำต้น : มีเหง้าอยู่ใต้ดิน ทรงพุ่มสูง 15-45 เซนติเมตร ใบ : ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ รูปกลม รูปหัวใจถึงรูปไข่ ปลายใบแหลมถึงเรียวแหลม โคนใบเบี้ยว รูปร่าง ขนาด และสีสันแตกต่างกันในแต่ละสายพันธุ์ ดอก : ดอกเป็นช่อกระจะออกที่ซอกใบ ดอกแยกเพศอยู่ร่วมต้น ดอกเพศเมียมีรังไข่ที่โป่งออกและมี 3 ปี บานทนกว่าดอกเพศผู้ เกสรเพศผู้เห็นเด่นชัด เมล็ดมีขนาดเล็กคล้ายฝุ่น อัตราการเจริญเติบโต : เร็วถึงปานกลาง ดิน : นิยมใช้วัสดุที่อุ่มน้ำและระบายน้ำได้ดี เช่น กาบมะพร้าวสับ แสงแดด : แสงแดดครึ่งวันถึงรำไร น้ำ : ปานกลาง […]
หญ้าหวาน
หญ้าหวาน / Stevia/Sweet Leaf of Paraguay ชื่อวิทยาศาสตร์: Stevia rebaudian วงศ์: Asteraceae ประเภท: ไม้ล้มลุกอายุหลายปี ลำต้น: ทรงพุ่มเตี้ย สูง 30-90 เซนติเมตร ลำต้นเปราะหักง่าย ใบ: ใบเดี่ยวออกตรงข้าม รูปหอกกลับหรือรูปใบหอกแกมขอบขนาน ขอบหยักฟันเลื่อย แผ่นใบสีเขียวสด มีรสหวาน ดอก: ดอกออกเป็นช่อที่ปลายยอด กลีบดอกสีขาวจำนวน 5 กลีบ ออกดอกดกตลอดปี ผล: ผลแห้งขนาดเล็ก ภายในมีเมล็ดสีดำและมีขนปกคลุม อัตราการเจริญเติบโต: เร็ว ดิน: ดินร่วนหรือดินร่วนปนทรายระบายน้ำดี แสงแดด: ปานกลางถึงแสงแดดจัด ชอบอากาศเย็น น้ำ: ปานกลาง ไม่ขังแฉะ การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด ปักชำกิ่ง การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นไม้กระถางหรือปลูกประดับแปลง เกร็ดน่ารู้: ต้มน้ำเดือดแล้วใส่ใบหญ้าหวานทั้งแบบสดและแห้งลงไปชงดื่มจะพบว่าหวานสมชื่อ นั่นเป็นเพราะสารให้รสหวานคือสตีวิโอไซด์ (Stevioside) ซึ่งหวานกว่าน้ำตาลทราย 250-300 […]
ว่านแสนพันล้อม
บัวดิน/บัวสวรรค์ ชื่อวิทยาศาสตร์: Zephyranthes rosea Lindl. วงศ์: Amaryllidaceae ประเภท: ไม้ล้มลุก อายุหลายปี ลำต้น: มีหัวใต้ดินคล้ายหัวหอม รูปทรงกลมถึงรูปไข่ ใบ: ใบเดี่ยว รูปแถบ เรียงสลับเป็นสองแถว ดอก: ดอกเดี่ยว ออกที่ซอกใบ ก้านช่อดอกยาว เส้นผ่านศูนย์กลางดอกประมาณ 3 เซนติเมตร กลีบรวมเชื่อมติดกันเป็นกรวยแคบ ปลายแยกเป็น 6 แฉก สีชมพูเข้ม ผล: ผลแห้งแตกเป็น 3 แฉก มีเมล็ดจำนวนมาก สีดำ อัตราการเจริญเติบโต: ช้า ดิน: ชอบดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดด: แสงแดดตลอดวันถึงครึ่งวัน น้ำ: ปานกลาง การขยายพันธุ์: แยกหัว เพาะเมล็ด การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นไม้กระถาง ไม้ประดับแปลง เชื่อว่าหากปลูกไว้จะช่วยป้องกันภัยต่างๆ และเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม
หญ้าสีน้ำตาล
Copper Sedge/Weeping Brown/New Zealand Sedge ชื่อวิทยาศาสตร์: Carex flagellifera Colenso วงศ์: Cyperaceae ประเภท: ไม้ล้มลุกประเภทกก อายุหลายปี ลำต้น: เจริญเป็นพุ่ม แตกกอสูง 30-50 เซนติเมตร ใบ: ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ รูปขอบขนาน เรียวยาว 35-50 เซนติเมตร สีน้ำตาลคล้ายเส้นเชือก ขนาดเล็ก ปลายใบลู่ลงพื้น ดอก: ช่อดอกไม่ปรากฏ อัตราการเจริญเติบโต: เร็ว ดิน: ชอบดินร่วนปนทราย แสงแดด: แสงแดดเต็มวันถึงครึ่งวัน น้ำ: ปานกลาง การขยายพันธุ์: แยกกอ การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นไม้คลุมดินหรือบริเวณที่ต้องการผิวสัมผัสละเอียด เพื่อตัดกับสีเขียวของพรรณไม้ชนิดอื่น เกร็ดน่ารู้: มีถิ่นกำเนิดในนิวซีแลนด์
ว่านนิลพัตร
ไดคอนดรา/ว่านไก่ชน/Lawn Leaf/Gelenga Grass ชื่อวิทยาศาสตร์: Dichondra micrantha Urb. วงศ์: CONVOLVULACEAE ประเภท: ไม้ล้มลุก อายุหลายปี ลำต้น: มีลำต้นใต้ดินคล้ายเผือกขนาดเล็ก ลำต้นทอดเลื้อยไปตามผิวดินเป็นพุ่มสูง 15-30 เซนติเมตร รากออกตามข้อ ใบ: ใบรูปหัวใจ ออกใกล้กันเป็นกระจุก ขนาด 2-4 เซนติเมตร โคนใบรูปหัวใจ ปลายใบมน แผ่นใบสีเขียวเข้มเป็นมัน ดอก: ดอกเล็ก สีเหลืองอมเขียว อัตราการเจริญเติบโต: ช้า พักตัวในฤดูร้อนและฤดูหนาว ดิน: ชอบดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดด: แสงแดดรำไรถึงแดดจัด น้ำ: ปานกลาง การขยายพันธุ์: แยกหน่อหรือปักชำลำต้น การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นไม้ประดับคลุมดินแทนหญ้า และเชื่อว่าเป็นว่านทางคงกระพันชาตรี สามารถป้องกันศัสตราวุธมีคมทั้งปวง ถ้านำหัวมาฝนใช้ทาตัว จะสามารถนอนบนกองไฟได้โดยไม่รู้สึกเจ็บ ปวดแสบปวดร้อน หากกินหัวว่านนี้เข้าไปด้วยจะสามารถแบกหาม ชักลากไม้ได้ตลอดโดยไม่เหน็ดเหนื่อย เมื่อนึกจะทำการใดๆ ก็สำเร็จดีสิ้นทุกอย่าง ถ้าทาที่แข้งไก่ชนอีกฝ่ายจะแพ้ไปเอง จึงนิยมใช้กันมาก และเรียกกันว่า […]
ว่านสบู่เหล็ก
ว่านสามพันตึง ชื่อวิทยาศาสตร์: Xanthosoma nigrum (Vell.) Mansf. วงศ์: Araceae ประเภท: ไม้ล้มลุก อายุหลายปี ลำต้น: สูงประมาณ 2 เมตร มีลำต้นใต้ดินคล้ายเผือก แตกหน่อและไหลสั้นๆ รอบต้นแม่จำนวนมาก ใบ: ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ รูปสามเหลี่ยม กว้างประมาณ 10-15 เซนติเมตร ยาวกว่า 15 เซนติเมตร โคนใบเงี่ยงลูกศร ปลายใบแหลม แผ่นใบหนา สีเขียวคล้ำ เห็นเส้นใบสีเขียวเทา และมีนวลปกคลุม ใต้ใบสีเขียวเทา ก้านใบกลม สีม่วงคล้ำ ดอก: ช่อดอกออกที่ซอกใบแบบช่อเชิงลดมีกาบ ใบประดับรองรับช่อดอกสีเขียวอมม่วง ตอนบนสีขาว ปลีดอกสีขาวนวล อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง ดิน: ชอบดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดด: แสงแดดครึ่งวันถึงตลอดวัน น้ำ: ปานกลาง การขยายพันธุ์: แยกหน่อ แยกไหล การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นไม้ประดับ […]
ว่านพญาหอกหัก
ตะพิด ชื่อวิทยาศาสตร์: Typhonium flagelliforme (Lodd.) Blume วงศ์: Araceae ประเภท: ไม้ล้มลุก อายุหลายปี ลำต้น: สูงประมาณ 15-20 เซนติเมตร มีลำต้นใต้ดินคล้ายหัวเผือก รูปทรงกลม ใบ: ใบเดี่ยว เรียงเวียน รูปใบหอกแคบ โคนใบรูปหัวลูกศร ปลายใบแหลม ก้านใบกลมยาวสีเขียว ดอก: ช่อดอกออกที่ซอกใบแบบช่อเชิงลดมีกาบ ใบประดับคล้ายกาบรองรับช่อดอกสีเขียว ปลายสีแดงอ่อน ปลีดอกสีเหลือง อัตราการเจริญเติบโต: ช้า ดิน: ชอบดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดด: แสงแดดรำไร พักตัวในฤดูหนาว น้ำ: ปานกลาง การขยายพันธุ์: แยกหน่อ การใช้งานและอื่นๆ: ใช้เป็นสมุนไพรแก้โรคผิวหนัง เชื่อว่าเป็นว่านทางคงกระพันชาตรี หากกินจะรู้สึกคันมากเหมือนมีอะไรมาแทงลิ้น เนื่องจากสารแคลเซียมออกซาเลตที่อยู่ในต้นนั่นเอง
ว่านปรอท
ชื่อวิทยาศาสตร์: Typhonium sp. วงศ์: Araceae ประเภท: ไม้ล้มลุก อายุหลายปี ลำต้น: สูงประมาณ 20 เซนติเมตร มีลำต้นใต้ดินคล้ายหัวเผือก รูปทรงกลมขนาดเล็ก ใบ: ใบเดี่ยว เรียงเวียน รูปไข่กว้างหรือรูปหัวใจ เนื้อใบค่อนข้างหนา สีเขียวเข้ม เส้นใบเด่นชัด ดอก: ช่อดอกออกที่ซอกใบแบบช่อเชิงลดมีกาบ ใบประดับคล้ายกาบรองรับช่อดอกสีขาวนวล มีจุดประสีแดง ปลีดอกสีเหลือง อัตราการเจริญเติบโต: ช้า ดิน: ชอบดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดด: แสงแดดรำไร น้ำ: ปานกลาง การขยายพันธุ์: แยกหน่อ การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นไม้ประดับ ในทางสมุนไพรใช้เป็นยาถอนพิษ ฝี และอาการปวดแสบปวดร้อนจากน้ำร้อนลวกหรือไฟลวก โดยนำหัวหรือใบมาตำให้ละเอียดผสมกับเหล้าขาว พอกบริเวณที่เกิดอาการจะช่วยบรรเทาอาการลงได้ แต่หัวว่านนี้เมื่อกินเข้าไปแล้วจะคันมาก เนื่องจากมีสารแคลเซียมออกซาเลตในเนื้อ หมายเหตุ: ว่านปรอทที่ปลูกเลี้ยงกันในปัจจุบันมีหลายพันธุ์ แต่ส่วนใหญ่เป็นต้นที่เรียกว่า ว่านตะพิดเล็ก หรือ อุตพิดเล็ก (Typhonium sp.) ซึ่งเป็นพืชอีกชนิดหนึ่ง นอกจากนี้ว่านปรอทในบางตำราก็เป็นพืชในวงศ์ขิงด้วย
ว่านคางคก (มะอะอุ)
มะโนรา/ว่านมหาอุด/ว่านมหาอุตมะ/ว่านมะอะอุก้านเขียว/อุตพิด ชื่อวิทยาศาสตร์: Typhonium trilobatum (L.) Schott วงศ์: Araceae ประเภท: ไม้ล้มลุก อายุหลายปี ลำต้น: มีลำต้นใต้ดินเป็นหัวคล้ายเผือก รูปกึ่งทรงกลม แตกหน่อเป็นปุ่มหัว ใบ: ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ เมื่อต้นขนาดเล็ก ใบรูปหัวใจ เมื่อเจริญเต็มที่หยักเป็นแฉก 3-5 แฉก ปลายใบแหลม เส้นใบเป็นร่องตื้น ก้านใบกลม สีเขียวหรือดำ ยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ดอก: ช่อดอกออกที่ซอกใบแบบช่อเชิงลดมีกาบ ใบประดับคล้ายกาบรองรับช่อดอกสีเขียว ปลีดอกสีแดง อัตราการเจริญเติบโต: ช้า ดิน: ชอบดินร่วนระบายน้ำดี มีอินทรียวัตถุสูง ต้องการความชื้นในอากาศสูง แสงแดด: แสงแดดรำไร พักตัวในฤดูหนาว น้ำ: ปานกลาง การขยายพันธุ์: แยกหน่อ การใช้งานและอื่นๆ: เป็นสมุนไพรแก้โรคเรื้อนกวางและโรคผิวหนังอื่นๆ โดยนำหัวมาทุบผสมกับเหล้า ทาบริเวณที่เกิดอาการ หมายเหตุ: ว่านต้นนี้คืออุตพิดสายพันธุ์หนึ่งนั่นเอง ดอกก็มีกลิ่นเหม็นคล้ายอุตพิด แต่กลิ่นอ่อนกว่ามาก […]
ว่านกวักพระพรหม
สาลิกาลิ้นทอง ชื่อวิทยาศาสตร์: Schismatoglottis sp. วงศ์: Araceae ประเภท: ไม้ล้มลุก อายุหลายปี ลำต้น: ลำต้นเหนือดินสูง 30-40 เซนติเมตร มีข้อปล้องเด่นชัด ใบ: ใบรูปรีแกมรูปไข่ แนวเส้นใบเป็นร่องตื้น สีเขียว มีลายสีขาวเหลือบเงินเป็นแถบตามยาวทั้งสองด้านของแผ่นใบ ดอก: ช่อดอกออกที่ซอกใบแบบช่อเชิงลดมีกาบ ใบประดับรองรับช่อดอกสีเขียวอ่อน ปลีดอกสีขาว อัตราการเจริญเติบโต: ช้า ดิน: ชอบดินร่วนระบายน้ำดี โดยเฉพาะดินใบก้ามปู แสงแดด: แสงแดดรำไร น้ำ: ปานกลาง การขยายพันธุ์: แยกหน่อ การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นไม้ประดับ นิยมปลูกเพื่อความเป็นสิริมงคล เมตตามหานิยม และช่วยให้ค้าขายดี บางถิ่นเรียกว่า สาลิกาลิ้นทอง
ว่านเสน่ห์จันทร์มหาโพธิ์
ชื่อวิทยาศาสตร์: Homalomena sp. วงศ์: Araceae ประเภท: ไม้ล้มลุก อายุหลายปี ลำต้น: สูง 30-50 เซนติเมตร ทุกส่วนมีกลิ่นหอม ใบ: ใบเดี่ยว เรียงเวียน รูปหัวใจกว้าง สีเขียว ก้านใบสีม่วงแดง ดอก: ช่อดอกออกที่ซอกใบแบบช่อเชิงลดมีกาบ ก้านช่อดอกสีขาวมักโค้งลง ใบประดับคล้ายกาบรองรับช่อดอกสีเขียว ปลีดอกสีขาวนวล อัตราการเจริญเติบโต: ช้า ดิน: ชอบดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดด: แสงแดดรำไร น้ำ: ปานกลาง การขยายพันธุ์: แยกหน่อ การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นไม้ประดับ
ว่านเสน่ห์จันทร์ศรีมหาโพธิ์
ว่านเสน่ห์จันทร์มหาโพธิ์ ชื่อวิทยาศาสตร์: Homalomena lindenii (Rodigas) Lindl. วงศ์: Araceae ประเภท: ไม้ล้มลุก อายุหลายปี ลำต้น: ลำต้นเหนือดินสูง 30-50 เซนติเมตร ทุกส่วนมีกลิ่นหอม ใบ: ใบเดี่ยว เรียงเวียน รูปหัวใจ สีเขียว กาบใบสีเขียวมีขอบขาว ดอก: ช่อดอกออกที่ซอกใบแบบช่อเชิงลดมีกาบ ใบประดับคล้ายกาบรองรับช่อดอกสีเขียว ปลีดอกสีขาวนวล อัตราการเจริญเติบโต: ช้า ดิน: ชอบดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดด: แสงแดดรำไร น้ำ: ปานกลาง การขยายพันธุ์: แยกหน่อ การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นไม้ประดับ ความเชื่อ: สรรพคุณเหมือนว่านเสน่ห์จันทร์มหาโพธิ์ หมายเหตุ: ว่านต้นนี้คาดว่ากลายพันธุ์มาจากว่านเสน่ห์จันทร์ขาว ใบและก้านใบมีสีเขียว แต่อ่อนแอต่อเพลี้ยแป้ง จึงทำให้ใบดูหยาบด้านกว่าว่านเสน่ห์จันทร์ขาว
ว่านเสน่ห์จันทร์ขาว
ชื่อวิทยาศาสตร์: Homalomena lindenii (Rodigas) Lindl. วงศ์: Araceae ประเภท: ไม้ล้มลุก อายุหลายปี ลำต้น: สูงประมาณ 30 เซนติเมตรทุกส่วนมีกลิ่นหอม ใบ: ใบเดี่ยว เรียงเวียน รูปหัวใจ มีเส้นใบสีขาวชัดเจน ก้านใบสีขาว ดอก: ช่อดอกออกที่ซอกใบแบบช่อเชิงลดมีกาบ ก้านช่อดอกสีขาวมักโค้งลง ใบประดับคล้ายกาบรองช่อดอกสีขาว ปลายสีเขียวอ่อน ปลีดอกสีขาว อัตราการเจริญเติบโต: ช้า ดิน: ชอบดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดด: แสงแดดรำไร น้ำ: ปานกลาง การขยายพันธุ์: แยกหน่อ การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นไม้ประดับ เชื่อว่าเป็นว่านทางเสน่ห์เมตตามหานิยม ในสมัยโบราณหญิงและชายนิยมปลูกเลี้ยงไว้เพื่อเป็นเสน่ห์แก่ตน ตามตำรากบิลว่านและต้นยาวิเศษนานาชนิดของคุณพยอม วิไลรัตน์ (2504) มีอีกชื่อหนึ่งว่า ว่านเสน่ห์จันทร์มหาโพธิ์
ว่านเสน่ห์จันทร์ดำ
บอนส้ม/ว่านเต่าเขียด/โหรา/ซอยโบ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ชื่อวิทยาศาสตร์: Homalomena cf. aromatica (Spreng.) Schott วงศ์: Araceae ประเภท: ไม้ล้มลุก อายุหลายปี ลำต้น: สูง 30-50 เซนติเมตร ทุกส่วนมีกลิ่นหอม ใบ: ใบเดี่ยว เรียงเวียน รูปหัวใจ สีเขียว มีเส้นใบสีแดงอ่อน ก้านใบสีม่วงแดง เมื่อต้นโตเต็มที่ แผ่นใบจะแผ่กว้างขึ้น ดอก: ช่อดอกออกที่ซอกใบแบบช่อเชิงลดมีกาบ ก้านช่อดอกสีขาวมักโค้งลง ใบประดับคล้ายกาบรองรับช่อดอก สีแดง ปลีดอกสีขาวนวล อัตราการเจริญเติบโต: ช้า ดิน: ชอบดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดด: แสงแดดรำไร น้ำ: ปานกลาง การขยายพันธุ์: แยกหน่อ การใช้งานและอื่นๆ: เป็นสมุนไพร หัวมีกลิ่นหอม นำมาบดเป็นผงใช้ผสมกับใบยาสูบและยานัตถุ์ได้ เมื่อนำมากลั่นด้วยไอน้ำจะได้น้ำมันหอมสีเหลือง มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท ความเชื่อ: แต่เดิมไม่ได้ใช้ประกอบกับว่านเสน่ห์จันทร์ขาว ว่านเสน่ห์จันทร์เขียว และว่านเสน่ห์จันทร์แดง แต่มีกลิ่นหอมและมีประโยชน์ ภายหลังจึงจัดเข้าชุดไว้ด้วยกัน […]
ว่านสาวน้อยประแป้ง
ว่านสาวน้อยประแป้ง สาวน้อยประกายเพชร/ไอ้ใบ้/Dumb Cane ชื่อวิทยาศาสตร์: Dieffenbachia seguine (Jacq.) Schott ว่านสาวน้อยประแป้ง วงศ์: Araceae ประเภท: ไม้ล้มลุก อายุหลายปี ลำต้น: สูง 50-80 เซนติเมตร มีน้ำยางใสทุกส่วนของลำต้น ข้อปล้องชัดเจน สีเขียว เมื่อมีอายุมากขึ้น ลำต้นมักทอดเลื้อยไปตามผิวดิน ใบ: ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ รูปรี ปลายใบแหลมมีติ่งแหลมสีเขียว มีจุดประสีขาวกระจายทั่วไป ดอก: ช่อดอกออกที่ซอกใบแบบช่อเชิงลดมีกาบ อัตราการเจริญเติบโต: ช้า ดิน: ชอบดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดด: แสงแดดรำไร น้ำ: ปานกลาง การขยายพันธุ์: ปักชำยอด ปักชำข้อ การใช้งานและอื่นๆ: เป็นไม้ประดับจากต่างประเทศที่นำเข้ามาปลูกนานแล้ว และมักกลายพันธุ์ไปอีกหลายแบบ ใบเป็นสีขาวแกมเหลืองเกือบทั้งใบ ขอบใบสีเขียว ทุกส่วนของต้นมีสารแคลเซียมออกซาเลต เมื่อถูกน้ำยางจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองอย่างแรง ก่อนใช้ควรศึกษาให้ดีก่อน ความเชื่อ: เป็นว่านเสี่ยงทายโชคลาภ เสน่ห์เมตตามหานิยม หากปลูกไว้หน้าบ้านจะช่วยให้ค้าขายดี
ว่านสิงหโมรา
ผักหนามแดง/ผักหนามฝรั่ง ชื่อวิทยาศาสตร์: Cyrtosperma johnstoni (N.E.Br.) N.E.Br. วงศ์: Araceae ประเภท: ไม้ล้มลุก อายุหลายปี ลำต้น: สูง 50-80 เซนติเมตร ใบ: ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ รูปสามเหลี่ยม โคนใบรูปเงี่ยงลูกศร ปลายใบแหลม แผ่นใบหนา สีเขียวเข้มเป็นมัน เส้นใบสีแดง ก้านใบสีขาวอมเขียวอ่อน มีลายขวางตามยาวสีดำ มีหนามแข็งทั่วไป ดอก: ช่อดอกออกที่ซอกใบแบบช่อเชิงลดมีกาบ ใบประดับคล้ายกาบรองรับช่อดอกสีม่วงดำ ปลีดอกสีเหลืองนวล อัตราการเจริญเติบโต: ช้า ดิน: ชอบดินชุ่มชื้นหรือมีน้ำขังตื้นๆ แสงแดด: แสงแดดครึ่งวันถึงตลอดวัน น้ำ: ปานกลาง การขยายพันธุ์: แยกหน่อ การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นไม้ประดับ และเป็นสมุนไพรโดยนำกาบต้นมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ดองเหล้า ทำเป็นทิงเจอร์ กินครั้งละครึ่งถ้วยชา หรือประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ ก่อนอาหาร ช่วยให้เจริญอาหารและบำรุงโลหิต แก้โรคโลหิตจาง ซูบซีด หน้ามืดเป็นลมวิงเวียนบ่อยๆ […]
ว่านมเหศวร
ว่านขุนศึก ชื่อวิทยาศาสตร์: Colocasia sp. วงศ์: Araceae ประเภท: ไม้ล้มลุก อายุหลายปี ลำต้น: สูง 80-100 เซนติเมตร มีลำต้นใต้ดินคล้ายหัวเผือก หากปลูกในที่มีความชื้นสูงจะแตกไหลยาวจำนวนมาก ใบ: ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ รูปหัวใจ ขนาดใหญ่ สีเขียว เส้นใบมีสีดำ ก้านใบกลม สีเขียว ดอก: ช่อดอกออกที่ซอกใบแบบช่อเชิงลดมีกาบ ใบประดับรองรับช่อดอกคล้ายกาบสีเขียว ปลีดอกสีเหลือง อัตราการเจริญเติบโต: ช้า ดิน: ชอบดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดด: แสงแดดรำไร น้ำ: ปานกลาง การขยายพันธุ์: แยกหน่อ แยกไหล การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นไม้ประดับ ความเชื่อ: เชื่อกันว่ามีเทวดารักษา ต้องระวังไม่ให้รอบต้นสกปรกหรือมีสิ่งลามก
ว่านกวักโพธิ์เงิน
บอนใบโพ/ว่านโพธิ์เงิน/ว่านโพธิ์ทอง ชื่อวิทยาศาสตร์: Caladium schomburgkii Schott วงศ์: Araceae ประเภท: ไม้ล้มลุก อายุหลายปี ลำต้น: มีลำต้นใต้ดินเป็นหัวแบบเผือก รูปทรงกลม สูง 30-35 เซนติเมตร ใบ: ใบรูปไข่ โคนใบกลม ปลายใบแหลม แผ่นใบสีเขียว เส้นกลางใบสีขาว ดอก: ช่อดอกออกที่ซอกใบ ดอกแยกเพศอยู่ร่วมต้น ใบประดับรองรับช่อดอกสีเขียว ช่อดอกแบบช่อเชิงลดมีกาบ ปลีดอกสีขาวถึงสีเหลืองนวล ดอกมีกลิ่นหอมตอนกลางคืน อัตราการเจริญเติบโต: ช้า ดิน: ดินร่วนระบายน้ำดี มีอินทรียวัตถุสูงแสงแดด แสงแดด: ชอบครึ่งวันถึงรำไร น้ำ: ปานกลาง การขยายพันธุ์: แยกหน่อหรือผ่าหัว การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นไม้ประดับ ว่านชนิดนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า ว่านกวักโพธิ์ทอง แต่แตกต่างกันที่แผ่นใบค่อนข้างกลม โคนใบกลมเว้าเล็กน้อย เส้นใบมีสีแดง โดยเชื่อว่าหากปลูกแล้วจะเป็นศิริมงคล เมตตามหานิยม และช่วยให้ค้าขายดี หากปลูกดีๆ จะมีโชคลาภหลั่งไหลมามิได้ขาด