© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.
สาธุ แบรนด์เสื้อผ้าปลอดสารเคมี ทักทอจากใยธรรมชาติ ฝ้าย และ กัญชง ย้อมสีธรรมชาติจากเปลือกไม้ ทอมือและตัดเย็บโดยชาวเขา สู่การสวมใส่ในรูปแบบศิลปะ
บ้านบางหมาก เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ อยู่ห่างจากตัวเมืองจังหวัดชุมพรเพียง 3 กิโลเมตร เเต่รายล้อมด้วยธรรมชาติซึ่งเเทบไม่มีเค้าของชุมชนเมืองให้เราเห็นเลยสักนิด เงาต้นปาล์มเรียงรายเป็นแถวยาวตลอดเเนวสวน กิ่งมะพร้าวโบกปลิวตามแรงลมพัดเป็นระยะ บ้านแต่ละหลังตั้งอยู่ห่างกันอย่างสันโดษ ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้ดูคล้ายกับซุกตัวอยู่อย่างเงียบ ๆ ภายใต้สวนบรรยากาศเขียวครึ้มขนาดใหญ่ ตัดผ่านด้วยถนนคอนกรีตเล็ก ๆ สองข้างทางเราจะได้ยินเสียงร้องของลิงกังสอดเเทรกสลับกับเสียงรถยนต์เป็นระยะ บรรยากาศโดยรวมของชุมชนบ้านบางหมากจึงยังคงความเรียบง่ายเเละเนิบช้า เป็นเสน่ห์ให้คนเมืองหลวงโหยหา เเละอยาก(กลับ)มาสัมผัส เช่นเดียวกับ คุณคม ศรีราช อดีตวิศวกรหนุ่มจากเมืองกรุงฯ ที่ย้อนกลับมายังที่นี่อีกครั้งในวัยสามสิบต้น ๆ ซึ่งกำลังก้าวหน้าในหน้าที่การงานที่ร่ำเรียนมา ด้วยใจที่มองเห็นว่าบ้านเกิดของเขานั้นมีเสน่ห์ไม่ต่างจากถิ่นฐานอื่นที่เคยไปพบเห็นเเละท่องเที่ยว ไม่ใช่เรื่องเเปลกหากเราจะชื่นชมวัฒนธรรมเเละธรรมชาติในดินเเดนอื่น เเต่จะมีสักกี่คนที่มองย้อนกลับมามองบ้านเกิดของตนเอง เเล้วพัฒนาให้ที่นั่นเกิดความพิเศษ เชื้อเชิญให้ผู้คนจากต่างถิ่นอยากเข้ามาสัมผัส เเละเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่น่าประทับใจกลับไปดูบ้าง ดังนั้นเมื่อตั้งใจ “กลับบ้าน” ภารกิจแรกของวิศวกรหนุ่มผู้นี้ คือการเปลี่ยนสวนมะพร้าวบนที่ดินของครอบครัวให้เป็นที่พักของนักท่องเที่ยว โดยมีจุดขายคือวิถีชีวิตเกษตรกรรมของคนในชุมชนบางหมาก พร้อมกับคำนิยามสั้น ๆ ที่ทุกคนจะได้รับคือ “Local Experiences” เรียกว่าใครที่มาเยือนจะต้องได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างกลับไป และทั้งหมดเป็นต้นกำเนิดของ วิลล่า วาริช รีสอร์ทเล็ก ๆ แห่งนี้ “ตอนที่บอกครอบครัวว่าจะทำโรงแรมเล็ก ๆ และทำที่นี่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ครอบครัวก็คัดค้านครับ ไม่มีใครเชื่อว่าเราจะทำได้ มองไม่ออกว่าจะไปทิศทางไหน แต่ผมก็ยืนยันที่จะทำ เพราะมองเห็นว่าทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชนนั้นเป็นจุดขายที่ไม่เหมือนที่อื่น […]
ระยะทาง 67 กิโลเมตร จากตัวอำเภอฯ เมือง จังหวัดชุมพร สู่จุดหมายคือ บ้านธรรมเจริญ ในอำเภอท่าแซะ ไม่อาจทำให้ใจเต้นรัว แรง และเร็วคล้ายไม่เป็นจังหวะ ได้เท่ากับระยะทางอีก 10 กิโลเมตร จากเขตชุมชน ไปยัง “ไร่กาแฟ ที่ไม่มีชื่อ” ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาอันเป็นป่าต้นน้ำของแม่น้ำท่าตะเภา ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากด่านทัพต้นไทร (เนิน 491) พื้นที่รอยต่อระหว่างพรมแดนไทยและสหภาพเมียนมาร์ “ไร่กาแฟ ที่ไม่มีชื่อ” คืออีกหนึ่ง Hidden Place ของ จังหวัดชุมพร ที่คนต่างถิ่นไม่ค่อยมีใครได้ไปสัมผัสนัก เช่นเดียวกับคนในพื้นที่ที่ต่างปรารถนาอยากไปรู้จักไร่กาแฟแห่งนี้ด้วยตนเอง ทั้งจากชื่อเสียงเรียงนามของเจ้าของไร่ ซึ่งเป็นบุคคลกว้างขวางเเละเป็นผู้อยู่เบื้องหลังวงการกาแฟของจังหวัดชุมพร เเต่ด้วยระยะทางที่ไกล บวกกับถนนหนทางมีความยากลำบาก บนระดับความสูง 200 เมตร จากระดับน้ำทะเล ทำให้เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการเดินทางที่ได้ลงแรงลงใจไปนั้นจะคุ้มค่าหรือไม่ แต่แค่เพียงคำว่า “ไร่กาแฟออร์แกนิก บนแปลงปลูกที่อยู่สูงที่สุดของจังหวัดชุมพร” ได้กลายเป็นแม่เหล็ก เปลี่ยนให้ถนนลูกรังที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อที่ทั้งแคบเเละขรุขระ กับระยะทางอีกหลายกิโลเมตรที่แสนยาวนาน ไม่ได้ทำให้เราเกิดความวิตกกังวลเลยอย่างใด เพราะใจที่จดจ่อไปยังจุดหมายปลายทางนั้น ได้ช่วยให้เราลืมความเหน็ดเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง พานิช ชูสิทธิ์ คือเจ้าของไร่กาแฟที่ไม่มีชื่อแห่งนี้ เราเรียกเขาสั้น ๆ ว่าพี่พานิช เช่นเดียวกับที่คนในพื้นที่เรียกขาน […]
“วางอวนไว้ 3 วันแล้วมีปูติดมา 2 ตัว อวนตั้ง 10 ผืน 20 ผืนแต่แทบจะจับปูไม่ได้เลย” จากคำบอกเล่าของน้องอุ้ม สาวน้อยวัย 23 ปี ผู้ก่อตั้งชมรมอนุรักษ์พันธุ์ปู แห่งนี้
ก่อนจะมาเป็นนักเลี้ยงแคคตัสหรือ กระบองเพชร ที่มีผลงานเป็นหนังสือแคคตัสฉบับสมบูรณ์ ที่สุดในไทยด้วยความหนาเกือบ 400 หน้า คุณ โอห์ม-ภวพล ศุภนันทนานนท์ ยังเคยเป็นนักเลี้ยง แอฟริกันไวโอเลต กล้วยไม้ และสับปะรดสีมาก่อนด้วย เพราะชอบต้นไม้มาตั้งแต่เด็ก จึงหัดเลี้ยงต้นนั้นต้นนี้มาเรื่อย รู้ตัวอีกที โอห์ม-ภวพล ศุภนันทนานนท์ ก็หลงรักบรรดา กระบองเพชร และต้นไม้เหล่านี้ กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีผลงาน หนังสือไม้ประดับกับสำนักพิมพ์บ้านและสวนอยู่หลายเล่ม แม้จะบอกว่าทำเป็นงานอดิเรก แต่เมื่อ ได้ทำสิ่งที่หลงรักอย่างเต็มที่โดยไม่คิดถึงปลายทาง ผลลัพธ์มักเหนือความคาดหมายเสมอ เหมือนอย่างที่เขากำลังทำหนังสือไม้อวบน้ำที่สมบูรณ์แบบไม่แพ้หนังสือแคคตัสให้เหล่าสาวก ได้ติดตามกัน เพื่อนใหม่ที่รู้จักกันตอน ป.5 และกลายเป็นเพื่อนสนิทจนปัจจุบัน “จำได้ว่าตอนเด็กๆ เห็นคุณตาเลี้ยงต้นโป๊ยเซียนโดยที่ผมเป็นลูกมือคอยช่วยหยิบกระถางหยิบดินให้มาตลอด จนโต มาช่วงป. 5 -ป. 6 ก็เริ่มอยากปลูกต้นไม้เองบ้าง เลยลองซื้อต้น แอฟริกันไวโอเลตซึ่งเป็นที่นิยมในยุคนั้นมาเลี้ยงดู ผมชอบรูปทรงของต้นไม้และชอบสีของดอกไม้ที่ดูพิเศษ พอช่วงจังหวะที่ย้ายมาอยู่บ้านใหม่ซึ่งมีพื้นที่กว้างขึ้น ผมก็เริ่มซื้อกล้วยไม้มาเลี้ยงเพิ่มเติม” ช่วงแรกที่คุณโอห์มหัดเลี้ยงต้นไม้ยังไม่มีแหล่งข้อมูลแบ่งปันทางอินเทอร์เน็ต จึงต้องอาศัยการซักถามจากผู้ขายบ่อยๆ จน คุ้นเคยและได้ความรู้สะสมมาเรื่อยๆ ความสนุกในการเลี้ยงต้นไม้ จึงเริ่มขยายต่อไปถึงพรรณไม้อื่นอย่างสับปะรดสีและกระบองเพชร ทำให้ตัดสินใจเลิกเลี้ยงแอฟริกันไวโอเลตไป เพราะไม่มีเวลาเพียงพอที่จะดูแล “ผมว่าเป็นเรื่องธรรมดานะที่เวลาเราเลี้ยงอะไรแล้วมัน อาจไม่ประสบความสำเร็จ […]