CHIC 39 GARDEN CAFE MAERIM ร้านอาหารเปิดรับวิวธรรมชาติกลางสวนดอกไม้

Chic 39 Garden Cafe Maerim จากที่เคยเป็นแลนด์มาร์กให้กับการท่องเที่ยวเชียงใหม่มาสักพักใหญ่ ก็ถึงเวลาที่ Chic 39 จะต้องปรับเปลี่ยนงานดีไซน์ให้ตอบรับการไลฟ์สไตล์ และขยายการให้บริการมากขึ้น โดยครอบคลุมเนื้อที่อาคารทั้ง 3 ชั้น รวมทั้งสร้างบรรยากาศการนั่งรับประทานอาหารที่หลากหลาย จากบริบทที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ ทอดสายตาออกไปมองเห็นทิวทัศน์สวยงามรอบทิศ สถาปนิกได้เลือกใช้แนวคิดของเรือนเพาะชำมาเป็นแกนหลักของการออกแบบ Chic 39 Garden Cafe Maerim เปรียบเทียบว่าชีวิตมนุษย์ก็เหมือนกับต้นไม้ที่มีความต้องการและความชื่นชอบแสงแดด นำมาสู่การจัดสรรพื้นที่สำหรับนั่งแฮ้งเอ๊าต์ที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบตามความต้องการ ทั้งมุมที่เปิดรับวิวธรรมชาติ  มีความเป็นส่วนตัว เเบบเอ๊าต์ดอร์เเละกึ่งเอ๊าต์ดอร์ หรือจะเป็นพื้นที่นั่งแบบเป็นทางการ โดยพื้นที่ทุกส่วนจะมีต้นไม้เข้ามาเป็นองค์ประกอบที่สัมพันธ์กับโครงสร้างในแต่ละจุด ช่วยสร้างความร่มรื่นเน้นคอนเซ็ปต์ของเรือนเพาะชำได้อย่างชัดเจน อีกจุดหนึ่งคือการเลือกใช้วัสดุที่หาได้ง่ายสั่งจากแหล่งผู้ผลิตในท้องถิ่นโดยตรง มีกิมมิกด้วยการนำชื่อเรียกดอกไม้มาใช้กับลวดลายกราฟิกของวัสดุเเต่ละชนิด เช่น กระลกลายดอกพิกุล อิฐลายดอกมะลิ เเละบล็อกช่องลมลายดอกไม้ ซึ่งส่วนประกอบของงานกราฟิกที่สัมผัสได้ด้วยตาเหล่านี้ ได้เข้ามาช่วยเติมคอนเซ็ปต์ความเป็นสวนดอกไม้ได้อย่างชัดเจนเเละเป็นรูปธรรม Idea to Steal ใช้ลวดลายกราฟิกจากวัสดุชนิดต่าง ๆ มาทำหน้าที่แบ่งกั้นสเปซ เป็นอีกไอเดียหนึ่งที่ทั้งสวยเเละน่าสนใจ  หรือจะใช้สร้างเป็นกรอบช่วยเสริมงานดีไซน์ส่วนอื่นให้เด่นชัดขึ้นก็ได้ ที่ตั้ง 240 หมู่4 ตำบลเหมืองแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เวลาทำการ เปิดทุกวัน […]

YUZU OMAKASE ร้านโอมากาเสะใจกลางสยามสแควร์ ดีทั้งเมนูและบริการระดับพรีเมียม

Yuzu Omakase ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบ ‘โอมากาเสะ’ หรือ Chef’s Table ใจกลางกรุง ตั้งอยู่บนชั้นสองของอาคารพาณิชย์ในสยามสแควร์ซอย 3 ที่ได้รับการแปลงโฉมจากร้านหนังสือเก่า ให้กลายเป็นร้านอาหารบรรยากาศเรียบง่าย ช่วยขับเน้นทุกเมนูสุดพิเศษให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ประตูทางเข้ารูปวงกลมสะท้อนกลิ่นอายวัฒนธรรมตะวันออก เมื่อเข้าไปภายในจะพบกับต้นส้มยูซุตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง โอบล้อมด้วยเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่รูปตัวยู (U) เนื่องจากเป็นทั้งพื้นที่ครัวเปิดของเชฟและเป็นพื้นที่นั่งรับประทานอาหาร ดังนั้นพื้นที่เคาน์เตอร์จึงได้รับการออกแบบให้เอื้อต่อการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างเชฟกับลูกค้าเป็นพิเศษ เมนูอาหารญี่ปุ่นของที่นี่ได้รับการสร้างสรรค์ให้เกิดการผสมผสานระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคต รวมถึงมีการใช้วัตถุดิบจากทั่วทุกมุมโลกตามฤดูกาล ดังนั้นการออกแบบพื้นที่ภายในร้านจึงมีการลดทอนให้ดูมีความร่วมสมัย กลมกลืน เรียบง่ายมากกว่าจะมีลักษณะของความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิม ขณะเดียวกันก็ไม่โดดเด่นเสียจนข่มความงามละเมียดละไมของอาหารแต่ละจาน วัสดุเน้นใช้ไม้สีอ่อน ตกแต่งด้วยสีทองเพิ่มมิติให้กับสเปซ รวมถึงมีการจัดแสงสว่างช่วยขับเน้นอาหารบนโต๊ะให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น IDEA TO STEAL ออกแบบเคาน์เตอร์ให้ตอบโจทย์การใช้งาน โดยความกว้างของเคาน์เตอร์ถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือพื้นที่ทำอาหารประเภทซูชิ ส่วนที่สองคือพื้นที่ยกระดับสำหรับการเสิร์ฟ และส่วนสุดท้ายคือโต๊ะสำหรับรับประทานอาหารของลูกค้า โดยความสูงอาจเป็นแบบเคาน์เตอร์บาร์ หรือความสูงแบบโต๊ะอาหารปกติทั่วไป ข้อมูล เจ้าของ : คุณปรมินทร์ เปรื่องเมธางกูร ที่ตั้ง258/9-10 สยามสแควร์ซอย 3 ถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เวลาทำการทุกวัน […]

Maré Seafood รวมวัตถุดิบทะเลสดใหม่จากทั่วทุกมุมโลกมาไว้ริมแม่น้ำปิง

ร้านซีฟู้ด ริมแม่น้ำปิงในจังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Seafood Bar และ Open Kitchen ในบรรยากาศ Midnight ชวนนึกถึงชาวประมงไปหาปลายามค่ำคืน

“ท่าอรุณ” ร้านอาหารไทยร่วมสมัย ในบรรยากาสย้อนยุคสุดคลาสซี่

“ท่าอรุณ” ร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้คุณได้มาดินเนอร์ในบรรยากาศโรแมนติก ที่สามารถมองเห็นวิวพระปรางค์วัดอรุณฯได้อย่างชัดเจน จัดเสิร์ฟเมนูอาหารไทยที่ผสมผสานตะวันตกอย่างร่วมสมัย เคล้าไปกับเครื่องดื่มที่นำวัตถุดิบอย่างไทยมาเป็นส่วนผสม ด้วยตำแหน่งที่ตั้งริมแม่น้ำเจ้าพระยาทำให้มองเห็นพระปรางค์วัดอรุณฯ ได้อย่างชัดเจน เจ้าของร้านจึงตั้งใจตั้งชื่อร้านว่า “ท่าอรุณ” ตามทำเลอันโดดเด่น เมื่อประกอบกับความชอบในงานวินเทจยุครัชกาลที่ 4 – 5 ทางร้านจึงได้ออกแบบตกแต่งร้านโดยใช้แนวคิด “เห่อฝรั่ง” ตามยุคสมัยที่สยามได้เคยเป็นเมืองท่าสำคัญในการค้าขาย เเละรับอิทธิพลวัฒนธรรมเเบบยุโรปมาใช้ในการพัฒนาประเทศ เพื่อให้ทัดเทียบกับนานาอารยประเทศในเวลานั้น ภายนอกร้านออกแบบโดยใช้โครงสร้างเหล็กสีดำผสมกับไม้ประกอบกับกระจก เพื่อให้มองเห็นภายในร้านได้อย่างชัดเจน โลโก้ออกแบบโดยอ้างอิงจากงานกราฟิกยุคโบราณ ขณะที่บรรยากาศด้านในดูวิจิตรหรูหราอย่างกับบ้านเรือนในยุโรป แต่แอบเเทรกกลิ่นอายสไตล์ไทย จีน โปรตุเกส และฝรั่งเศส ไว้ในส่วนของการตกแต่งต่าง ๆ เช่น การก่อผนังอิฐเปลือยเป็นดั่งกำแพง เข้ากันได้ดีกับผนังด้านหนึ่งซึ่งออกแบบเลียนแบบตู้ยาจีนสูงจากพื้นจรดเพดาน เพดานติดโคมไฟระย้าสไตล์ยุโรปขับให้ห้องสีมืดทึมดูสว่างและอ่อนหวานขึ้น ทั้งนี้ยังตกแต่งฝ้าเพดานด้วยกรอบกระจกเพิ่มลูกเล่นและสร้างมิติให้ร้านดูสูงโปร่ง ส่วนอาหารที่นี่เน้นเสิร์ฟอาหารไทยแต่ปรับรูปลักษณ์ให้ดูสวยทันสมัยมากขึ้น สมกับการตั้งใจให้บรรยากาศเป็นแบบย้อนยุคแต่คลาสซี่แบบ “เห่อฝรั่ง” อย่างแท้จริง ซึ่งนอกจากจะได้ดื่มด่ำรสชาติอาหาร และฟุ้งไปกับกลิ่นอายความศิวิไลซ์ที่เหมือนย้อนเวลากลับไปในอดีต สมกับที่ตั้งซึ่งอยู่ในย่านประวัติศาสตร์ริมแม่น้ำแล้ว ยังจะได้สัมผัสชีวิตริมน้ำและชุมชนเก่าแก่รอบเกาะรัตนโกสินทร์อีกด้วย ที่ตั้ง : 392/61 ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ เวลาทำการ : วันจันทร์-พฤหัสบดี 11.30 น. […]

DTF : THE FAMILY HUNGRY PLACE ร้านอาหารจีนแบบฟิวชั่น จำลองกลิ่นอายยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

ร้านอาหารจีนแบบฟิวชั่นที่มีกลิ่นอายย้อนยุคแห่งนี้มีชื่อว่า DTF : THE FAMILY HUNGRY PLACE ดูโดดเด่นกับการจำลองภาพบรรยากาศของร้านให้เหมือนอยู่ในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง พร้อมมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ ที่รายล้อมไปด้วยของสะสมสไตล์วินเทจ และโครงสร้างอาคารเก่าที่ยังคงเก็บรักษาองค์ประกอบที่มีเสน่ห์แห่งวันวานเอาไว้ จากชื่อร้านที่เห็นนั้น มีชื่อย่อจากอักษรจีน 3 คำ คือ DAO刀 TU 涂 และ FOOK 福 ซึ่งหมายถึง 3 สิ่ง คือ กระบี่ (หรือนัยหนึ่งคืออาวุธในการทำอาหาร) การประยุกต์แนวทางของศิลปะและการภาวนาถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และรวมไปถึงเป็นการย่อคำแบบภาษาอังกฤษจากคำว่า “Down To Food” ที่ต้องการสื่อถึงภาพลักษณ์อันถ่อมตน และการใส่ใจกับคุณภาพอาหารในบรรยากาศแบบเอเชีย DTF : THE FAMILY HUNGRY PLACE เบื้องต้นอาคารแห่งนี้เป็นบ้านเดิมของครอบครัวเจ้าของร้าน ถูกบูรณะโดยสร้างภาพลักษณ์ของร้านให้ย้อนยุค เป็นดั่งภาพของร้านอาหารในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง โดยโครงสร้างทั้งหมดเกิดจากการปล่อยโครงสร้าง ผนัง เพดาน พื้น ให้เป็นของเดิมของอาคารนี้ทั้งหมด เพิ่มเติมเพียงเคาน์เตอร์บาร์หน้าบันไดซึ่งออกแบบใหม่ให้เหมาะกับการใช้งาน โดยก่อล้อมเสาเดิมและกรุกระเบื้องสีเขียว ซึ่งก็เป็นกระเบื้องเดิมที่พบอยู่กับตัวบ้านเช่นกัน ด้านหน้าร้านถูกทุบผนังใส่โครงสร้างเหล็กติดกระจกบานใหญ่ แต่บังสายตาเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยรางม่านสไตล์ย้อนยุค […]

“ตำทองหล่อ” แซ่บนัวในบรรยากาศอีสานโมเดิร์น

หลังจากประสบความสำเร็จมาแล้วกับสาขาแรก “ตำทองหล่อ”  จึงตัดสินใจปักธงลงบนพื้นที่ผืนใหม่ เพื่อรองรับลูกค้าผู้ติดใจรสชาติแบบดั้งเดิม กันที่โครงการสินธรวิลเลจ ซอยหลังสวน โดยยังคงคอนเซ็ปต์เมนูอาหารอีสานรสเเซ่บเช่นเคย ภายใต้การออกแบบตกแต่งร้านสไตล์อีสานเเบบโมเดิร์น ตำทองหล่อ หยิบเมนูสุดฮิตอย่าง “ส้มตำ” ที่เต็มไปด้วยบรรดาสมุนไพรและผักพื้นบ้าน สีสันน่ารับประทาน มาเป็นธีมสีในการตกแต่งร้าน อาทิ การจับคู่สีอย่างสีเขียวเเละน้ำตาล เริ่มจากพื้นที่ฝ้าเพดานที่พลิกเเพลงเส้นสายมาจากหวดนึ่งข้าว โดยนำมาออกแบบผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ด้านในเป็นโครงสร้างเหล็ก ก่อนจะนำหวายเทียมที่จักสานเป็นลวดลายตามที่ออกแบบไว้มาติดตั้งทับลงไป สำหรับบอกอาณาเขตตำเเหน่งโต๊ะรับประทานอาหารเเต่ละยูนิตให้เกิดจังหวะที่สม่ำเสมอ ขณะที่พื้นเลือกใช้อิฐดินเผาที่ผลิตมาจากดินชนิดเดียวกันกับที่ใช้ทำครกตำส้มตำ นำมาปูลวดลายเเบบก้างปลา เข้ากันดีกับเฟอร์นิเจอร์หวายที่จักสานอย่างประณีตเเละมีแพตเทิร์นเฉพาะตัว อีกทั้งยังเลือกกระเบื้องทำมือจากจังหวัดลำปางมากรุลงบนผนัง เเละโคมไฟสั่งทำพิเศษจากหวายฝีมือของชาวบ้านพนัสนิยม จังหวัดชลบุรี  เช่นเดียวกับความต้องการสร้างบรรยากาศภายในร้านให้เป็นหนึ่งเดียว ด้วยการเลือกใช้กระบอกไม้ไผ่ธรรมชาติมาปิดเสาอาคาร ทั้งยังนำไปหุ้มวงกบหน้าต่างทุกบาน เพื่อให้ทุกรายละเอียดแสดงถึงความเป็นอีสานอย่างแท้จริง   หากเปรียบ “ตำทองหล่อ” เป็นอาหาร ก็คงเป็นอาหารอีสานที่ยังคงความแซ่บและนัวได้อย่างไม่ขาดไม่เกิน ที่เพิ่มเติมคือการใช้งานออกแบบสื่อให้เห็นถึงเสน่ห์ของแก่นความเป็นอาหารอีสาน  ผ่านการเลือกใช้สีสันและวัสดุท้องถิ่นที่คุ้นเคย จนเกิดเป็นร้านอาหารที่พร้อมจะมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารอีสาน ในบรรยากาศที่ทันสมัยเเละดูแปลกใหม่ขึ้นกว่าเดิม ข้อมูล เจ้าของ : คุณพิมพ์ชนก (พลางกูร) สุภัทรพันธุ์ ออกแบบ :  Context Design Studio ภาพ : Skyground Architectural […]

ARROM ORCHID ชมกล้วยไม้ใต้สถาปัตยกรรมไม้ไผ่

จาก “สวนบัวแม่สา” แหล่งท่องเที่ยวสวนกล้วยไม้ขนาดใหญ่บนถนนสายแม่ริม-สะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ตอนนี้ได้รับการแปลงโฉมให้กลายเป็นร้านอาหารและคาเฟ่ในสวนกล้วยไม้ในชื่อ ARROM ORCHID (อารมณ์ ออร์คิด) เชียงใหม่นอกจากมีมนต์เสน่ห์ด้านวัฒนธรรม ขนมธรรมเนียมประเพณี และธรรมชาติสวย ๆ แล้ว อีกสิ่งที่น่าจดจำคืองานหัตถกรรม หรืองานคราฟต์ ที่ละเอียดลออ ผ่านสองมือของสล่า (ช่างพื้นบ้าน) โดยเฉพาะงานจักสานและไม้ไผ่ เมื่อถึงคราวปรับโฉมสวนบัวแม่สา มาเป็น “ARROM ORCHID” ไอเดียการรังสรรค์ความงามให้แก่ของพื้นที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอย่างกล้วยไม้หลากหลายสายพันธุ์ พร้อมการนำเสนอตนเองเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเลือกใช้ไม้ไผ่เพื่อทำเป็นโครงสร้าง รวมกับความชำนาญในงานไม้ไผ่ของช่างท้องถิ่น เกิดโปรเจ็กต์งานออกแบบที่สวยงามสื่อถึงธรรมชาติอย่างกลมกลืน การออกแบบโดยรวมเป็นวางผังโดยได้คงโครงสร้างหลักที่เป็นเหล็กกาวาไนซ์เดิมไว้ และใช้วัสดุ “ไม้ไผ่” ซึ่งให้ความรู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติ เเละมีน้ำหนักเบา เข้าไปติดตั้งร่วมกับโครงสร้างเดิมสำหรับตกแต่งในส่วนของฟาซาด ฝ้าเพดาน เเละผนัง โดยใช้ไม้ไผ่หลากหลายขนาดนำมาประกอบกันหลายรูปแบบ จนเกิดเเพตเทิร์นเเละเส้นสายเเสงเงาที่สวยงาม ยามเมื่อเเสงลอดผ่านลงมายังพื้นที่ด้านใน  การใช้ไม้ไผ่หลากหลายขนาดและรูปทรงมาประกอบการตกแต่งทั้งภายในร้านอาหารและภายนอกซึ่งเป็นสวนกล้วยไม้ขนาดใหญ่นั้น ทำให้ภาพของไม้ไผ่ดูทันสมัยขึ้น ทั้งจากเส้นสายลวดลายกราฟิกและแสงเงาที่ส่องผ่านเข้ามา อีกทั้งยังทำหน้าที่ช่วยกรองเเสง ดีทั้งกับลูกค้าผู้มาใช้บริการ รวมถึงบรรดากล้วยไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่อยู่ในโรงเพาะชำ ซึ่งสถาปนิกได้จัดวางผังทางเดินใหม่ให้ลดเลี้ยวไปมา จึงสามารถเดินชมกล้วยไม้ที่ออกดอกบานสะพรั่งได้อย่างใกล้ชิด  เรียกว่ามาถึงที่นี่เเล้วได้ชมทั้งสวนกล้วยไม้ และรับประทานอาหารรสชาติอร่อยไปพร้อมกัน ครบจบในที่เดียว ที่ตั้ง 332 หมู่ที่ 1 […]

room x CHATA เมนูน่าชิม กาแฟน่าจิบ กับคาเฟ่สุดเท่ที่บูธรูม

พื้นที่ room Showcase ในงานบ้านและสวนแฟร์ 2020 ชวนทุกคนมาเปิดประสบการณ์ใหม่กับการหลอมรวมความอร่อยของคาเฟ่สองบรรยากาศภายใต้แบรนด์ชะตา-CHATA ไว้ในบูธรูม  ทั้งคาเฟ่ดังอย่าง CHATA Specialty Coffee คาเฟ่เรือนกระจกสุดเท่ที่ซ่อนตัวอยู่ในบูทีคโฮเทลสไตล์โคโลเนียลย่านเยาวราช และCHATA Thammachart ร้านอาหารในศาลาไม้ไผ่กลางทุ่งนาเขียวชอุ่ม งานนี้จึงครบครันด้วยกาแฟดริปกลิ่นกรุ่น เครื่องดื่มสุดรีเฟรช และเมนูอาหารทานง่าย COFFEE กาแฟดริป – Signature Blend 140 บาท / Costarica 200 บาท  / Sakura 200 บาท Cold Brew Aroon (ใส่นม) 135 บาท (กาแฟสกัดเย็น เมล็ดไทย/ลาว/บราซิล) Cold brew Rattikal (ไม่ใส่นม) 135 บาท (กาแฟสกัดเย็น เมล็ดไทย/ลาว/บราซิล/เปรู/เอธิโอเปีย) BEVERAGE เอเมอรัล โซดา 105 บาท บลูเบอรรี่โซดา 90 บาท โกโก้เย็น 105 […]

ชามแกง สร้างประสบการณ์ในการกิน “แกง” ผ่านการตกแต่งร้านแบบสตรีทฟู้ด

ตลาดน้อย ย่านเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องและอาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นทั้งที่อยู่อาศัยและร้านค้าที่ยังคงเก็บกลิ่นอายวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้อย่างเข้มข้น เเละหนึ่งในนั้นคือ “ชามแกง” ร้านอาหารเจริญกรุง ที่ซ่อนตัวอย่างเงียบ ๆ อยู่ภายในซอยนครเกษม 5 ประหนึ่งเป็นฮิดเด้นเพลสกลางกรุง ถ้าหากคุณอยากลิ้มลองต้องตั้งใจเดินตามหากันหน่อย เพราะร้านนี้ไม่ได้มีป้ายหน้าร้านอย่างที่อื่น ๆ เป็นหนึ่งในความตั้งใจของผู้ออกแบบนั่นเอง เมื่อก้าวผ่านบานประตูสีแดงของ ร้านอาหารเจริญกรุง แห่งนี้ คุณจะได้สัมผัสกับกลิ่นเครื่องแกงหอมเย้ายวน พร้อมเสียงของการเตรียมวัตถุดิบจากเชฟทั้ง 3 ได้เเก่ คุณจีราวิชช์ มีแสงนิลวีรกุล คุณอรุษ เลอเลิศกุล และคุณอัจฉราภรณ์ เกียรติธนวัฒน์  ผู้หยิบวัตถุดิบง่าย ๆ ที่มีอยู่แล้วมาพลิกแพลงใหม่ ผสมผสานกับเทคนิคการปรุงอาหารชั้นเลิศ จนเกิดเป็นเมนู  “แกง” แบบไทย ที่สร้างประสบการณ์การลิ้มรสที่พิเศษยิ่งขึ้นกว่าเดิม ภายในร้านขนาดหนึ่งคูหานี้ มีเพียงโต๊ะสังกะสีวางเรียงต่อกัน พร้อมสตูลบาร์จำนวน 16 ที่นั่ง ด้านในสุดปลายสายตาคือครัวโชว์ขนาดย่อมที่ออกแบบมาสำหรับเชฟ 3 คนแบบพอดี ๆ ภายใต้บรรยากาศแบบร้านอาหารกึ่งบาร์ ที่ให้ความรู้สึกถึงการผสมผสานระหว่างสตรีทฟู้ดกับเชฟเทเบิ้ล “เราพยายามตีความหมายของแกง ซึ่งแกงที่เชฟเลือกทำเป็นแกงที่มีอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน วัตถุดิบก็สามารถหาได้ทั่วไป มีความเป็นโลคอล งานอินทีเรียร์เลยอยากทำเพื่อสะท้อนถึงอาหารที่มีความติดดิน” – คุณศิรดา เกื้อวิบูลย์วณิชย์  […]

BAR 335 บาร์ลับสไตล์ญี่ปุ่นลุคโมเดิร์น ในบรรยากาศมืดสลัวใต้แสงเทียน

บาร์ลับ ย่านพร้อมพงษ์แห่งนี้ แม้คุณจะเปิดแมพมาเเล้ว เเต่ก็อาจหาไม่เจอได้ในทันที เพราะบาร์แห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ใต้อาคาร Metropole Residence ที่ต้องผ่านประตูหนีไฟเข้าไปอีกชั้น เเละเมื่อผ่านเข้ามาแล้วกลับยิ่งสร้างความประหลาดใจขึ้นกว่าเดิม กับการหาทางเข้าจากบานประตูที่ไร้มือจับ! บนระนาบผนังนอกร้านที่แทบจะปิดทึบ มีช่องเปิดระดับสายตาเพียงเล็กน้อยที่พอจะให้คุณมองเห็นความเคลื่อนไหวในร้าน ภายใต้บรรยากาศแบบลึกลับกระตุกต่อมความอยากรู้จนต้องผลักประตูเข้าไป ก่อนจะเจอกับ บาร์ลับ สไตล์ญี่ปุ่นลุคโมเดิร์นมืดสลัว ตามเเบบฉบับที่ คุณเป้–ธรณ์ธัญย์ ศิริวิทยเจริญ ผู้ควบตำแหน่งเจ้าของร้านและบาร์เทนเดอร์ชื่นชอบ โดยคุณเป้ได้แรงบันดาลใจการตั้งชื่อร้านมาจากเพลง room 335 ของ Larry Carlton นักกีต้าร์ชาวอเมริกัน ซึ่งเขาถือเป็นเเฟนตัวยงมาตั้งแต่สมัยเรียนดนตรี จนถึงขั้นนำชื่อเพลงมาสักลงบนแขนเละตั้งเป็นชื่อร้านเลยทีเดียว ขณะที่การตกแต่งมีไอเดียเริ่มต้นมาจากเมนูเครื่องดื่มแบบออริจินัล ซึ่งมีความพอดี ไม่มาก ไม่น้อย ไม่ซับซ้อน เพราะคุณเป้รับหน้าที่ดูแลทุกตำแหน่งในร้านเอง นำมาสู่การออกแบบเคาน์เตอร์บาร์ขนาดใหญ่ไว้กลางร้าน ให้สามารถดูแลลูกค้าได้อย่างทั่วถึง ตัวเคาน์เตอร์กรุไม้สีเข้มตัดกับชั้นวางด้านหลังที่กรุด้วยหินกาบ เผยความเป็นธรรมชาติที่ปรุงแต่งเพียงเล็กน้อย แล้วเสริมความหรูหรามีระดับด้วยหินอ่อนสีดำกับพื้นกระเบื้องลายไม้ ภายในใช้ประโยชน์จากพื้นที่รูปตัวแอล (L) แบ่งส่วนหนึ่งเป็นมุมไพรเวต และอีกฝั่งเป็นที่นั่งแบบสองคนใต้แสงเทียน จากบรรยากาศที่มืดสลัว ทำให้ลูกค้าโฟกัสอยู่เเต่กับบทสนทนาของอีกฝ่ายเงียบ ๆ ท่ามกลางเสียงเพลงฟังสบายไปจนถึงคึกครื้น โดยผู้รับบทเป็นนักเปิดแผ่นเสียงก็ไม่ใช่ใครอื่น หลังเสร็จภารกิจจากบาร์เทนเดอร์คุณเป้จะหันมาเปิดเพลงเพราะ ๆ ขับกล่อมทุกคนให้อินไปกับเสียงเพลงเเละเครื่องดื่มในมือ ที่ตั้ง อาคาร Metropole Residence […]

BABY BAR BANGKOK บาร์สีชมพูย่านอารีย์ในลุคหญิงสาวขี้เล่น ซ่อนไว้ด้วยความเซ็กซี่

จากความตั้งใจให้พื้นที่มีส่วนผสมของความเป็นผู้หญิงกับผู้ชาย บูทีคโฮเทล CRAFTSMAN BANGKOK ที่เป็นตัวแทนของชายหนุ่มรุ่นใหม่จึงอบอวลไปด้วยความมาสคิวลีนลุคเข้มขรึม เเต่แอบซ่อน Baby Bar บาร์อารีย์ ในลุคหญิงสาวขี้เล่น ดูสนุกสนาน และแฝงความเซ็กซี่ไว้ภายใน จนออกมาเป็นความคอนทราสต์ที่ลงตัว โดยคำว่า Baby ในภาษาอังกฤษสามารถแปลได้ว่า เด็กไร้เดียงสา ที่มีความน่ารัก สดใส หรือจะแปลว่า ที่รัก ก็ได้ ตอนกลางวันที่นี่จึงมีฟังก์ชันเป็นคาเฟ่ที่มีลุคสดใส ซุกซน เเละพร้อมจะแปลงร่างเป็น บาร์อารีย์ สุดเซ็กซี่ในเวลากลางคืน มู้ดแอนด์โทนของร้านได้แรงบันดาลใจมาจากโทนสีในหนังของผู้กำกับชื่อดัง Wes Anderson โดยหยิบสีชมพูมาแต่งแต้มในทุก ๆ องค์ประกอบ แล้วตัดเลี่ยนด้วยชุดเฟอร์นิเจอร์เหล็ก และพื้นปูนเปลือย ที่แอบหยอดสีพีชลงไปเพื่อคุมโทน แบ่งการใช้งานออกเป็นพื้นที่ภายใน พื้นที่กึ่งเอ๊าต์ดอร์ และพื้นที่แบบ Sunken ริมสระว่ายน้ำ มีบาร์สีชมพูทำหน้าที่เป็นพระเอกเชื่อมพื้นที่ทั้งหมดเข้าด้วยกัน บริเวณบาร์มีประตูเชื่อมให้บาร์เทนเดอร์สามารถเดินดูแลพื้นที่ได้อย่างทั่วถึงโดยไม่ต้องเดินอ้อมออกจากเคาน์เตอร์ หากคุณมาเป็นกลุ่มและต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถปรับพื้นที่ภายในได้ด้วยการรูดม่านที่เตรียมไว้ เพื่อเติมเต็มคาแร็กเตอร์ของเด็กสาวจึงแทรกกิมมิกต่าง ๆ ที่สื่อถึงตัวตนความเป็นเด็ก ไม่ว่าจะเป็นบานประตูรูปช็อกโกแลตบาร์ ของเล่นบล็อกไม้ในส่วนของเคาน์เตอร์ และโมบายกล่อมเด็กที่ดัดแปลงมาเป็นโคมไฟขนาดใหญ่ เสริมด้วยการซ่อนไฟให้ดูน่าค้นหาปนเซ็กซี่เบา ๆ ที่นี่จัดเสิร์ฟอาหารแบบ All Day […]

ฟังเพลงยุค90’s เคล้าบรรยากาศคลาสสิกผสมสีสันสุดป็อปที่ THE CHATROOMS

เมื่อกระเเส90’s หวนคืนกลับมาให้หายคิดถึง หลายคนเเค่ได้ฟังเพลงสมัยที่ยังเป็นเด็กหรือวัยรุ่นในยุคนั้น ภาพที่เหมือนผ่านมานานเเล้วก็กลับลอยฟุ้งขึ้นมาใหม่อีกครั้ง นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของบาร์ที่มีชื่อว่า The Chatrooms เด่นด้วยโลโก้เเป้นหมุนโทรศัพท์เเบบวงกลมเเละสีสันทีนป็อปสุดจี๊ดจ๊าด หลังจากที่ The Cassette Music Bar ซึ่งเป็นผับที่อยู่ด้านล่างของโครงการเวิ้งโบราณย่านเอกมัยซอย 10 สามารถจับกลุ่มลูกค้าที่หลงใหลดนตรีเต้นรำยุค90-2000 เเต่ด้วยลักษณะร้านที่เป็นผับไม่เหมาะมานั่งชิล ๆ คุณภา- พิณภัสร์ สิริอัครเศรษฐ ผู้ก่อตั้ง The Cassette Music Bar จึงเกิดไอเดียทำร้าน The Chatrooms ขึ้นมา เพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการฟังเพลงสบาย ๆ ความหมายแบบ Positive ยุค 90’s พร้อมกับจัดเสิร์ฟเมนูอาหารรับประทานง่าย เเละค็อกเทลสูตรซิกเนเจอร์ เคล้าเสียงพูคคุยเฮฮาไปกับกลุ่มเพื่อนคอเดียวกัน สมกับชื่อร้านซึ่งมีที่มาจาก “chat room” โปรเเกรมห้องสนทนาในตำนานก่อนสมาร์ทโฟนจะเฟื่องฟู จากชื่อร้าน เเล้วอะไรกันละที่จะสื่อถึงการพูดคุยที่จับต้องได้ เจ้าของเเละทีมออกแบบจึงนึกถึงโทรศัพท์ โดยเฉพาะโทรศัพท์เเอนะล็อกเเบบแป้นหมุม นำมาสู่กิมมิกที่ใช้ตกแต่งตามส่วนต่าง ๆ ของร้านให้ดูโดดเด่น ตั้งเเต่ประตูทางเข้า เรื่อยมาจนถึงพื้นที่ด้านใน ท่ามกลางสีสันที่หลากหลายสดใส ภายใต้ธีมการตกแต่งสไตล์คลาสสิกที่มีความป็อปเข้าไปผสม มัดรวมไอเดียสนุก […]